ทริสเรทติ้งจัดอันดับเครดิตองค์กร “บ. บีเอสแอล ลีสซิ่ง” ที่ “BBB/Stable”

พุธ ๐๔ กุมภาพันธ์ ๒๐๐๙ ๐๘:๐๕
บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ประกาศอันดับเครดิตองค์กรให้แก่ บริษัท บีเอสแอล ลีสซิ่ง จำกัด ที่ระดับ “BBB” ด้วยแนวโน้ม “Stable” หรือ “คงที่” โดยอันดับเครดิตสะท้อนถึงคณะผู้บริหารที่มีประสบการณ์ การบริหารความเสี่ยงด้านเครดิตและมูลค่าคงเหลือของสินทรัพย์ให้เช่าในระดับที่ยอมรับได้ ตลอดจนการสนับสนุนด้านการเงินของผู้ถือหุ้นรายสำคัญของบริษัท อย่างไรก็ตาม จุดแข็งดังกล่าวถูกลดทอนบางส่วนเนื่องจากบริษัทไม่มีสาขาที่สามารถให้บริการลูกค้าซึ่งอยู่นอกบริเวณใจกลางกรุงเทพฯ ตลอดจนการมีเงินทุนที่ค่อนข้างต่ำเมื่อเทียบกับผู้ประกอบการรายอื่น และแนวโน้มที่จะได้รับการสนับสนุนด้านการเงินที่จำกัดจากธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ในขณะเดียวกัน สภาพแวดล้อมทางธุรกิจที่ไม่เอื้ออำนวยก็อาจจำกัดความสามารถในการทำกำไรของบริษัทในอนาคต

แนวโน้มอันดับเครดิต “Stable” หรือ “คงที่” สะท้อนถึงความคาดหมายของทริสเรทติ้งว่าบริษัทบีเอสแอล ลีสซิ่งจะยังคงได้รับการสนับสนุนทางการเงินอย่างต่อเนื่องจากผู้ถือหุ้นรายสำคัญ รวมทั้งสามารถรักษาฐานลูกค้าปัจจุบันและสร้างกำไรจากการขายสินทรัพย์ให้เช่าอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ แนวโน้มอันดับเครดิตยังสะท้อนความคาดหมายที่คณะผู้บริหารของบริษัทจะสามารถรักษาคุณภาพสินทรัพย์ที่ดีและคงต้นทุนทางการเงินเอาไว้ได้ในระดับที่ทริสเรทติ้งคาดเอาไว้แม้ภาวะเศรษฐกิจและสิ่งแวดล้อมทางธุรกิจจะไม่เอื้ออำนวยก็ตาม

ทริสเรทติ้งรายงานว่า บริษัทบีเอสแอล ลีสซิ่ง ก่อตั้งในปี 2528 โดยการร่วมทุนในสัดส่วน 50:50 ระหว่างธนาคารกรุงเทพและบริษัทในกลุ่มกับ Sumitomo Mitsui Banking Corporation ประเทศญี่ปุ่น (เดิมชื่อ Mitsui Taiyo Kobe Bank) เพื่อดำเนินธุรกิจลีสซิ่งและสินเชื่อเช่าซื้อ ต่อมาบริษัทได้เพิ่มการดำเนินธุรกิจแฟคตอริ่งในปี 2547 การปรับโครงสร้างภายในของกลุ่มธนาคารกรุงเทพในปี 2548 ทำให้ธนาคารไทยธนาคาร จำกัด (มหาชน) (บริษัทที่สืบต่อกิจการหลังปรับโครงสร้างหนี้) ถือหุ้นในบริษัทในสัดส่วน 10% ในขณะที่กลุ่มธนาคารกรุงเทพมีสัดส่วนลดลงเหลือ 40% อย่างไรก็ตาม ในเดือนธันวาคม 2551 ธนาคารกรุงเทพได้ซื้อหุ้นสัดส่วน 10% นั้นคืนมาจากธนาคารไทยธนาคารซึ่งแสดงให้เห็นถึงความตั้งใจที่ธนาคารกรุงเทพจะให้การสนับสนุนบริษัทอีก

บริษัทบีเอสแอล ลีสซิ่ง จัดอยู่ในอันดับที่ 5 ในกลุ่มผู้ให้บริการสินเชื่อและลีสซิ่งอุปกรณ์และเครื่องจักรรายใหญ่ 13 รายในฐานข้อมูลของทริสเรทติ้งในปี 2550 โดยสินเชื่อคงค้างของบริษัทเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องจาก 1,842 ล้านบาทในปี 2546 เป็น 2,383 ล้านบาทในปี 2547 เป็น 3,828 ล้านบาทในปี 2550 และอยู่ที่ 4,217 ล้านบาท ณ สิ้นเดือนกันยายน 2551 ด้วยเหตุที่บริษัทไม่มีสาขาอื่นนอกจากสำนักงานใหญ่เพียงแห่งเดียวจึงทำให้ลูกค้าของบริษัทจำกัดอยู่เฉพาะในเขตกรุงเทพฯ และบริเวณใกล้เคียง ซึ่งข้อจำกัดนี้ทำให้บริษัทมีการกระจายความเสี่ยงที่น้อยกว่าสถาบันการเงินรายใหญ่อื่นๆ บริษัทมีรายได้สุทธิ (โดยปรับจากรายได้สุทธิของธุรกิจให้เช่าดำเนินงาน) อยู่ในระหว่าง 100-300 ล้านบาทในช่วงปี 2546-2550 และ 9 เดือนแรกของปี 2551 โดยมีอัตราส่วนผลตอบแทนต่อส่วนของผู้ถือหุ้นถัวเฉลี่ยที่สูงที่ระดับ 26.79% ในปี 2549 ระดับ 28.19% ในปี 2550 และ 19.20% สำหรับ 9 เดือนแรกของปี 2551 (ยังไม่ได้ปรับอัตราส่วนให้เป็นตัวเลขเต็มปี) ซึ่งสาเหตุหนึ่งมาจากการที่บริษัทมีต้นทุนทางการเงินที่ค่อนข้างต่ำ ซึ่งหนี้ส่วนใหญ่เป็นหนี้ระยะสั้น นอกจากนี้ การที่บริษัทมีการบริหารมูลค่าคงเหลือของสินทรัพย์ให้เช่า (Residual Value) ที่มีประสิทธิภาพ จึงทำให้สามารถสร้างรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยคือกำไรจากการขายสินทรัพย์ให้เช่าดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง คิดเป็น 22%-23% ของรายได้สุทธิ ซึ่งจัดว่าสูงเมื่อเทียบกับรายได้ดอกเบี้ยจากธุรกิจหลักของบริษัท บริษัทมีกำไรอย่างต่อเนื่องจากการขายสินทรัพย์ให้เช่าที่ระดับ 72 ล้านบาทในปี 2549 ระดับ 73 ล้านบาทในปี 2550 และ 61 ล้านบาทสำหรับ 9 เดือนแรกของปี 2551

ทริสเรทติ้งกล่าวว่า ในวันที่ 3 สิงหาคม 2551 ธนาคารแห่งประเทศไทยได้ออกประกาศกฎระเบียบที่เกี่ยวข้องกับสถาบันการเงินซึ่งปรับปรุงใหม่หลายฉบับ โดยหนึ่งในนั้นกำหนดให้สถาบันการเงินจำกัดการให้สินเชื่อแก่บริษัทที่เกี่ยวข้องไม่เกิน 5% ของเงินกองทุนของสถาบันการเงิน หรือไม่เกิน 25% ของหนี้สินทั้งหมดของบริษัทที่เป็นลูกหนี้ ซึ่งแล้วแต่จำนวนใดจะต่ำกว่า ผลจากประกาศดังกล่าวทำให้สภาพคล่องและความยืดหยุ่นในการหาแหล่งเงินทุนของบริษัทจำกัดมากขึ้นเนื่องจากปัจจุบันบริษัทพึ่งพาแหล่งเงินทุนระยะสั้นจากธนาคารกรุงเทพเป็นหลัก ณ สิ้นเดือนกันยายน 2551 สัดส่วนเงินกู้ 89% จากเงินกู้ทั้งหมด 3,521 ล้านบาทมาจากผู้ถือหุ้นใหญ่ของบริษัท

บริษัทบีเอสแอล ลีสซิ่งมีคุณภาพสินทรัพย์ที่ดีแม้จะมีลูกค้าหลักเป็นกลุ่มธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อมซึ่งเป็นกลุ่มที่มักจะมีความผันผวนต่อภาวะเศรษฐกิจที่เปลี่ยนแปลง บริษัทมีอัตราส่วนเงินให้สินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (ค้างชำระเกิน 3 เดือน) ต่อเงินให้สินเชื่อรวมถัวเฉลี่ยที่ค่อนข้างต่ำเมื่อเทียบกับบริษัทอื่นที่ทริสเรทติ้งจัดอันดับเครดิต ซึ่งในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา อัตราส่วนดังกล่าวอยู่ในระดับสูงสุดที่ 3.47% ในปี 2549 และลดลงอย่างต่อเนื่องสู่ระดับ 2.90% ในปี 2550 และ 2.82% ณ สิ้นเดือนกันยายน 2551 อย่างไรก็ตาม สิ่งท้าทายสำหรับบริษัทคือการรักษาคุณภาพสินทรัพย์ที่ดีเอาไว้ให้ได้ในช่วงการขยายสินเชื่อเนื่องจากสถานะเครดิตของลูกค้าของบริษัทอาจได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจของไทยและทั่วโลกที่ตกต่ำอย่างมาก ทริสเรทติ้งกล่าว

บริษัท บีเอสแอล ลีสซิ่ง จำกัด (BSL)

อันดับเครดิตองค์กร: BBB

แนวโน้มอันดับเครดิต: Stable

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อ

บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด (ทริสเรทติ้ง)

โทรศัพท์ 0 2231 3011 ต่อ 500 โทรสาร 0 2231 3012

E-mail: [email protected]

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๒๒ พ.ย. รีเลชั่นชิพรีพับบลิค แนะกลยุทธ์สำคัญ นำพาธุรกิจร้านอาหารสู่ความสำเร็จ มัดใจลูกค้าให้อยู่หมัด
๒๒ พ.ย. ชมนวัตกรรมสุดล้ำในงาน METALEX 2024 หลายแบรนด์แกะกล่องเครื่องจักรครั้งแรกในงานนี้
๒๒ พ.ย. Bangkok Illustration Fair 2024 สู่การเติบโตก้าวใหญ่ในปีที่ 4
๒๒ พ.ย. ผลการจัดอันดับขีดความสามารถในการแข่งขันด้านดิจิทัลโดย IMD ประจำปี 2567 TMA เผยไทยครองอันดับ 37 ในการจัดอันดับด้านดิจิทัลปีนี้
๒๒ พ.ย. โก โฮลเซลล์ จัดเต็มสินค้า ส่งสุข สุดอร่อย เฉลิมฉลองเทศกาลส่งท้ายปี เข้มกระเช้าปีใหม่ดีมีมาตรฐาน พร้อมชู อาหารแช่แข็ง-อาหารสด
๒๒ พ.ย. กทม. จับมือสถานทูตเนเธอร์แลนด์ ประจำประเทศไทย จัดประชุมเชิงปฏิบัติการ ACTIVE Workshop เมืองเดินเท้า และจักรยานสัญจร ครั้งที่
๒๒ พ.ย. สัมผัสความหรูหราของวิลล่าริมทะเล VEYLA NATAI RESIDENCES ผ่านประสบการณ์เหนือระดับในงาน SOUL of VEYLA
๒๒ พ.ย. 'แอสเซทไวส์' จับมือ 'สยามกีฬา' เปิดศึกลูกหนังยุวชนทัวร์นาเมนต์ใหญ่แห่งปี AssetWise Siamkeela Cup 2024-25 ต่อเนื่องเป็นปีที่
๒๒ พ.ย. โรงแรมเรเนซองส์ เปิดตัว R FINDS แพลตฟอร์มดิจิทัลระดับโลก ที่จะเชื่อมมนต์เสน่ห์ชุมชนท้องถิ่นสู่นักเดินทางทั่วโลก
๒๒ พ.ย. electric.neon.lamp หยิบเพลงฮิต แม้ ใส่ฟีลดนตรีเหงาปนเศร้าในแบบ Piano Version