นายวสุ สุทธิพงษ์ชัย ผู้จัดการกองทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน แอสเซทพลัส จำกัด เปิดเผยว่า สำหรับแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยในขณะนี้คาดว่าในการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.)ในวันที่ 25 กุมภาพันธ์ นี้ กนง.น่าจะปรับลดดอกเบี้ย 0.50% เหลือ 1.50% อย่างไรก็ตาม ตลาดได้รับรู้การคาดการณ์ปรับลดดอกเบี้ยไปเรียบร้อยแล้ว ส่งผลให้ผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 0-2 ปี อยู่ที่ระดับไม่ถึง 2%
ทั้งนี้ จากการปรับลดดอกเบี้ยและปริมาณพันธบัตรที่มากขึ้นเนื่องจากการขาดดุลงบประมาณของรัฐบาล ทำให้เส้นอัตราผลตอบแทน (Yield Curve) มีความชันมากขึ้น (Steepening) กอปรกับการที่ส่วนต่างระหว่างพันธบัตรรัฐบาลและหุ้นกู้เอกชน rating A+ up ได้ขยายกว้างขึ้นถึง 2.00-2.50% ส่งผลให้หุ้นกู้เอกชน rating A+ up อายุไม่เกิน 3 ปี ที่มีความมั่นคง มีอัตราหนี้สินต่อทุน หรือที่เรียกว่า D/E ratio ต่ำและมีกระแสเงินสด (EBITDA) ที่ดีจะสามารถดึงดูดผู้ลงทุนได้มากกว่า โดยเฉพาะหุ้นกู้ของบริษัทขนาดใหญ่ ในอุตสาหกรรมโทรคมนาคม หรือสาธารณูปโภค เช่น ไฟฟ้า ประปา ธุรกิจน้ำมัน เป็นต้น และเริ่มมีหุ้นกู้อายุยาว ๆ ออกเสนอขายบ้างแล้วเช่นกัน โดยปัจจุบันหุ้นกู้เอกชนที่ได้รับความนิยมส่วนใหญ่มีอายุระหว่าง 3-5 ปี
“สำหรับผู้ลงทุน หุ้นกู้เอกชนที่มีความมั่นคงถือเป็นตราสารที่มีความน่าสนใจลงทุน แต่ทั้งนี้ต้องขึ้นกับว่ากระแสเงินสดที่ผู้ลงทุนมีอยู่ในขณะนั้น สามารถลงทุนยาวๆ และรับความเสี่ยงจากการลงทุนได้หรือไม่ หากไม่สามารถลงทุนได้ยาว การลงทุนในตั๋วแลกเงินระยะสั้นประมาณ 6 เดือน ซึ่งผลตอบแทนในขณะนี้อยู่ระหว่าง 2.90-3.50% ต่อปี ก็ถือเป็นอีกทางเลือกที่น่าสนใจในสภาวะที่ดอกเบี้ยพันธบัตรที่อยู่ในระดับต่ำเช่นนี้ โดยจะต้องเลือกตั๋วแลกเงินคุณภาพที่ออกโดยบริษัทฯ ที่มีอันดับความน่าเชื่อถือในระดับที่สามารถลงทุนได้ มีผลประกอบการที่ดีอย่างต่อเนื่อง หรือเป็นธุรกิจผูกขาดหรือมีสัมปทาน (Monopoly) อย่างธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับสิ่งจำเป็นในการใช้ชีวิตประจำวัน เช่น ปัจจัย 4 หรือเป็นบริษัทมีแนวโน้มการเจริญเติบโตของอุตสาหกรรมที่ดี และมีการกำกับดูแลกิจการที่ดี” นายวสุ กล่าว
ในด้านแผนการออกกองทุนรองรับเม็ดเงินลงทุนในช่วงนี้ นางสาวจารุลักษณ์ เรืองสุวรรณ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายพัฒนาธุรกิจ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน แอสเซท พลัส จำกัด เปิดเผยว่า ในวันที่ 24 กุมภาพันธ์ นี้บริษัทฯ จะเปิดขายและรับซื้อคืนใหม่ กองทุนเปิดแอสเซทพลัสทวีเงินออม 2 (ASP-MMF2) ผลตอบแทนประมาณการขั้นต่ำที่ 2.80%* ต่อปี จากการลงทุนในตั๋วแลกเงินอายุประมาณ 6 เดือน ที่ผู้ออกได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือตั้งแต่ A- ขึ้นไป เช่น บมจ.ปตท.อะโรเมติกส์และการกลั่น(PTTAR) บมจ.ไทคอน อินดัสเทรียล คอนเน็คชั่น (TICON) บมจ.ควอลิตี้เฮ้าส์ (QH) บมจ.ภัทรลิสซิ่ง (PL) และ บมจ. โรงแรมเซ็นทรัล พลาซา (CENTEL)
ข้อมูลเพิ่มเติม โปรดติดต่อ :
ส่วนประชาสัมพันธ์ ฝ่ายพัฒนาธุรกิจ นิตยา เลิศแสงเพชร โทร. 02-672-1000 ต่อ 3314 อีเมล์: [email protected] มุกพิม จุลพงศธร โทร. 02-672-1000 ต่อ 3308 อีเมล์: [email protected]