มหาวิทยาลัยมหิดลพัฒนาเทคโนโลยีการกระตุ้นไฟฟ้านี้เพื่อคนไทย โดยเป็นโครงการที่เกิดจากความร่วมมือของ 6 คณะ คือ คณะวิศวกรรมศาสตร์ คณะวิทยาศาสตร์ คณะสัตวแพทยศาสตร์ กายภาพบำบัด คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี และ คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล โดยคณะวิศวกรรมศาสตร์เป็นผู้พัฒนาเครื่อง IPG นี้ คณะวิทยาศาสตร์จะ ทดสอบความปลอดภัยของเครื่อง IPG โดยการจุ่มเครื่องลงในสารละลายเป็นระยะเวลานานประมาณ 6 เดือน และตรวจสอบหาโลหะหนักในสารละลายนั้น เพื่อให้มั่นใจว่าเครื่อง IPG จะไม่หลั่งสารใดๆ เมื่อถูกฝังลงในร่างกาย หลังจากนั้นคณะสัตวแพทยศาสตร์จะทำการทดสอบความพร้อมของเครื่องกระตุ้นนี้ในสัตว์ทดลอง เครื่อง IPG นี้จะพร้อมทดสอบกับผู้ป่วยที่สนใจในปี 2553 ภายใต้การดูแลของคณาจารย์จากคณะแพทยศาสตร์ทั้งจาก รพ.รามาธิบดีและ รพ. ศิริราช
นอกจากเครื่อง IPG นี้แล้ว เรายังได้พัฒนาเทคโนโลยีกระตุ้นไฟฟ้าสำหรับช่วยบำบัดผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองตีบหรือแตก เป็นความร่วมมือระหว่างคณะวิศวกรรมศาสตร์และคณะกายภาพบำบัด โรคนี้เป็นโรคที่คุกคามสุขภาพของคนไทยเป็นอันดับที่ 3 รองจากโรคหัวใจและโรคมะเร็ง ซึ่งหากผู้ป่วยมีชีวิตอยู่ได้ก็มักจะมีความพิการหลงเหลืออยู่ เช่น อัมพฤกษ์ อัมพาต กล้ามเนื้อฝ่อ ลีบ และ เกร็ง ผู้ป่วยจำเป็นต้องได้รับการกายภาพบำบัดเพื่อฟื้นฟูสมรรถภาพทางร่างกาย แต่การทำกายภาพบำบัดเห็นผลของการรักษาค่อนข้างช้า และในผู้ป่วยบางรายไม่สามารถฟื้นฟูกล้ามเนื้อได้ทุกกลุ่ม
ดังนั้นการกระตุ้นกล้ามเนื้อด้วยไฟฟ้านี้จึงสามารถช่วยผู้ป่วยให้ฟื้นฟูร่างกายได้หากผู้ป่วยได้รับการกระตุ้นกล้ามเนื้อแต่เนิ่นๆ จะสามารถคงสภาพของกล้ามเนื้อไม่ให้ฝ่อลีบ ซึ่งช่วยเตรียมความพร้อมของร่างกายในช่วงพักฟื้นก่อนรับการกายภาพบำบัด นอกจากนี้การกระตุ้นไฟฟ้ายังสามารถช่วยลดอาการกล้ามเนื้อเกร็งได้อีกด้วย
อย่างไรก็ตามเทคโนโลยีกระตุ้นกล้ามเนี้อนี้ไม่ถูกใช้แพร่หลายในประเทศไทย ด้วยเครื่องที่มีประสิทธิภาพดีนั้นมีราคาสูงมาก ผู้ป่วยจำเป็นต้องมาใช้ที่โรงพยาบาล ทีมผู้วิจัยได้พัฒนาเครื่องกระตุ้นกล้ามเนื้อคุณภาพดี ขนาดกระทัดรัด และราคาประมาณ 3,000 บาท ขึ้นมา โดยเครื่องกระตุ้นดังกล่าวได้ผ่านการทดลองใช้กับผู้ป่วยที่คณะกายภาพบำบัดแล้ว และด้วยราคาถูกนี้ ผู้ป่วยสามารถมีไว้ใช้ได้ที่บ้านเพื่อเพิ่มประมาณการบำบัดให้กับตัวเองได้ นอกจากนั้นเครื่องที่เราพัฒนาขึ้นนี้ สามารถตั้งค่าเวลาการกระตุ้นให้สอดคล้องกับการเคลื่อนไหวของร่างกาย เช่นการเดิน และนักกายภาพบำบัดสามารถใช้เครื่องกระตุ้นนี้ร่วมกับการฝึกควบคุมร่างกาย โดยไม่ต้องออกแรงโยกแขนขาของผู้ป่วยแบบที่ทำกันอยู่ในปัจจุบัน”
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร. 02-812-6308-10 จิรพร ชีวะธรรม