CIG แจงผลขาดทุน เพราะตั้งสำรอง100ล้าน

อังคาร ๐๓ มีนาคม ๒๐๐๙ ๑๕:๕๘
"CIG" ยอมรับผลขาดทุนครั้งแรก 16.74 ล้านบาท นับแต่เข้าเป็นบริษัทจดทะเบียน เผยมีรายได้เพิ่มขึ้นจากยอดการสั่งซื้อของลูกค้ารายใหญ่ และรายใหม่เพิ่มขึ้น ส่วนผลดำเนินงานขาดทุนเพราะมีการตั้งสำรองการลงทุนในธุรกิจโรงแรม และการด้อยค่าของหลักทรัพย์เพื่อค้าของบริษัท แต่ก็ยังดูแลผู้ถือหุ้นด้วยการจ่ายเงินปันผลจากบัญชีกำไรสะสมกว่า 12 ล้านบาท ยืนยันปีนี้ธุรกิจยังมีแนวโน้มที่ดี

นายอารีย์ พุ่มเสนาะ ประธานกรรมการบริหารและกรรมการผู้จัดการ บริษัท ซี.ไอ.กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ CIG กล่าวถึงผลการดำเนินงานของบริษัทว่า ปี 2551 มีผลการดำเนินงานขาดทุนจำนวน 16.74 ล้านบาทหรือขาดทุนต่อหุ้น 0.07 บาท จากปีก่อนมีกำไรสุทธิ 107.11 ล้านบาท หรือกำไรต่อหุ้น 0.61 บาท ถือเป็นผลการดำเนินงานขาดทุนครั้งแรก นับแต่เข้าเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์

เมื่อดูงบการเงิน ปรากฎว่า บริษัทฯ มีรายได้รวมในปี 2551 เป็นจำนวนเงิน 1,458.98 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อนเป็นจำนวนเงิน 149.51 ล้านบาท หรือ 11.42% เป็นผลสืบเนื่องมาจากการขยายกำลังการผลิต และมียอดสั่งซื้อจากลูกค้ารายใหญ่ รวมทั้งลูกค้ารายใหม่เพิ่มขึ้น

อย่างไรก็ตาม ที่มีผลการดำเนินงานของบริษัทขาดทุน เป็นเพราะมีการตั้งค่าเผื่อการด้อยค่าสำหรับเงินลงทุนในหุ้นสามัญของ บริษัท เดอ ละไม จำกัด ซึ่งเป็นโรงแรมที่เกาะสมุย จำนวน 28.57 ล้านบาท เนื่องจากยังอยู่ในช่วงเริ่มต้นของการประกอบธุรกิจโรงแรม รวมทั้งอยู่ในช่วงฟื้นฟูหลังเหตุการณ์ทางการเมืองที่มีการปิดสนามบิน ทำให้นักท่องเที่ยวหายไปจำนวนมาก นอกจากนี้ ยังมีการตั้งค่าเผื่อการด้อยค่าในหลักทรัพย์เพื่อค้า จำนวน 72.83 ล้านบาท เนื่องจากสภาวการณ์การตกต่ำของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยโดยรวม

"แต่เราก็ยังมีการจ่ายเงินปันผลให้กับผู้ถือหุ้นในปี 51 ในอัตราหุ้นละ 0.05 บาท จากมติที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทเมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา จำนวน 251,592,417 หุ้น รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 12,579,620.85 บาท (สิบสองล้านห้าแสนเจ็ดหมื่นเก้าพันหกร้อยยี่สิบบาทแปดสิบห้าสตางค์) ซึ่งเงินปันผลดังกล่าวให้จ่ายออกจากบัญชีกำไรสะสมที่ยังไม่ได้จัดสรร มีกำหนดจ่ายในวันที่ 28 เมษายน 2552 จะเห็นว่า เราก็ยังดูแลผู้ถือหุ้นของเราให้มีผลตอบแทนจากการลงทุนพอสมควร"

ทั้งนี้การจ่ายดังกล่าว จะมีการกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิเข้าร่วมประชุมผู้ถือหุ้นประจำปี 2552 และมีสิทธิรับเงินปันผล ในวันจันทร์ที่ 23 มีนาคม 2552 และปิดสมุดทะเบียนพักการโอนหุ้นในวันอังคารที่ 24 มีนาคม 2552 ส่วนการซื้อหุ้นคืนของบริษัทที่จะครบกำหนดวันที่ 17 พฤษภาคม 2552 จำนวน 25,000,000 หุ้น หรือคิดเป็น 9.94% เมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ ก็มีการซื้อคืนจำนวน 2,129,600 หุ้น โดยมีราคาสูงสุด 1.37 บาท ต่ำสุด 1.33 บาท มูลค่ารวมในการซื้อหุ้นครั้งนี้ 2,886,868 บาท คิดเป็น 0.85% ของทุนที่ชำระแล้ว

"ปีนี้เราคาดว่าจะได้รับผลกระทบไม่มากจากภาวะเศรษฐกิจ และยังมีลูกค้ารายใหญ่ รายใหม่เพิ่มขึ้น คาดว่าปีนี้จะสามารถทำให้อัตรากำไรขั้นต้นเพิ่มสูงขึ้นได้ นอกจากนี้ การตั้งสำรองต่าง ๆ ก็ได้ดำเนินการไปแล้วในปีที่ผ่านมา เชื่อว่าผลการดำเนินงานของปี 2552 มีแนวโน้มที่ดีกว่าปี 2551 นอกจากนี้ ผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ ของบริษัท เช่น ห้องเย็น ตู้แช่แข็งสำหรับธุรกิจอาหาร รถบรรทุก รถปรับอากาศ เป็นต้น ยังเป็นที่ต้องการของตลาดไม่ว่าจะอยู่ในภาวะวิกฤติเศรษฐกิจมากแค่ไหนก็ตาม"

ติดต่อสอบถามเพิ่มเติม

คุณสมร ภู่อิ่ม โทร. 081-9844814

คุณทิพสุคนธ์ เภาโบรมย์ โทร. 081-6355205

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๒๐ ธ.ค. ASMT ผนึก TFT ร่วมลงนามด้านวิชาการด้านอุตสาหกรรมการบิน
๒๐ ธ.ค. กรมวิชาการเกษตร เดินหน้า ถ่ายทอดองค์ความรู้การผลิตอะโวคาโดคุณภาพ สร้างรายได้เพิ่มให้เกษตรกรกว่า 2 แสนบาท/ไร่
๒๐ ธ.ค. Dow มุ่งพัฒนาประสิทธิภาพผลิตภัณฑ์ Personal Care ควบคู่ความยั่งยืน ตอบโจทย์ผู้บริโภคตลาดเครื่องสำอางในภูมิภาคเอเชีย
๒๐ ธ.ค. โอซีซี มอบความรู้ พัฒนาอาชีพให้ผู้ต้องขังหญิง
๒๐ ธ.ค. ดร.นุชนารถ ชลคงคา นำทีมสถาบัน ESTC จัดอบรมให้ Karmakamet
๒๐ ธ.ค. กนภ. เห็นชอบร่าง พรบ. การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ กลไกสำคัญสู่เส้นทางเศรษกิจคาร์บอนต่ำ และมีภูมิคุ้มกันฯ
๒๐ ธ.ค. WePlay x คอลแลบตัวละครสุดปัง! พบกับมินิเกมใหม่ และการ์ตูนสุดน่ารักที่คุณจะต้องหลงรัก
๒๐ ธ.ค. เดลต้า ประเทศไทย และ WEnergy Global ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงเพื่อขับเคลื่อนอนาคตพลังงานสีเขียว
๒๐ ธ.ค. ความภาคภูมิใจของ ไลอ้อน กับ 3 รางวัลแห่งเกียรติยศ เผยผลงานโดดเด่นกับหลายรางวัลที่ได้รับในปี 2567
๒๐ ธ.ค. NOBLE คว้าเรทติ้งสูงสุด ระดับ AAA SET ESG Ratings ประจำปี 2567 ยกระดับองค์กรสู่ความยั่งยืนภายในแนวคิด Live Different ตามกรอบ