นายบรรเทิง ว่องกุศลกิจ กรรมการผู้จัดการ บริษัท น้ำตาลมิตรลาว จำกัด กล่าวว่า “การสร้างโรงงานน้ำตาลมิตรลาวและพัฒนาพื้นที่ปลูกอ้อย ในสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว) นับเป็นความสำเร็จอีกก้าวหนึ่งที่แสดงถึงความก้าวหน้าทางธุรกิจของกลุ่มมิตรผล ซึ่งสะท้อนถึงเทคโนโลยีและศักยภาพของกลุ่มที่สามารถขยายการลงทุนเข้าไปในประเทศเพื่อนบ้านและแข่งขันในตลาดต่างประเทศด้วยผลิตภัณฑ์คุณภาพสูงได้อย่างเต็มภาคภูมิ การลงทุนครั้งนี้ยังถือเป็นการถ่ายทอดเทคโนโลยีด้านอ้อยและน้ำตาล นับตั้งแต่การเตรียมพันธุ์อ้อย การเตรียมดิน การปลูก การดูแลรักษา รวมไปถึงกระบวนการผลิตน้ำตาล ซึ่งมิตรผลมีความเชี่ยวชาญไปยังสปป.ลาว อีกด้วย”
การเข้ามาลงทุนของน้ำตาลมิตรลาว ไม่เพียงแต่เป็นการนำเม็ดเงินลงทุนและเทคโนโลยีการผลิตน้ำตาลอันทันสมัยมาสู่สปป.ลาว เท่านั้น แต่ยังคำนึงถึงการดำเนินกิจกรรมที่ทำให้ชุมชนมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ประชาชนในพื้นที่มีรายได้เพิ่มขึ้นจากการส่งเสริมการปลูกอ้อย การก่อสร้างสาธารณูปโภคต่างๆ เช่น ถนน ฝายกั้นน้ำ เพื่อการคมนาคมขนส่งที่สะดวกยิ่งขึ้นของชาวบ้านในท้องถิ่นและในไร่อ้อย การจ้างงาน
ในไร่อ้อย โรงงานและในท้องถิ่นกว่า 5,000 ราย ซึ่งคิดเป็นมูลค่ารายได้ที่หมุนเวียนต่อเดือนประมาณ 3 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือกว่า 100 ล้านบาท รวมถึงการให้ความสนับสนุนด้านการศึกษาในรูปแบบต่างๆ ให้แก่เยาวชน และประการสำคัญบริษัทฯ ยังได้นำส่งภาษีอากรเพื่อเป็นรายได้กลับสู่ภาครัฐฯ อีกปีละประมาณ 700,000 เหรียญสหรัฐ หรือกว่า 24 ล้านบาท
บริษัท น้ำตาลมิตรลาว จำกัด มีทุนจดทะเบียน 20 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 730 ล้านบาท ได้รับสัมปทานพื้นที่ปลูกอ้อยและก่อสร้างโรงงานผลิตน้ำตาลจากรัฐบาลของสปป.ลาว เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2549 บนพื้นที่ 62,500 ไร่ อายุสัมปทาน 40 ปี และสามารถขอต่อสัมปทานสิทธิ์ได้อีก 20 ปี โดยใช้เงินลงทุน
ในเบื้องต้น 63 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 2,300 ล้านบาท ซึ่งปัจจุบันบริษัทฯ ได้ขยายพื้นที่ไปยังเขตข้างเคียงที่เมืองอุทุมพร แขวงสะหวันนะเขต และเมืองเซบั้งไฟ แขวงคำม่วน โดยมีพื้นที่ปลูกอ้อยในปีการผลิต 2551/2552 เป็นจำนวนทั้งสิ้น 40,000 ไร่
การก่อสร้างโรงงานน้ำตาลมิตรลาวแล้วเสร็จและเริ่มหีบอ้อยเมื่อปลายเดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2551 ที่ผ่านมา โดยในปีการผลิต 2551/2552 บริษัทฯ คาดว่าจะมีปริมาณอ้อยเข้าหีบประมาณ 230,000 ตัน คิดเป็นน้ำตาลประมาณ 24,000 ตัน โดยน้ำตาลที่ผลิตได้จากโรงงานน้ำตาลมิตรลาว 95% จะส่งออกไปจำหน่ายยังสหภาพยุโรป หรืออียู ภายใต้โควต้าของ สปป.ลาว และอีก 5% ที่ผลิตได้ หรือประมาณ 1,000 ตันจะจำหน่าย เพื่อการบริโภคใน สปป.ลาว และคาดว่าในปีการผลิต 2552/53 บริษัทฯจะขอสัมปทานพื้นที่เพิ่มอีก 62,500 ไร่ เพื่อขยายกำลังการผลิต เป็น 500,000 ตันอ้อย หรือกำลังการผลิต 5,000 ตัน/วัน
“นอกจากพื้นที่ที่ได้รับสัมปทานในสปป.ลาว แล้ว เรายังสนับสนุนให้มีการส่งเสริมให้ชุมชนในพื้นที่รอบโรงงานปลูกอ้อยอย่างถูกวิธี เพื่อให้ได้อ้อยคุณภาพที่มีค่าความหวานและผลผลิตต่อไร่สูง โดยอ้อยในส่วนนี้คิดเป็นร้อยละ 20 ของปริมาณอ้อยที่เข้าหีบ และเร่งขยายพื้นที่แปลงปลูกเพื่อให้รองรับกำลังการผลิตที่จะเพิ่มขึ้นในอนาคต ซึ่งเป็นการสร้างรากฐานที่แข็งแกร่งให้กับธุรกิจของกลุ่มมิตรผลในประเทศลาว และจะเป็นฐานการผลิตสำคัญอีกแห่งหนึ่งในการเชื่อมต่อกับอุตสาหกรรมน้ำตาลของเราในกลุ่มประเทศอาเซียนในอนาคต” นายบรรเทิงกล่าวสรุป
รายละเอียดเพิ่มเติม โปรดติดต่อ:
จามรี คุปตะเวทิน / ศรีเบญจา เสมมีสุข / สาธิดา ศรีธัญญาธรณ์
อาซิแอม เบอร์สัน-มาร์สเตลเลอร์
โทร. 0-2252-9871 มือถือ 089-810-3938