วันนี้ (5 มี.ค.) นายวิรัช กาญจนพิบูลย์ รองผู้ว่าการกิจการสังคมและสิ่งแวดล้อม ในฐานะโฆษก การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) กล่าวถึงความคืบหน้าของแนวทางการดำเนินการของ กฟผ. ภายหลังศาลปกครองเชียงใหม่พิจารณาตัดสินให้ กฟผ. ชดใช้ค่าสินไหมทดแทนให้แก่ผู้ฟ้องคดีทั้ง 19 สำนวน ในคดีกลุ่มเกี่ยวกับโรงไฟฟ้านั้น กฟผ. พิจารณาในเบื้องต้นแล้วจะไม่อุทธรณ์ โดยน้อมรับในคำพิจารณาของศาลปกครองเชียงใหม่ ที่วินิจฉัยว่าระหว่างปี 2535-2541 การดำเนินงานของโรงไฟฟ้าแม่เมาะได้ส่งผลกระทบต่อผู้ฟ้องคดี แต่หลังจากปี 2541 เป็นต้นมา โรงไฟฟ้าไม่ได้ปล่อยสารซัลเฟอร์ไดออกไซด์เกินกว่าที่กฎหมายกำหนดอีกแล้ว พร้อมทั้งเตรียมดำเนินการในขั้นตอนของการชดใช้ค่าสินไหมตามคำสั่งของศาลปกครองเชียงใหม่ต่อไป
โฆษก กฟผ. กล่าวด้วยว่า กฟผ. มีความเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ด้วยข้อเท็จจริงที่ว่า ระหว่าง ปี 2535-2541 ได้เกิดปัญหาคุณภาพอากาศบริเวณรอบๆ โรงไฟฟ้าแม่เมาะในบางขณะ ซึ่งส่งผลกระทบต่อสุขภาพของราษฎร เนื่องจากขณะนั้นอยู่ระหว่างดำเนินการปรับปรุงติดตั้งเครื่องกำจัดก๊าซซัลเฟอร์ไดออกไซด์ แต่หลังจาก กฟผ. ได้ดำเนินการติดตั้งเครื่องกำจัดก๊าซฯ แล้ว รวมถึงมีมาตรการบริหารจัดการด้านสิ่งแวดล้อมที่มีประสิทธิภาพ กฟผ. สามารถควบคุมคุณภาพอากาศให้อยู่ในหรือดีกว่าเกณฑ์มาตรฐานที่กฎหมายกำหนด ตั้งแต่ปี 2541 ถึงปัจจุบัน และมีความเชื่อมั่นว่า กฟผ. จะรักษาคุณภาพอากาศให้อยู่ในเกณฑ์ที่ดีตลอดไป
นายวิรัช กล่าวต่อไปว่า ในส่วนของคดีกลุ่มเหมืองแม่เมาะนั้น กฟผ. จะดำเนินการปรึกษากับอัยการผู้รับมอบอำนาจแก้ต่างคดีให้ กฟผ. อีกครั้งหนึ่ง เพื่อให้เกิดความชัดเจนของคำพิพากษาที่สั่งให้ กฟผ. ปฏิบัติในกรณีที่เกี่ยวกับมาตรการแนบท้ายประทานบัตรเหมืองได้อย่างครบถ้วนถูกต้อง ก่อนที่จะตัดสินใจว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป