นายณัฐจิระ ฮอนดา ผู้จัดการทั่วไป บริษัท พรอมท์นาว จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของ บมจ. เอ็ม เอฟ อี ซี (MFEC) เปิดเผยว่าในปีนี้บริษัทฯ จะเน้นทำตลาดด้าน M-Banking (Mobile Banking) ซึ่งเป็นบริการด้านการทำธุรกรรมทางธนาคารผ่านโทรศัพท์มือถือสำหรับกลุ่มลูกค้าสถาบันเงิน ด้วยการนำเสนอบริการ "ซูซาโนโอะ โมบายล์ แบงกิ้ง" (Susanoo Mobile Banking) โดยปัจจุบันมีลูกค้าที่ทางบริษัทเป็นผู้พัฒนาระบบให้แล้ว คือ ธนาคารกสิกรไทย และธนาคารไทยพาณิชย์ และปัจจุบันอยู่ระหว่างเจรจากับธนาคารพาณิชย์ที่ตั้งอยู่ในประเทศไทยอีกประมาณ 10 ราย
ทั้งนี้ Susanoo Mobile Banking จะอำนวยความสะดวกแก่ลูกค้าธนาคารที่ใช้บริการดังกล่าวให้สามารถทำธุรกรรมต่าง ๆ บนโทรศัพท์มือถือได้ตลอดเวลา โดยไม่ต้องเดินทางมายังธนาคารเหมือนในอดีตที่ผ่านมา โดยบริการพื้นฐานประกอบไปด้วย การเช็คยอดเงิน การโอนเงิน หรือการชำระค่าน้ำ ค่าไฟ และค่าโทรศัพท์ เป็นต้น ผู้ใช้บริการสามารถมั่นใจเกี่ยวกับระบบรักษาความปลอดภัยได้ เนื่องจาก Susanoo Mobile Banking มีความปลอดภัยสูงสุด ตามระบบการเข้ารหัส AES (Advance Encryption Standard) ซึ่งเป็นมาตรฐานสากลที่ได้รับการยอมรับทั่วโลกในขณะนี้
"จุดเด่นของ Susanoo Mobile Banking ที่พัฒนาโดยทีมงานของ พรอมท์นาว ซึ่งเป็นคนไทยทั้งหมด คือ ช่วยให้ธนาคารเปิดบริการออนไลน์กับลูกค้า ซึ่งสามารถช่วยให้ลูกค้าทำธุรกรรมต่าง ๆ ได้ง่ายมากขึ้น ทั้งเรื่องของการโอนเงิน เช็คยอดเงิน จ่ายค่าน้ำค่าไฟ เป็นต้น นอกจากนั้นยังมีฟังก์ชั่นที่พัฒนาขึ้นมารองรับกับโปรแกรมใหม่ ๆ ในอนาคตด้วย โดยสามารถพัฒนาต่อยอดได้ทันที สุดท้ายคือผลิตภัณฑ์มีคุณภาพดีและมีการใช้งานง่ายเหมาะกับ
คนไทย ที่สำคัญคือในภาวะเศรษฐกิจปัจจุบันที่กำลังชะลอตัว ธนาคารหลายแห่งต่างต้องการลดต้นทุนลง ซึ่งบริการ
Susanoo Mobile Banking จะเข้ามาช่วยในจุดนี้ด้วย โดยธนาคารสามารถรักษาและขยายฐานลูกค้าได้โดยไม่ต้องใช้เงินลงทุนสูง เพราะแนวโน้มพฤติกรรมของผู้บริโภคเริ่มเปลี่ยนแปลงไป โดยหันมาทำธุรกรรมทางการเงินต่าง ๆ บนโทรศัพท์มือถือ ซึ่งมีความสะดวกมาก เพราะสามารถดำเนินการได้เองในทุกที่และทุกเวลาที่ต้องการ"
ส่วนการแข่งขัน ในปัจจุบันบริการ M-Banking ถือว่ายังมีไม่มากนัก โดยคู่แข่งส่วนใหญ่เป็นบริษัทต่างชาติ ขณะที่ "พรอมท์นาว" เป็นบริษัทของคนไทยที่พัฒนาระบบโดยคนไทย ซึ่งการให้บริการในด้านพื้นฐานนั้นแทบจะไม่แตกต่างกัน แต่ Susanoo Mobile Banking จะเหนือกว่าคู่แข่งต่างชาติ เพราะเป็นโซลูชัน (Solution) ที่เหมาะกับคนไทย อีกทั้งมีการพัฒนาระบบเพื่อรองรับกับโปรแกรมใหม่ ๆ ในอนาคตด้วย ที่สำคัญมีราคาไม่แพงเมื่อเปรียบเทียบกับคู่แข่งที่เป็นต่างชาติ
เขากล่าวต่อว่า ในอนาคตอีก 1-2 ปีข้างหน้า ระบบ M-Banking จะกลายมาเป็นบริการพื้นฐานที่ประชาชนใช้ในชีวิตประจำวัน เพราะปัจจุบันมีการใช้งานโทรศัพท์มือถืออย่างแพร่หลาย และกลายเป็นเครื่องมือที่จำเป็นในการดำรงชีวิตไปแล้ว และคาดว่าจะมีธนาคารพาณิชย์อีกหลายแห่งนำบริการ M-Banking มาให้บริการกับลูกค้า ซึ่งในส่วนของ "พรอมท์นาว" บริษัทคนไทยแห่งแรกที่พัฒนาระบบนี้ขึ้นมา วางเป้าหมายว่าจะมีส่วนแบ่งการตลาดในปี 2552 ไว้ที่ประมาณ 50% โดยปัจจุบันอยู่ระหว่างเจรจากับธนาคารพาณิชย์ที่ตั้งอยู่ในประเทศไทยทั้งที่เป็นสถาบันการเงินของไทยและต่างประเทศ จำนวนประมาณ 10 ราย นอกจากนี้พรอมท์นาวยังมีแผนที่จะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (MAI) ในอนาคตอันใกล้นี้อีกด้วย
ติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม : จุฬารัตน์ เจริญภักดี (ฟ้า) 089-4888337 / 02-5549395