นายโสฬส สาครวิศว กรรมการผู้จัดการ ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (เอสเอ็มอี แบงก์) เปิดเผยว่า เมื่อเร็ว ๆนี้ คณะกรรมการจัดการธนาคารมีมติเห็นชอบให้ธนาคารเข้าร่วมโครงการสนับสนุนการปรับปรุง-ฟื้นฟูสภาพเครื่องจักรแก่ SMEs (Machine Fund) ระยะที่ 2 ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่างเอสเอ็มอี แบงก์ - สสว. - สถาบันไทย-เยอรมัน(TGI) - สมาพันธ์สมาคมอุตสาหกรรมสนับสนุน และสำนักพัฒนาอุตสาหกรรมสนับสนุน กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม โดยมีระยะเวลาสิ้นสุดโครงการในเดือนธันวาคม 2552
สำหรับปีนี้ได้มีการปรับหลักเกณฑ์และอุตสาหกรรมกลุ่มเป้าหมายไว้อย่างชัดเจน โดยผู้ประกอบการจะได้รับการสนับสนุนดอกเบี้ยจากสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) รายละ 3% ต่อปี เป็นระยะเวลา 5 ปีนับจากวันที่ทำนิติกรรมสัญญาเงินกู้ ซึ่งเป็นมาตรการพิเศษให้ความช่วยเหลือเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนแก่ผู้ประกอบการ และเป็นการกระตุ้นให้ผู้ประกอบการ SMEs หันมาปรับปรุงฟื้นฟูหรือปรับเปลี่ยนเครื่องจักรให้ทันสมัยมากขึ้น ก่อให้เกิดกระบวนการผลิตที่มีประสิทธิภาพ สามารถลดต้นทุนและแข่งขันได้ในอนาคต
นอกจากการให้ความช่วยเหลือด้านดอกเบี้ยแล้ว ยังเพิ่มการสนับสนุนทางด้านการนำระบบเทคโนโลยีสารสนเทศทั้ง Hardware และ Soft ware มาใช้ในกระบวนการผลิต รวมทั้งได้มีการกำหนดอุตสาหกรรมเป้าหมายไว้อย่างชัดเจนซึ่งเป็นอุตสาหกรรมหลัก ๆ ที่ทำรายได้เข้าประเทศได้อย่างมหาศาล ประกอบด้วยอุตสาหกรรมอาหารและการเกษตรแปรรูป เครื่องนุ่งห่มและสิ่งทอ, เซรามิค/เครื่องเคลือบดินเผา, ชิ้นส่วนยานยนต์, ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์, อะไหล่และเครื่องจักรกล, ท่องเที่ยวและบริการ, อุตสาหกรรมเกี่ยวกับ Life Style เช่น แฟชั่น เฟอร์นิเจอร์ ตกแต่งภายใน เครื่องประดับ เป็นต้น
นายโสฬส กล่าวว่า ผู้ประกอบการ SMEs จงมองภาวะวิกฤติเศรษฐกิจขณะนี้ให้เป็นโอกาสเป็นจังหวะที่เหมาะสมในการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต เนื่องจากเครื่องจักรที่ใช้งานมานานอาจชำรุดหรือประสิทธิภาพการผลิตลดลง ดังนั้นการปรับปรุงฟื้นฟูหรือปรับเปลี่ยนเครื่องจักรจะทำให้ประสิทธิภาพการผลิตสูงขึ้น มีระบบเทคโนโลยีที่ทันสมัย ช่วยลดต้นทุนและรองรับการผลิตที่มากขึ้นได้ในอนาคต นอกจากนี้ธนาคารและหน่วยงานภาครัฐก็ให้การสนับสนุนผู้ประกอบการอย่างเต็มที่ทั้งด้านเงินกู้และอัตราดอกเบี้ยที่ถูกกว่าตลาดทั่วไป โดยผู้ประกอบการสามารถยื่นความจำนงขอสนับสนุนสินเชื่อโครงการฯได้ที่เอสเอ็มอีแบงก์ทุกสาขาทั่วประเทศ หรือสอบถามฝ่ายสินเชื่อโครงการและกิจการภาครัฐโทร.0-2265-4023-5