ก.ไอซีที แจ้งผู้ประกอบธุรกิจ e-Payment เร่งขึ้นทะเบียน-ขออนุญาตให้ทัน 16 มี.ค.

ศุกร์ ๑๓ มีนาคม ๒๐๐๙ ๑๖:๒๙
นางสาวลัดดา แจ้งเกษมสุข ผู้อำนวยการสำนักธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ สำนักงานปลัดกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร เปิดเผยว่า หลังจากที่พระราชกฤษฎีกาว่าด้วยการควบคุมดูแลธุรกิจบริการการชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. 2551 มีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 14 มกราคม 2552 ซึ่งในพระราชกฤษฎีกาฉบับนี้ได้กำหนดให้ผู้ประกอบธุรกิจบริการการชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ หรือ Electronic payment (e-Payment) ที่ประสงค์จะทำธุรกิจ e-Payment ต่อไป จะต้องยื่นแบบแจ้งให้ทราบตามบัญชี ก หรือขอขึ้นทะเบียนตามบัญชี ข หรือขอรับใบอนุญา ตามบัญชี ค แล้วแต่กรณี ให้แล้วเสร็จภายใน 16 มีนาคม 2552 มิฉะนั้นหากพ้นวันที่ 13 พฤษภาคม 2552 ผู้ประกอบการจะไม่สามารถให้บริการได้อีก

ซึ่งธุรกิจ e-Payment ที่ต้องอยู่ภายใต้การควบคุมดูแลตามพระราชกฤษฎีกาดังกล่าวมีทั้งหมด 8 ประเภท โดยมีจำนวน ผู้ให้บริการ ที่เข้าข่ายตามพระราชกฤษฎีกาฯ ดังนี้ 1.การให้บริการเงินอิเล็กทรอนิกส์ (e-Money) มีจำนวน 25-30 ราย เช่น ไทยสมาร์ทการ์ด ทรูมันนี่ 2.บริการเครือข่ายบัตรเครดิต 3.บริการเครือข่ายอีดีซี 4.บริการสวิตช์ชิ่งในการชำระเงิน 5.บริการหักบัญชี 6.บริการชำระดุล 7. การชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ผ่านอุปกรณ์อย่างใดอย่างหนึ่งหรือผ่านเครือข่าย มีจำนวน 52 ราย อาทิ ธนาคารพาณิชย์ของไทย สาขาธนาคารพาณิชย์จากต่างประเทศ ผู้ให้บริการที่มิใช่สถาบันการเงิน และ 8.บริการรับชำระเงินแทน เช่น บจ.ไปรษณีย์ไทย AIS pay station, Jaymart Pay point เป็นต้น

“ผู้ให้บริการ e-Payment ซึ่งเข้าข่ายประเภทธุรกิจภายใต้ พ.รฎ. e-Payment ในแต่ล่ะบัญชี ที่ประสงค์จะดำเนินธุรกิจของตนต่อไป ขอให้รีบดำเนินการยื่นแบบแจ้งให้ทราบ หรือขอขึ้นทะเบียน หรือขอรับใบอนุญาตตามประเภทธุรกิจของตนให้ทันวันจันทร์ที่ 16 มีนาคม 2552 นี้ มิฉะนั้นจะดำเนินธุรกิจต่อได้แค่ถึงวันที่ 13 พฤษภาคม 2552 นี้เท่านั้น ซึ่งหากผู้ให้บริการรายใดไม่ดำเนินการแจ้งหรือขึ้นทะเบียนหรือฝ่าฝืนคำสั่งห้ามประกอบธุรกิจ และยังคงดำเนินธุรกิจต่อไปจะมีความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ.2544 ซึ่งจะมีโทษปรับหรือจำคุกแล้วแต่กรณี โดยขณะนี้ธนาคารแห่งประเทศไทยได้มีการออกประกาศแต่งตั้งพนักงานของธนาคาร เพื่อปฏิบัติหน้าที่ตามที่พระราชกฤษฎีกาฯ ให้อำนาจไว้ในการเรียกผู้ให้บริการเพื่อให้ข้อมูล และเอกสารใดใดที่เกี่ยวข้อง และหากพบผู้ให้บริการรายใดที่มีการฝ่าฝืนไม่ดำเนินการตามกฎหมายกำหนด ทางธนาคารแห่งประเทศไทยก็จะส่งเรื่องให้คณะกรรมการธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์พิจารณามูลค่าความเสียหาย และดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป

ดังนั้น หากผู้ให้บริการายใดยังมีข้อสงสัยเกี่ยวกับประเภทธุรกิจของตนเองว่าเข้าข่ายต้องดำเนินการด้วยวิธีใด สามารถสอบถามรายละเอียดได้ที่ ฝ่ายระบบการชำระเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย โทร.02-283-6161หรือ [email protected] หรือ www.bot.or.th กระทรวงฯ จึงขอเชิญชวนผู้ให้บริการ e-Payment มาดำเนินการยื่นแบบแจ้งให้ทราบ หรือขอขึ้นทะเบียน หรือขอรับใบอนุญาตให้ทันตามกำหนดเวลา ทั้งนี้ เพื่อเป็นการช่วยสร้างมาตรฐานระบบการชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ให้มีประสิทธิภาพ เป็นที่ยอมรับในระดับสากล และช่วยให้ธุรกิจนี้มีการขยายตัวมากยิ่งขึ้น” นางสาวลัดดา กล่าว

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร. 02-5682453 ทิพวรรณ์ ไชยมะโย

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๒๒ พ.ย. รีเลชั่นชิพรีพับบลิค แนะกลยุทธ์สำคัญ นำพาธุรกิจร้านอาหารสู่ความสำเร็จ มัดใจลูกค้าให้อยู่หมัด
๒๒ พ.ย. ชมนวัตกรรมสุดล้ำในงาน METALEX 2024 หลายแบรนด์แกะกล่องเครื่องจักรครั้งแรกในงานนี้
๒๒ พ.ย. Bangkok Illustration Fair 2024 สู่การเติบโตก้าวใหญ่ในปีที่ 4
๒๒ พ.ย. ผลการจัดอันดับขีดความสามารถในการแข่งขันด้านดิจิทัลโดย IMD ประจำปี 2567 TMA เผยไทยครองอันดับ 37 ในการจัดอันดับด้านดิจิทัลปีนี้
๒๒ พ.ย. โก โฮลเซลล์ จัดเต็มสินค้า ส่งสุข สุดอร่อย เฉลิมฉลองเทศกาลส่งท้ายปี เข้มกระเช้าปีใหม่ดีมีมาตรฐาน พร้อมชู อาหารแช่แข็ง-อาหารสด
๒๒ พ.ย. กทม. จับมือสถานทูตเนเธอร์แลนด์ ประจำประเทศไทย จัดประชุมเชิงปฏิบัติการ ACTIVE Workshop เมืองเดินเท้า และจักรยานสัญจร ครั้งที่
๒๒ พ.ย. สัมผัสความหรูหราของวิลล่าริมทะเล VEYLA NATAI RESIDENCES ผ่านประสบการณ์เหนือระดับในงาน SOUL of VEYLA
๒๒ พ.ย. 'แอสเซทไวส์' จับมือ 'สยามกีฬา' เปิดศึกลูกหนังยุวชนทัวร์นาเมนต์ใหญ่แห่งปี AssetWise Siamkeela Cup 2024-25 ต่อเนื่องเป็นปีที่
๒๒ พ.ย. โรงแรมเรเนซองส์ เปิดตัว R FINDS แพลตฟอร์มดิจิทัลระดับโลก ที่จะเชื่อมมนต์เสน่ห์ชุมชนท้องถิ่นสู่นักเดินทางทั่วโลก
๒๒ พ.ย. electric.neon.lamp หยิบเพลงฮิต แม้ ใส่ฟีลดนตรีเหงาปนเศร้าในแบบ Piano Version