ผู้ประกอบการสินค้าตกแต่งบ้านกว่า 200 รายพร้อมใจร่วมงาน BIG & BIH เมษายน เชื่อเป็นช่องทางตรงพบผู้ซื้อตัวจริง ผลักดันรายได้ก้อนโตฝ่าวิกฤตเศรษฐกิจ

พุธ ๒๕ มีนาคม ๒๐๐๙ ๑๑:๒๐
ผู้ประกอบการในสมาคมสินค้าตกแต่งบ้านกว่า 200 ราย พร้อมใจเข้าร่วมงาน BIG & BIH เดือนเมษายน 2552 มั่นใจศักยภาพความแข็งแกร่งของงานดึงผู้ซื้อตัวจริงจากทั่วโลกเข้าชมงาน ดันยอดขายขยายตลาดส่งออกให้ผู้เข้าร่วมงานเพิ่มขึ้นแน่นอน ขณะที่จำนวนผู้เข้าร่วมจัดแสดงสินค้าในงานขณะนี้มีประมาณ 600 รายแล้ว ด้าน “พัทธ์ธีญา พสุจรัสพงศ์” นายกสมาคมสินค้าตกแต่งบ้าน แนะกลยุทธ์ผู้ประกอบการไทย ฝ่าวิกฤตเศรษฐกิจ ต้องเร่งปรับตัว ขยายช่องทางการจำหน่ายหลากหลาย จับตลาดในประเทศและประเทศเพื่อนบ้านมากขึ้น พร้อมรุกตลาดใหม่แถบยุโรปตะวันออก แอฟริกาใต้ เพราะกำลังซื้อสูงมีโอกาสขยายตัวมาก

นางพัทธ์ธีญา พสุจรัสพงศ์ นายกสมาคมสินค้าตกแต่งบ้าน เปิดเผยว่า ในขณะนี้สมาชิกของสมาคมกว่า 200 รายได้ตอบรับเข้าร่วมงานแสดงสินค้าของขวัญและงานแสดงสินค้าของใช้ในบ้าน (Bangkok International Gift Fair & Bangkok International Houseware Fair : BIG & BIH April 2009) ที่ กรมส่งเสริมการส่งออก กระทรวงพาณิชย์ จัดขึ้นระหว่างวันที่ 21-26 เมษายน ศกนี้ โดยเชื่อมั่นว่างาน BIG & BIH ครั้งนี้จะเป็นช่องทางที่ดีให้กับผู้ประกอบการขยายการทำตลาดส่งออกสินค้าของตกแต่งบ้านได้เพิ่มขึ้น เพราะนอกจากจะมีโอกาสพบปะกับผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมโดยตรงทั้งผู้นำเข้า ผู้ค้าส่ง ผู้ค้าปลีก แล้ว ยังทำให้ทราบถึงทิศทางความต้องการของตลาดด้วย ซึ่งจากการเข้าร่วมงาน BIG & BIH ที่ผ่านมา สมาชิกส่วนใหญ่ได้รับความสำเร็จด้วยดีกับยอดสั่งซื้อสินค้าที่เพิ่มขึ้น และล่าสุดในขณะนี้ได้มีจำนวนผู้เข้าร่วมจัดแสดงสินค้าในงาน BIG & BIH April 2009 ทั้งสิ้นประมาณ 600 รายแล้ว

ปัจจุบันสมาคมสินค้าตกแต่งบ้านมีสมาชิกทั้งสิ้นประมาณ 300 ราย แบ่งเป็น 2 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มผู้ประกอบการมืออาชีพ ซึ่งมีประมาณ 65% โดยมีประสบการณ์การทำตลาดส่งออกนานกว่า 10 ปี และกลุ่ม Young Trend ประมาณ 35% เป็นผู้ประกอบการรายใหม่ที่มีพื้นฐานในการขายและทำตลาดในประเทศ และมีความคิดที่จะทำตลาดส่งออก โดยเล็งเห็นว่าการเข้ามาร่วมจัดแสดงสินค้าในประเทศจะขยายโอกาสและต่อยอดขายสินค้าที่ดีให้กับตัวเอง

อย่างไรก็ดี จากสถานการณ์การส่งออกที่มีอัตราการเติบโตลดลง อันเนื่องมาจากภาวะเศรษฐกิจหดตัวทั่วโลก คาดว่าตลาดสินค้าตกแต่งบ้านในปี 2552 จะเป็นในทิศทางที่ทรงตัวจากปี 2551 โดยการส่งออกสินค้าของขวัญ ของชำร่วย และของตกแต่งบ้านในปีที่แล้ว มีมูลค่าการส่งออกทั้งสิ้นประมาณกว่า 27,000 ล้านบาท โดยมีตลาดหลัก ได้แก่ ยุโรป ประมาณ 60% สหรัฐอเมริกา 30% และตลาดอื่นๆ 10% ส่วนตลาดส่งออกที่มีศักยภาพในการเติบโต ได้แก่ โปแลนด์ สวิตเซอร์แลนด์ อิตาลี สเปน แคนาดา เนเธอร์แลนด์ กลุ่มประเทศตะวันออกกลาง กลุ่มประเทศผู้ผลิตน้ำมัน รวมถึงตลาดอาเซียนที่ไทยยังคงมีความได้เปรียบจีน ทั้งในด้านค่าขนส่งที่ถูกกว่า หรืออัตราภาษีภายใต้ข้อตกลงอาฟต้าที่มีผลให้สินค้าจากไทยจ่ายภาษีต่ำกว่าสินค้าจากจีน

สำหรับตลาดใหม่ที่น่าจับตามอง ได้แก่ ตลาดแถบยุโรปตะวันออก อาทิ รัสเซีย เช็คโกสโลวาเกีย เป็นต้น ซึ่งประเทศเหล่านี้มีกำลังซื้อพอสมควร ขณะที่ประเทศแอฟริกาใต้ ยังมีช่องทางที่จะเข้าไปทำตลาดได้อีกมาก แต่จะต้องศึกษาพฤติกรรมการซื้อสินค้าและการดำรงชีวิตของผู้บริโภคด้วยว่านิยมซื้อสินค้าประเภทใด นอกจากนี้ยังมีประเทศเม็กซิโก ชิลี และอาร์เจนติน่า เป็นต้น เนื่องจากเป็นตลาดที่มีกำลังซื้อสูง ส่วนในแถบเอเชียได้แก่ กัมพูชา ลาว และจีน

นางพัทธ์ธีญากล่าวต่อว่า การทำตลาดของผู้ประกอบการไทยในขณะนี้ ควรจะให้ความสำคัญและนำสินค้ามาจัดแสดงในงานแสดงสินค้าให้มากขึ้น โดยเฉพาะผู้ประกอบการรายใหม่ที่มีความคิดจะทำตลาดส่งออก ควรใช้เวที BIG & BIH เป็นการเริ่มต้นและทดสอบการทำตลาดของตนเอง เนื่องจากเป็นงานแสดงสินค้าที่ใหญ่และได้รับการยอมรับจากผู้เข้าชมงานจำนวนมากทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งผู้เข้าชมงานส่วนใหญ่เป็นผู้ซื้อตัวจริง นับเป็นส่วนสำคัญที่จะขยายการทำตลาดได้เป็นอย่างดี และจะเป็นการเริ่มต้นที่ดีสำหรับผู้ประกอบการรายใหม่ที่สนใจทำตลาดส่งออก แต่ยังไม่มีความชำนาญและประสบการณ์ในการนำสินค้าไปร่วมแสดงในงานในต่างประเทศ

“ที่สำคัญผู้ประกอบการควรจะต้องเร่งปรับตัว เพื่อรองรับกับความผันแปรของเศรษฐกิจและการแข่งขันของประเทศคู่แข่ง มุ่งเน้นสร้างพันธมิตรทางการค้าที่ดีกับคู่ค้ารายเดิม เร่งสำรวจและศึกษาลู่ทางการตลาดใหม่ๆ อย่างต่อเนื่องและจริงจังมากขึ้น พร้อมกับหาวิธีลดต้นทุนการผลิตหรือพยายามคงราคาเดิม หาทางใช้วัตถุดิบตามธรรมชาติที่ประเทศไทยหาได้ง่ายและราคาถูก ขณะเดียวกันก็เร่งพัฒนาแรงงานฝีมือของไทยให้สามารถประดิษฐ์ชิ้นงานที่มีความประณีตและมีรายละเอียดในชิ้นงานเพิ่มขึ้น รวมทั้งขยายช่องทางการจำหน่ายให้หลากหลายมากขึ้น และหันมามองโอกาสในการขยายตลาดภายในประเทศ เนื่องจากปัจจัยภายในประเทศยังมีความเอื้ออำนวยอยู่บ้าง หากทำได้เช่นนี้มั่นใจว่าจะสามารถฝ่าฟันวิกฤตนี้ไปได้อย่างแน่นอน” นางพัทธ์ธีญากล่าวทิ้งท้าย

งาน BIG & BIH April 2009 จัดขึ้นระหว่างวันที่ 21-26 เมษายน 2552 เป็นวันเจรจาธุรกิจ 21-24 เมษายน เวลา 10.00-18.00 น. และวันจำหน่ายปลีก 25-26 เมษายน เวลา 10.00-21.00 น. ณ อาคาร 1-8 อิมแพ็ค เมืองทองธานี บนพื้นที่ 47,000 ตารางเมตร จัดขึ้นเป็นครั้งที่ 27 ภายใต้แนวคิด “Unique Lifestyle” โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อต้องการให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการผลิตและการส่งออกสินค้าของขวัญ ของตกแต่งบ้านและของใช้ในบ้านในภูมิภาคเอเชีย ขยายขอบเขตของงานให้กว้างขวางมากขึ้น มุ่งเน้นให้เป็นงานระดับนานาชาติ รวมทั้งเป็นสื่อนำผู้ซื้อจากประเทศต่างๆ ทั่วโลกมาพบผู้ผลิตผู้ส่งออกไทย คาดว่าจะมีผู้สนใจเข้าเยี่ยมชมงานทั้งในและต่างประเทศไม่น้อยกว่า 100,000 คน

รายละเอียดเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ

คุณเมยานี เชิญพิพัฒธนสกุล

บริษัท มาร์เก็ตติ้ง อินทิเกรชั่น จำกัด

โทร 0 2574 6414 โทรสาร 0 2574 6415

อีเมล์ [email protected], [email protected]

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๗:๒๑ 60 ปีแห่งความมุ่งมั่น! คาโอ คว้ารางวัลอุตสาหกรรมดีเด่น 2 ประเภทในปี 2567 ชูความสำเร็จด้านสิ่งแวดล้อมและความรับผิดชอบต่อสังคม
๑๗:๒๓ AVATR ก้าวสู่ความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่! ระดมทุนในรอบ Series C ได้มากกว่า 11,000 ล้านหยวน พร้อมก้าวสู่ความเป็นผู้นำในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าหรูหราแห่งอนาคต
๑๗:๐๖ Zoom เปิด 10 เทรนด์ ใช้ AI ในการทำงานปี 2568
๑๗:๑๐ เปิดมุมมองอาชีพที่หลากหลายในอุตสาหกรรมกาแฟไทย เจาะลึกบทบาทและแนวทางยกระดับสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน
๑๗:๑๔ อนาคตแห่งการเดินทาง: 5 คนขับ AI จากแอปเรียกรถ Maxim
๑๗:๕๕ Well-Being House บ้านชั้นเดียวเอาใจคนวัยเกษียณ
๑๗:๑๖ กทม. แจงเปิดกว้างการแข่งขันโครงการเช่าคอมพิวเตอร์พกพาสำหรับนักเรียน
๑๖:๓๗ รายงาน Ericsson Mobility Report ฉบับล่าสุด เผยผู้เริ่มให้บริการ 5G กลุ่มแรกกำลังมุ่งสู่โมเดลธุรกิจที่เน้นประสิทธิภาพ
๑๗:๒๕ เมดีซ กรุ๊ป ร่วมสมทบทุนสนับสนุนมูลนิธิโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราช ช่วยผู้ป่วยในชนบท ถิ่นทุรกันดารที่ห่างไกล
๑๖:๔๔ CNN จับตา นวัตกรรมล่าสุดจากนักวิจัยไทย พลิกโฉมการตรวจคัดกรองความเครียดด้วย เหงื่อ