นายสุเมธ เจียมบุตร นายกสมาคมเครื่องทำความเย็นไทย เปิดเผยว่า “แม้ในภาวะวิกฤตเศรษฐกิจโลก อุตสาหกรรมเครื่องทำความเย็นของไทยมีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง ตามการขยายตัวของอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่ม รวมทั้งธุรกิจร้านอาหารซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการดำรงชีวิตมนุษย์ นอกจากนั้น อุตสาหกรรมเครื่องทำความเย็นยังมีส่วนสำคัญในการสนับสนุนการดำเนินธุรกิจค้าปลีกทุกระดับ ไม่ว่าจะเป็นมินิมาร์ท ร้านสะดวกซื้อ ซูปเปอร์มาร์เก็ต และ ไฮเปอร์มาร์เก็ต ซึ่งเป็นช่องทางการจำหน่ายผลิตภัณฑ์อาหารที่สามารถเข้าถึงผู้บริโภคอย่างกว้างขวางในปัจจุบัน”
นายสุเมธกล่าวเสริมว่า “ไทยให้ความสำคัญกับการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีระบบ ทำความเย็นอย่างไม่หยุดยั้ง โดยเฉพาะระบบแช่เยือกแข็งซึ่งเป็นหัวใจของอุตสาหกรรมอาหาร แช่แข็ง ที่กำลังได้รับความนิยมอย่างสูงในประเทศ เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการบริโภคเพื่อให้สอดคล้องกับวิถีการดำรงชีวิตสมัยใหม่ที่เร่งรีบ ประกอบกับการกระจายสินค้าผ่านช่องทางต่างๆ ซึ่งเข้าถึงผู้บริโภคมากขึ้น เช่นเดียวกับตลาดต่างประเทศที่ตลาดอาหารแช่แข็งยังคงขยายตัวตลอดเวลา จากรายงานยอดการส่งออกอาหารแช่แข็งของไทยในปีที่ผ่านมา พบว่ายอดการส่งออกอาหารแช่แข็งในตลาดหลัก อาทิ สหภาพยุโรป และอเมริกา ปรับตัวสูงขึ้นจากปีก่อนมาก เนื่องจากในภาวะวิกฤตเศรษฐกิจ ผู้บริโภคได้หันมาบริโภคอาหารแช่แข็งแทนการบริโภคอาหารนอกบ้าน”
“นอกจากนั้น การส่งออกอุปกรณ์และระบบทำความเย็นต่างๆ ที่ช่วยรักษาความสดและคุณภาพของอาหารตลอดกระบวนการแช่แข็งอาหาร (Cold Chain) ตั้งแต่การเก็บเกี่ยวผลผลิตจนถึงมือผู้บริโภคยังคงเติบโต ทั้งในส่วนของเครื่องผลิตน้ำแข็งแผ่น (Plate Ice) ที่ใช้ในการแช่อาหารสด ซึ่งผลิตด้วยเทคโนโลยีใหม่ล่าสุด ประสิทธิภาพสูง ประหยัดพลังงาน และบำรุงรักษาง่าย เครื่องผลิตน้ำแข็ง แบบเกล็ดซึ่งใช้ในร้านอาหารและร้านสะดวกซื้อ เครื่องบรรจุน้ำแข็งอัตโนมัติ รวมทั้งผลิตภัณฑ์อื่นๆ ซึ่งนอกจากผู้ประกอบการอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่ม และธุรกิจค้าปลีกในประเทศแล้ว ยังมีกลุ่มลูกค้าหลักในหลายๆ ตลาดทั่วโลก อาทิ หมู่เกาะมาร์แชล ปากีสถาน มัลดีฟส์ บังกลาเทศ และอาเซียน” นายสุเมธกล่าวเสริม
นายสุเมธได้ยืนยันถึงข้อได้เปรียบของอุตสาหกรรมเครื่องทำความเย็นของไทยว่า “ประเทศไทยมีความพร้อมในด้านบุคลากรทางเทคนิคที่มีความเชี่ยวชาญในการพัฒนาเทคโนโลยีและระบบทำความเย็น ที่สามารถออกแบบและพัฒนาเทคโนโลยีให้สามารถตอบสนองความต้องการอันหลากหลายของผู้ซื้อเฉพาะกลุ่ม โดยไทยได้ให้ความสำคัญกับการพัฒนาศักยภาพบุคลากรในด้านนี้ซึ่งนับเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญในการผลักดันไทยสู่การเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมเครื่องทำความเย็นของอาเซียน ตลอดจนสร้างความได้เปรียบ และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของไทยในตลาดโลก”
นายสุเมธยังได้กล่าวถึงงานแสดงสินค้าเครื่องปรับอากาศและเครื่องทำความเย็น 2552 หรือ Bangkok RHVAC 2009 ซึ่งกำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 7-11 ตุลาคม 2552 ณ ศูนย์แสดงสินค้าอิมแพ็ค เมืองทองธานี ว่า “นี่คืองานแสดงสินค้าเครื่องทำความเย็นเพียงงานเดียวของประเทศ และโดดเด่นที่สุดในภูมิภาคอาเซียน เพียบพร้อมด้วยหลากหลายผลิตภัณฑ์และเทคโนโลยีเครื่องทำความเย็น ตลอดจนบริการและธุรกิจที่เกี่ยวข้องครบวงจร นอกจากนั้น การจัด Bangkok RHVAC 2009 พร้อมกับ Bangkok Electric & Electronics 2009 (Bangkok E&E 2009) ซึ่งเป็นงานแสดงสินค้าและบริการด้านไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ครบวงจร จะช่วยเพิ่มโอกาสทางการค้ามากยิ่งขึ้น จึงนับเป็นโอกาสสำคัญที่ผู้ประกอบการจะได้แนะนำผลิตภัณฑ์และบริการสู่กลุ่มผู้ซื้อที่มีศักยภาพจากทั่วทุกมุมโลก”
ผู้สนใจเข้าร่วมแสดงสินค้าสามารถสมัครได้วันนี้จนถึงวันที่ 30 เมษายน 2552
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม ที่สำนักบริการการส่งออก 2
โทร.0-2512-0093-104 ต่อ 272, 250, 293
โทรสาร 0-2512-2234, 0-2512-1565 อีเมล์ : [email protected] เว็บไซต์ www.bangkok-rhvac.com