สธ. ชื่นชม 40 ร้านอาหารต้นแบบ สร้างเทรนด์ใหม่สมัครใจไม่ขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์วันสงกรานต์

ศุกร์ ๑๐ เมษายน ๒๐๐๙ ๑๐:๑๔
สธ. ชื่นชม 40 ร้านอาหารต้นแบบ สร้างเทรนด์ใหม่สมัครใจไม่ขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์วันสงกรานต์ หวังเป็นส่วนหนึ่งสร้างจิตสำนึกดีให้สังคม ไม่กระตุ้นคนดื่มเหล้าช่วงเทศกาล

สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ร่วมกับกระทรวงสาธารณสุข จัดพิธีมอบประกาศเกียรติคุณ“อร่อย...ดี สงกรานต์นี้ ไม่มีเหล้า” โดยนายวิทยา แก้วภราดัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้แก่ร้านอาหารต้นแบบ 40 ร้านดัง ที่สมัครใจให้ความร่วมมืองดจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในวันสงกรานต์ (13 เมษายนนี้) ด้วยตัวเอง และร่วมปฏิบัติตามกฎหมายเพื่อป้องกันนักดื่มหน้าใหม่อย่างจริงจัง หวังเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างจิตสำนึกที่ดีในสังคม ลดปัญหาอันสืบเนื่องจากการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์

นายวิทยา แก้วภราดัย เป็นประธานเปิดพิธีมอบประกาศเกียรติคุณร้านอาหารต้นแบบ และร่วมสาธิตการทำเครื่องดื่มทางเลือกสำหรับสังสรรค์ในเทศกาลสงกรานต์นี้ ก่อนปิดท้ายงานด้วยการร่วมกันติดสัญลักษณ์แสดงเจตนารมย์รณรงค์ไม่จำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในวันสงกรานต์ที่13 เมษายนนี้บนรายการอาหารของร้านอาหารกว่า 40 ร้านที่เข้าร่วมโครงการ

นายมานิตย์ นพอมรบดี รัฐมนตรีช่วยว่าการสาธารณสุข กล่าวว่า ผมต้องขอขอบคุณแทนประชาชนชาวไทยทั้งประเทศ และขอยกย่องเชิดชูสมาคมภัตตาคารไทยและร้านอาหาร ทั้ง 40 ร้าน ที่เป็นต้นแบบที่ดีงามในการร่วมสนับสนุนนโยบายของกระทรวงสาธารณสุขในการงดขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในวันสงกรานต์ (13 เมษายน 2552) และร่วมปฏิบัติตามกฎหมายเพื่อป้องกันนักดื่มหน้าใหม่และเป็นส่วนหนึ่งในการลดปัญหาจากการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ โดย 1) ไม่ขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ให้เด็กอายุต่ำกว่า 20 ปี 2) ไม่ขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ให้คนเมาครองสติไม่ได้ 3) ขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เฉพาะในเวลา 11.00-14.00 น. และ 17.00 — 24.00 น. ซึ่งนับเป็นเป็นต้นแบบในการปฏิบัติตาม พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ. 2551 มาตรา 29 และประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 253 พ.ศ.2515

คุณปวรวรรณ กุลมงคล นายกสมาคมภัตตาคารไทย กล่าวว่า พวกเราผู้ประกอบการภัตตาคารร้านอาหารตระหนักถึงปัญหาต่างๆ ที่มีสาเหตุมาจากการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ จึงขอร่วมแสดงความรับผิดชอบต่อสังคมไทย ไม่เพียงสมาชิกร้านอาหาร 40 ร้านค้าที่มาร่วมงานในวันนี้เท่านั้นที่จะร่วมงดขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในวันสงกรานต์ จากการประสานงานเราคาดว่าจะมีสมาชิกภัตตาคารร้านอาหารอีกหลายแห่งที่พร้อมและยินดีจะแสดงเจตนารมย์ร่วมกัน ร้านอาหารที่มาร่วมรณรงค์ในวันนี้กว่า 40 ร้าน ประกอบไปด้วย 1.Black Canyon (Thailand) 2.เจริญไทยโภชนา คลองสาน 3.เฉินหูฉลาม 4.เปรี้ยวปาก 5.เมอร์ซาโต้ บาย ธันยาภรณ์ 6.เมี่ยงปลา 7.เยาวราชโภชนา 8.เลยฝัน 9.แพท่าจีน 10.แพฟ้าไทย 11.แหล 12.โกขิง 13.ไผ่โอชะ 14.กระท่อมเดือนเพ็ญ 15.กันเอง ลำปำ 16.ครัวเว โรเนก้า การ์เด้นส์ (สุทธิสาร) 17.ครัวกันยา 18.ครัวนครพันธ์ 19.ครัวริมน้ำท้ายเกาะ 20.คู เต่า 21.ซีซี สเต็ก บ้านคุณล้าน 22.ซุ้มพฤกษา 23.นวลจันทร์ 24.น้องนิต 25.บางกอกแนลเชอรัลสปา 26.บ้านเฌอมาลย์ 27.บ้านฝันตะวันรัญจวน 28.บิ๊กบูมทะเลเดือด 29.ประสบ สุข 30.พระราม 9 ไก่ย่าง 31.ฟู้ดคอร์ส เดอะมอลล์กรุ๊ป 32.ภตตาคารไพซาโน 33.มาม่า น้ำแข็งใส 34.มาราตีโภชนา 35.รถไฟริมคลอง 36.สบาย สบาย 37.สุมาลีสาลี่สุพรรณ 38.อิ่มปลาเผา สาขาเชียงใหม่ 39.อิ่มปลาเผา สาขาชัยพฤกษ์ 40.อุดมโภชนา

ทั้งนี้ คุณปวรวรรณ กุลมงคล นายกสมาคมภัตตาคารไทย ขอเชิญชวนครอบครัวทุกครอบครัวที่จะเฉลิมฉลองวันสงกรานต์อย่างสบายใจไม่มีแอลกอฮอล์ ไปร่วมฉลองกันได้ตามร้านอาหารที่มีป้ายสัญญลักษณ์ “อร่อย...ดี สงกรานต์นี้ไม่มีเหล้า” ติดหน้าร้าน ซึ่งเปิดเป็นพื้นที่ปลอดภัยสำหรับครอบครัวโดยเฉพาะ สามารถตรวจสอบรายชื่อร้านอาหารที่ร่วมโครงการได้ที่ www.tra-thailand.com และ www.thaihealth.or.th และสำหรับผู้ประกอบการท่านใดอยากร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการเสียสละเพื่อสังคมไทย สามารถติดต่อเข้าร่วมโครงการได้ที่ สมาคมภัตตาคารไทย โทร 02-938-0696

ดร.สุปรีดา อดุลยานนท์ รองผู้จัดการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ กล่าวเสริมว่า จำนวนผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุจราจรในช่วงเทศกาลสงกรานต์จะสูงกว่าช่วงเวลาปกติถึง 2.6 เท่า เฉลี่ย 84 รายต่อวัน โดยข้อมูลจากศูนย์นเรนทร ระบุว่า ในวันที่ 13 เมษายน 2551 มีผู้เสียชีวิตที่มีสาเหตุจากการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ รวม 41 ราย หากประเมินมูลค่าความสูญเสียซึ่งได้จากผลการศึกษาของกระทรวงคมนาคม ระบุไว้ว่า ผู้เสียชีวิต 1 คน มีต้นทุนเฉลี่ยอยู่ที่ 5.4 ล้านบาท หากลดจำนวนผู้เสียชีวิตในวันสงกรานต์ได้ 41 คน จะลดความสูญเสียได้ถึงมูลค่า 221.4 ล้านบาท และมิใช่เพียงแค่ช่วยลดปัญหาอุบัติเหตุจราจร เพราะปัญหาจากการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ยังเป็นสาเหตุที่ก่อให้เกิดปัญหาอื่นๆ ตามมา อาทิ การทำร้ายร่างกาย การก่ออาชญากรรม การละเมิดทางเพศ ปัญหาสุขภาพ

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ติดต่อ

คิธธ์ วงศ์อาษา

แผนงานสื่อสารการตลาดเพื่อสังคม สสส.

โทร 02-298-0222

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร. 02-298-0222 ต่อ 511 คิธธ์ วงศ์อาษา

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๗:๒๑ 60 ปีแห่งความมุ่งมั่น! คาโอ คว้ารางวัลอุตสาหกรรมดีเด่น 2 ประเภทในปี 2567 ชูความสำเร็จด้านสิ่งแวดล้อมและความรับผิดชอบต่อสังคม
๑๗:๒๓ AVATR ก้าวสู่ความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่! ระดมทุนในรอบ Series C ได้มากกว่า 11,000 ล้านหยวน พร้อมก้าวสู่ความเป็นผู้นำในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าหรูหราแห่งอนาคต
๑๗:๐๖ Zoom เปิด 10 เทรนด์ ใช้ AI ในการทำงานปี 2568
๑๗:๑๐ เปิดมุมมองอาชีพที่หลากหลายในอุตสาหกรรมกาแฟไทย เจาะลึกบทบาทและแนวทางยกระดับสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน
๑๗:๑๔ อนาคตแห่งการเดินทาง: 5 คนขับ AI จากแอปเรียกรถ Maxim
๑๗:๕๕ Well-Being House บ้านชั้นเดียวเอาใจคนวัยเกษียณ
๑๗:๑๖ กทม. แจงเปิดกว้างการแข่งขันโครงการเช่าคอมพิวเตอร์พกพาสำหรับนักเรียน
๑๖:๓๗ รายงาน Ericsson Mobility Report ฉบับล่าสุด เผยผู้เริ่มให้บริการ 5G กลุ่มแรกกำลังมุ่งสู่โมเดลธุรกิจที่เน้นประสิทธิภาพ
๑๗:๒๕ เมดีซ กรุ๊ป ร่วมสมทบทุนสนับสนุนมูลนิธิโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราช ช่วยผู้ป่วยในชนบท ถิ่นทุรกันดารที่ห่างไกล
๑๖:๔๔ CNN จับตา นวัตกรรมล่าสุดจากนักวิจัยไทย พลิกโฉมการตรวจคัดกรองความเครียดด้วย เหงื่อ