ระบบพิทักษ์คุณธรรมไทยเป็นที่ยอมรับ ประเทศเนปาลเตรียมใช้เป็นต้นแบบ

ศุกร์ ๑๗ เมษายน ๒๐๐๙ ๑๒:๐๙
รัฐมนตรีกระทรวงการบริหารทั่วไปของประเทศเนปาล นำคณะเดินทางศึกษาดูงานระบบพิทักษ์คุณธรรมของไทย ระบุ เพื่อนำไปใช้ในการพัฒนาระบบคุณธรรมในวงราชการของประเทศในอนาคต

นางจรวยพร ธรณินทร์ กรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรม (ก.พ.ค.) ในฐานะโฆษก ก.พ.ค.กล่าวว่า ที่ผ่านมา นางสาวแพมพา บูซาล (Ms.Pampha Bhusal) รัฐมนตรีกระทรวงการบริหารทั่วไปของประเทศเนปาล และคณะ ได้เดินทางเข้าเยี่ยมและศึกษาดูงาน ระบบพิทักษ์คุณธรรมของประเทศไทย เพื่อนำไปใช้ในการพัฒนาระบบคุณธรรมในวงราชการของประเทศเนปาล ซึ่งคณะของนางสาวแพมพา บูซาล รัฐมนตรีกระทรวงการบริหารทั่วไปเนปาลได้ให้ความสนใจการนำเสนอรายละเอียดระบบพิทักษ์คุณธรรมของประเทศไทยเป็นอย่างมาก พร้อมกันนี้ ได้สนับสนุนแนวทางการใช้หลักธรรมาภิบาลในการสรรหาและแต่งตั้งข้าราชการ เพื่อป้องกันมิให้เกิดข้อคับข้องใจที่นำไปสู่การร้องทุกข์ จนทำให้องค์กร ด้อยประสิทธิภาพ เนื่องจากขาดขวัญและกำลังใจ

อย่างไรก็ตาม รัฐมนตรีกระทรวงการบริหารทั่วไปของประเทศเนปาล ได้ตั้งข้อสังเกตเกี่ยวกับระบบพิทักษ์คุณธรรมของข้าราชการพลเรือนไทยว่า ควรกำหนดให้ ก.พ.ค. เป็นองค์กรในการคุ้มครองระบบคุณธรรมเพียงองค์กรเดียว จากปัจจุบันที่ประเทศไทยมีองค์กรกลางบริหารงานบุคคลของช้าราชการทุกประเภทรวมถึง 13 คณะ และต่างมีกฎหมายเฉพาะ เช่น ข้าราชการครู ข้าราชการพลเรือนในสถาบันอุดมศึกษา ตำรวจ ข้าราชการรัฐสภา พนักงานส่วนท้องถิ่น อบต. อบจ. เทศบาล และกรุงเทพมหานคร ฯลฯ หรือมิเช่นนั้นก็ควรมีการปฏิบัติ ที่เป็นมาตรฐานเดียวกัน เพื่อให้ข้าราชการมีหลักประกันในความยุติธรรมและความเสมอภาค

นอกจากนี้ ได้ตั้งข้อสังเกตกรณีการใช้ข้อกำหนดให้การบริหารงานบุคคลต้องคำนึงถึงความรู้ ความสามารถ และปลอดจากการเมือง จากการที่ข้าราชการประจำต้องทำงานอยู่ภายใต้นโยบายของนักการเมือง

สำหรับความก้าวหน้าในการดำเนินงานของ ก.พ.ค. นั้น โฆษก ก.พ.ค.กล่าวว่า ตั้งแต่เดือนธันวาคม 2551 ถึงมีนาคม 2552 มีเรื่องร้องเข้ามาที่ ก.พ.ค. แล้วรวม 133 เรื่อง โดย เป็นเรื่องที่อยู่ในอำนาจของ ก.พ.ค. รวม 41 เรื่อง แบ่งเป็นเรื่องอุทธรณ์ 18 เรื่อง และเรื่อง ร้องทุกข์ 23 เรื่อง ซึ่งในส่วนของการร้องทุกข์ที่มีสาเหตุจากการจัดบุคคลลงตำแหน่ง ภายหลังยกเลิกระบบซี ตั้งแต่วันที่ 11 ธันวาคม 2551 ที่ผ่านมานั้น ทาง ก.พ.ค.จะได้มีการหารือกับคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) เพื่อหาแนวทางแก้ปัญหาต่อไป โดยยืนยันจะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย

ส่วนเรื่องไม่อยู่ในอำนาจวินิจฉัยของ ก.พ.ค. ซึ่งมีจำนวน 92 เรื่อง โฆษก ก.พ.ค. กล่าวว่า ก.พ.ค. จะยังเร่งเดินหน้าเพื่อทำความเข้าใจกับข้าราชการต่อไปเพื่อให้ทราบว่าในส่วนที่มิใช่ข้าราชการพลเรือนต้องอุทธรณ์และร้องทุกข์ไปที่หน่วยงานต้นสังกัด ในขณะที่เรื่องร้องทุกข์ ของข้าราชการพลเรือนที่สามารถส่งมายัง ก.พ.ค. นั้น จะกำหนดเฉพาะในส่วนที่ความคับข้องใจเกิดจากผู้บังคับบัญชาในระดับนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรี และปลัดกระทรวง

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร. สายด่วน 1786 กลุ่มสื่อสารองค์กร สำนักงาน ก.พ.

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๓๑ ม.ค. รู้จักโรคอ้วนดีแล้ว.จริงหรือ?
๓๑ ม.ค. บมจ.ไทยเซ็นทรัลเคมี ร่วมกับ MBK ส่งมอบปฏิทินในกิจกรรม ปฏิทินเก่ามีค่า เราขอ
๓๑ ม.ค. BSRC ออกหุ้นกู้รอบใหม่ 8,000 ล้านบาท ยอดจองเกินเป้า ตอกย้ำความเชื่อมั่นของผู้ลงทุน
๓๑ ม.ค. คปภ. ร่วมสัมมนาประกันภัย ครั้งที่ 29 เตรียมรับมือความเสี่ยงอุบัติใหม่ พลิกโฉมธุรกิจประกันภัยสู่ความท้าทายในอนาคต
๓๑ ม.ค. มอบของขวัญให้กับครอบครัวของคุณช่วงวันหยุดพิเศษที่ สเตย์บริดจ์ สวีท แบงค็อก สุขุมวิท
๓๑ ม.ค. OR เปิดตัว CEO คนใหม่ หม่อมหลวงปีกทอง ทองใหญ่ มุ่งผลักดันไทยสู่ Oil Hub แห่งภูมิภาค พร้อมขับเคลื่อนองค์กรด้วยดิจิทัล-นวัตกรรม
๓๑ ม.ค. เดลต้า ประเทศไทย คว้ารางวัล ASEAN's Top Corporate Brand ประจำปี 2567
๓๑ ม.ค. โรงแรมอลอฟท์ กรุงเทพ สุขุมวิท 11 พลิกโฉมใหม่ สุดโมเดิร์น! พร้อมเปิดตัว w xyz bar ตอกย้ำความสนุกในแบบฉบับ
๓๑ ม.ค. PAUL JOE เปิดตัว GLOSSY ROUGE ต้อนรับฤดูใบไม้ผลิ 2025
๓๑ ม.ค. บริษัท โกซอฟท์ (ประเทศไทย) ได้รับเกียรติบัตรศูนย์ รับเรื่องและแก้ไขปัญหาให้กับผู้บริโภคระดับดีเด่น จาก สคบ. และการรับรองมาตรฐาน ISO