อคส. ย้ำ 2 ธุรกิจหลัก การค้าในและต่างประเทศ และการบริการคลังสินค้าและขนส่ง สร้างความมั่นคงทางรายได้อย่างยั่งยืน

จันทร์ ๒๐ เมษายน ๒๐๐๙ ๐๙:๑๗
อคส. ย้ำ 2 ธุรกิจหลัก การค้าในและต่างประเทศ และการบริการคลังสินค้าและขนส่ง สร้างความมั่นคงทางรายได้อย่างยั่งยืน

พร้อมปรับโฉมใหม่ฉับไว โปร่งใส เพิ่มศักยภาพบุคลากรและสารสนเทศ

องค์การคลังสินค้า (อคส.) พร้อมก้าวสู่ปีที่ 55 ด้วยการปรับโฉมใหญ่โดยกลับมาเน้น 2 ธุรกิจหลัก ประกอบด้วย การค้าสินค้าอุปโภคบริโภคทั้งตลาดในประเทศและต่างประเทศ และธุรกิจบริการให้เช่าคลังสินค้าและขนส่งสินค้าแก่องค์กรทั้งภาครัฐและเอกชน พร้อมปรับระบบสารสนเทศ บุคลากร และระบบบัญชี เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพความฉับไวและโปร่งใส ขณะเดียวกัน รุกประชาสัมพันธ์ทั้งเชิงรุกและเชิงรับ เพื่อเสริมสร้างภาพลักษณ์ที่ดีและสร้างความเข้าใจที่ถูกต้อง

นายวิวัฒน์ เลาหพูนรังษี ประธานคณะกรรมการองค์การคลังสินค้า (อคส.) กล่าวในโอกาสที่อคส.จัดพิธีฉลองวันคล้ายวันสถาปนา ครบรอบ 54 ปี ว่า อคส.ได้ก่อตั้งเป็นรัฐวิสาหกิจแห่งเดียวในสังกัดกระทรวงพาณิชย์ เพื่อบริหารจัดการโครงการของรัฐตามนโยบายของรัฐบาลและดำเนินธุรกิจการค้าและธุรกิจโลจิกติกส์ที่ได้มาตรฐานสากลเพื่อสนับสนุนการแข่งขันและเพิ่มประสิทธิภาพของตลาด ซึ่งครอบคลุมการดูแลโครงการรับจำนำและขนส่งสินค้าข้าวและเกษตร รวมถึงสินค้าอุปโภคบริโภคทั่วประเทศ เพื่อสร้างความเป็นธรรมให้แก่ทั้งผู้ผลิตและผู้บริโภคมาเป็นเวลากว่า 54 ปีแล้ว โดยมีรายได้หลักจากการรับค่าบริหารจัดการในการรับดำเนินงานโครงการรับจำนำผลิตผลการเกษตรของรัฐบาล โดยขึ้นกับปริมาณการรับจำนำในแต่ละครั้ง

อย่างไรก็ตาม เพื่อสร้างความมั่นคงทางรายได้ให้กับองค์กร คณะกรรมการชุดใหม่ของอคส.ซึ่งเริ่มวาระการทำงานตั้งแต่ปลายเดือนมกราคมที่ผ่านมา ได้ปรับการดำเนินงานโดยกลับมาเน้น 2 ธุรกิจหลัก ประกอบด้วย การค้าสินค้าอุปโภคบริโภคทั้งตลาดในประเทศและต่างประเทศ และธุรกิจบริการให้เช่าคลังสินค้าแก่องค์กรทั้งจากภาครัฐและเอกชน ซึ่งสามารถสร้างรายได้จำนวนมากได้อย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ ธุรกิจหลักดังกล่าวเป็นภารกิจหลักของอคส.ซึ่งอยู่ภายใต้พระราชกฤษฎีกา พ.ศ. 2498 เมื่อครั้งก่อตั้งอคส.

สำหรับธุรกิจการค้าสินค้าอุปโภคบริโภคนั้น อคส.มีภารกิจในการเป็นตัวแทนจัดจำหน่ายสินค้าที่ได้รับจำนำจากเกษตรกรแก่ผู้บริโภคทั้งในและต่างประเทศ โดยตลาดในประเทศนั้น อคส.มีภารกิจหลักในการจัดจำหน่ายสินค้าในราคาถูกเพื่อช่วยเหลือผู้บริโภคที่มีรายได้น้อยโดยส่วนหนึ่งได้ร่วมมือกับโครงการธงฟ้าของกระทรวงพาณิชย์

ด้านการจัดจำหน่ายสินค้าในต่างประเทศ อคส.จะเน้นการรวบรวมสินค้าเกษตร ข้าว และสินค้าอุปโภคบริโภคจากผู้ผลิตคนไทยเพื่อส่งออก โดยในเดือนมีนาคม คณะกรรมการชุดใหม่ได้ส่งตัวแทนไปเจรจาการจัดจำหน่ายสินค้าในประเทศสหรัฐอเมริกาแล้ว และที่ผ่านมา อคส.ยังได้เปิดตลาดการจำหน่ายสินค้าข้าวหอมมะลิภายใต้ตราสินค้า Jin Tai Yu และขณะนี้ ได้วางแผนที่จะส่งออกไปประเทศอังกฤษ ประเทศในแถบตะวันออกกลาง และตลาดใหม่อื่นๆ ตามนโยบายของกระทรวงพาณิชย์ที่ต้องการให้ประเทศไทยเปิดตลาดใหม่ๆ นอกจากนี้ ยังศึกษาความเป็นไปได้ที่จะสร้างธุรกิจการเป็นตัวแทนนำเข้าสินค้าเกษตรและอุปโภคบริโภคจาก อคส.ในประเทศต่างๆ ที่การแข่งขันยังไม่สูง โดยจะสร้างศูนย์กระจายสินค้าในประเทศนั้นๆ

สำหรับธุรกิจการบริการให้เช่าคลังสินค้าและขนส่งนั้น ปัจจุบันอคส.มีคลังสินค้า 2 แห่งในกรุงเทพมหานคร และ 5 แห่งในต่างจังหวัดทั่งประเทศ ซึ่งยังไม่เพียงพอต่อการรองรับปริมาณพืชผลการเกษตรที่รัฐรับจำนำในจำนวนมาก อคส.จึงได้วางแผนที่จะเพิ่มจำนวนคลังสินค้า โดยขณะนี้ คณะกรรมการได้เริ่มศึกษาความสามารถของแต่ละพื้นที่ที่จะรองรับพืชผลการเกษตรในท้องถิ่นและบริเวณใกล้เคียง และระบบขนส่งสินค้า (Logistic) ในพื้นที่นั้นๆ เพื่อจัดหาพื้นที่ที่เหมาะสำหรับการตั้งคลังสินค้าเพิ่ม และเปิดให้ภาคเอกชนเป็นผู้ลงทุนสร้างคลังสินค้าที่ระบบมาตรฐาน เพื่อเปิดบริการให้ทั้งองค์กรอื่นๆ ในภาคเอกชนได้ใช้บริการด้วย อย่างไรก็ตาม จำนวนคลังสินค้าที่จะสร้างเพิ่มนั้นขึ้นอยู่กับผลการศึกษา

นอกจากแผนการกลับมาเน้น 2 ธุรกิจใหม่เพื่อสร้างความมั่นคงทางรายได้ คณะกรรมการชุดใหม่ยังได้จัดตั้งคณะกรรมการเพื่อดูแลโครงสร้างการทำงาน โดยที่ผ่านมา ได้มีการทบทวนโครงสร้างเพื่อพัฒนาระบบงานเพื่อลดความซับซ้อนและเพิ่มความรวดเร็ว ปรับระบบบัญชีให้ชัดเจนขึ้นเพื่อเพิ่มความโปร่งใส อีกทั้งจะปรับบุคลากรให้เหมาะสมและเสริมสร้างความสามารถผ่านการอบรมเพิ่มเติม อคส.ยังจะได้มีการพัฒนาระบบสารสนเทศที่เชื่อมโยงข้อมูลการเก็บสินค้าในคลังและการกระจายสินค้าทั่วประเทศ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและความรวดเร็วในการรับจำนำผลิตผลการเกษตร อีกทั้งควบคุมปริมาณการเก็บสินค้าในคลังและกระจายสินค้าทั่วประเทศ และเพื่อให้สามารถรายงานข้อมูลที่ถูกต้องและตรงเวลาไม่คลาดเคลื่อนเพื่อป้องกันการทุจริต

นายวิวัฒน์กล่าวด้วยว่าอคส.จะมีการประชาสัมพันธ์ทั้งเชิงรุกและเชิงรับให้มากขึ้น เพื่อให้ประชาชนและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมีความเข้าใจที่ถูกต้องต่อความรับผิดชอบและขอบเขตในการดำเนินงานภายใต้พระราชกฤษฎีกาการก่อตั้งอคส. นอกจากนี้ ยังจะปรับภาพลักษณ์ให้มีความเป็นสากลมากขึ้น

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อ

บริษัท ดีซี คอนซัลแทนส์ แอนด์ มาร์เก็ตติ้ง คอมมูนิเคชั่นส์ จำกัด

ดร.วิทย์ สิทธิเวคิน / กรกช ประกอบกิจ / นิธิดา อัศวนิพนธ์ / พัชรพร นิภาวัฒนพงศ์

โทรศัพท์ 0-2610-2336 / 2386 / 2326

โทรศัพท์มือถือ 081-628 9848 (นิธิดา) / (กรกช) 089-887 1118

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๖:๔๑ องค์การอนามัยโลกจับมือประเทศไทย และ 194 ประเทศ เร่งสร้างฉันทมติดันความเสมอภาคสุขภาพช่องปากเป็นวาระโลก
๑๖:๔๔ กรมอนามัยลงพื้นที่จังหวัดสงขลา มอบรางวัลเชิดชูเกียรติเมืองสุขภาพดีระดับประเทศ และรางวัลเครือข่ายเมืองสุขภาพดีระดับภูมิภาคเอเชียใต้และตะวันออก
๑๖:๐๑ EPG มั่นใจยอดขายและอัตรากำไรขั้นต้นในครึ่งหลังของปีบัญชี 67/68 (ต.ค.67 - มี.ค.68) เติบโตดีตามเป้าหมาย เตรียมจ่ายเงินปันผลระหว่างกาล 6 สตางค์ 9
๑๖:๒๔ 51Talk ส่งเด็กไทยเข้าร่วม COP29 การประชุมแห่งสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ บทพิสูจน์การสนับสนุนเยาวชนก้าวสู่เวทีระดับโลก
๑๖:๔๘ ORN เผยโค้งสุดท้ายปี 67 ฟอร์มดี โตต่อเนื่อง ลุยเปิด 3 โครงการใหม่บ้าน-คอนโดฯ มูลค่ารวม 3,070 ล้านบาท
๑๖:๓๓ Dog's Dream คอมมูนิตี้สนามสัตว์เลี้ยงสีเขียว ที่ใหญ่ที่สุดในกรุงเทพฯ และปริมณฑล
๑๖:๑๔ ฟูจิฟิล์ม บิสซิเนส อินโนเวชั่น ชูกลยุทธ์ Make a Leap to the New Stage ตอกย้ำพันธกิจขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรม
๑๕:๔๓ กรุงศรี ขับเคลื่อนกลยุทธ์ GO ASEAN with krungsri ผสานความแข็งแกร่งและร่วมมือในเครือกรุงศรี MUFG และพันธมิตร
๑๕:๓๔ เผยสีสันแห่งการเฉลิมฉลองช่วงสิ้นปี ผ่านกระเช้าของขวัญจากโรงแรมเจดับบลิว แมริออท กรุงเทพฯ
๑๕:๔๗ Netflix ส่งหนังไทยคว้าชัยระดับโลก! ออกแบบ-ชุติมณฑน์ คว้ารางวัลนักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม บนเวที International Emmy Awards ครั้งที่ 52 จากผลงานเรื่อง HUNGER คนหิว