นอกจากนี้ บริษัทยังได้เปิดจำหน่ายกองทุนเปิดกรุงไทยสมาร์ท อินเวส 6 เดือน1( KTSIV6M1) ในรอบใหม่( Roll Over) ระหว่างวันที่ 20-24 เมษายน 2552 อายุ 6 เดือน เป็นกองทุนที่มีนโยบายลงทุนในตราสารหนี้ภาคเอกชน และเงินฝากสถาบันการเงิน โดยได้รับการจัดอันดับเครดิตตั้งแต่ A- ขึ้นไป ซึ่งกองทุนจะลงทุนในพันธบัตรภาครัฐในประเทศ 20% เงินฝาก /บัตรเงินฝาก / ตั๋วแลกเงินของธนาคารเกียรตินาคิน และธนาคารทิสโก้ ในสัดส่วนสถาบันละ 20% ตั๋วแลกเงินของบมจ.บัตรกรุงไทย และบมจ.ภัทรลิสซิ่ง บริษัทละ 20% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน ส่งผลให้กองทุนได้รับผลตอบแทนประมาณการที่ 1.30% ต่อปี
นายสมชัย กล่าวต่อไปว่า อัตราผลตอบแทนของตราสารหนี้ภาครัฐระยะสั้นในประเทศอายุไม่เกิน 1 ปี ยังทรงตัวที่ประมาณ 0.70 - 0.88% ซึ่งเกิดจากสภาพคล่องในตลาดเงินระยะสั้นที่มีอยู่ในระดับสูง ทั้งนี้ คาดว่าแนวโน้มอัตราผลตอบแทนของตราสารหนี้ระยะสั้นจะยังคงทรงตัวในระดับต่ำต่อเนื่องจากภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลง จากภาวะการณ์ดังกล่าว ทำให้ตราสารหนี้ภาครัฐระยะสั้นยังเป็นที่ต้องการของตลาด โดยเฉพาะจากนักลงทุนที่ต้องการหลีกเลี่ยงความเสี่ยงด้านเครดิต และจากผู้ฝากเงินที่หันมาลงทุนในกองทุนตลาดเงินระยะสั้นเพิ่มขึ้น