นายสมัย ลี้สกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทีอาร์ซี คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ TRC เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท ครั้งที่ 4/2552 ซึ่งประชุมเมื่อวันที่ 29 เมษายน 2552 ได้มีมติ อนุมัติให้ TRC International Limited บริษัทย่อย ที่ประเทศฮ่องกง ร่วมลงทุนกับพันธมิตรต่างประเทศ จัดตั้งบริษัทในประเทศโอมาน 2 แห่ง เพื่อรองรับงานในประเทศดังกล่าว โดยบริษัทแรกที่จัดตั้งขึ้นใหม่ คือ TRC Engineering LLC มีทุนจดทะเบียน 150,000 Rial Omani (RO) หรือประมาณ 397,500 ดอลลาร์สหรัฐ เพื่อดำเนินธุรกิจให้บริการด้านวิศวกรรมและรับเหมาก่อสร้างงานที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมพลังงาน น้ำมัน ก๊าซ และปิโตรเคมี โดยบริษัทดังกล่าวเป็นการร่วมลงทุนระหว่าง TRC International Limited กับ พันธมิตรต่างประเทศด้วยสัดส่วนเงินลงทุนร้อยละ 60 :40 ตามลำดับ โดยมูลค่าการลงทุนของ TRC International Limited 90,000 RO หรือประมาณ238,500 ดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งคาดว่าจะเริ่มลงทุนได้ ภายในไตรมาส 2 ของปีนี้
ส่วนบริษัทที่สองอยู่ระหว่างการพิจารณาตั้งชื่อบริษัท จัดตั้งขึ้นเพื่อเป็นคู่สัญญารับงานจาก Petro Petrogas Rima L.L.C. ประเทศโอมาน หลังจากที่บริษัทฯ ได้เข้าร่วมประมูลงานในประเทศโอมานกับพันธมิตรและได้รับงานในโครงการ Construction of Flow Lines Rima Satellites Small Fields จาก Petro Petrogas Rima L.L.C. เป็นโครงการแรก โดยโครงการดังกล่าวเป็นงานออกแบบวิศวกรรม จัดซื้อ ก่อสร้าง ระบบงานท่อขนส่งน้ำและท่อน้ำมัน จากแหล่งขุดเจาะน้ำมัน 72 จุดไปสู่ Rima Production Center มีระยะเวลาการดำเนินงาน 3 ปี รวมมูลค่า 38 ล้านเหรียญสหรัฐอเมริกา หรือประมาณ 1,368 ล้านบาท ซึ่งบริษัทใหม่ที่จัดตั้งขึ้นนี้มีทุนจดทะเบียน150,000 Rial Omani (RO) หรือประมาณ 397,500 ดอลลาร์สหรัฐ เท่ากับบริษัทแรก เป็นการร่วมลงทุนระหว่าง TRC International Limited ร่วมกับพันมิตรต่างประเทศด้วยสัดส่วนเงินลงทุนร้อยละ 60 ต่อ 40 ตามลำดับ โดยมูลค่าการลงทุนของ TRC International Limited เท่ากับ 90,000 RO หรือประมาณ 238,500 ดอลลาร์สหรัฐเช่นเดียวกัน ซึ่งคาดว่าจะเริ่มดำเนินการได้ตั้งแต่ไตรมาสที่ 2/2552 เป็นต้นไป
นายสมัย กล่าวอีกว่า การตั้งบริษัทย่อยทั้งสองแห่งขึ้นในประเทศโอมาน ถือเป็นหนึ่งในหลายโครงการสำคัญที่รองรับนโยบายขยายขอบเขตการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ ไปสู่งานต่างประเทศตามเป้าหมายที่วางไว้ และสองบริษัทใหม่ที่ตั้งขึ้นนี้ เป็นการรองรับการขยายธุรกิจในตะวันออกกลางที่คาดว่าจะขยายตัวชัดเจนมากขึ้นในอนาคต เนื่องจากยังมีงานอยู่ในตลาดเป็นจำนวนมาก นอกจากนั้นถือเป็นการสานต่อนโยบายของบริษัทฯ ที่ได้วางนโยบายจะขยายงานออกสู่ต่างประเทศควบคู่กับงานในประเทศด้วย ซึ่งที่ผ่านมา บริษัทได้รับงานในสาธารณรัฐเมียนมาร์แล้ว เป็นงาน Long Term Contract for Piping and Steel Structural Works และ Steel Structure Support Flame For Wind Turbine บนแท่นจุดเจาะน้ำมัน YADANA COMPLEX จาก Total E&P Myanmar และหลังจากนี้คาดว่าจะได้รับงานอื่นๆ เพิ่มมากขึ้นในอนาคต
"ถึงแม้ว่าปีนี้จะเห็นการขยายงานออกสู่ต่างประเทศชัดเจนขึ้นแต่งานในประเทศยังเป็นตลาดหลักของเรา โดยเฉพาะงานวางท่อก๊าซธรรมชาติ ซึ่งเป็นงานที่เราถนัดและฝากฝีมือในวงการนี้มายาวนาน ในปีนี้ก็ยังมีต่อเนื่องและมีงานใหม่เข้ามาเพิ่มด้วย โดยนอกจากงานท่อขนาดเล็กเพื่อส่งไปยังผู้ใช้ปลายทาง หรือ Distribution Pipeline จาก บมจ. ปตท. ที่เป็นงานหลักแล้วก็ยังมีงานก่อสร้างสถานี NGV ที่ขยายตัวเพิ่มขึ้น รองรับรถที่ใช้ NGV ต่อเนื่องจากงานที่บริษัทฯ ได้รับมาในปี 2551 จำนวน 14 สถานีด้วย' นายสมัยกล่าว
ณ สิ้นปี 2551 บริษัทฯ และบริษัทย่อยมีงานในมือรวม 23 โครงการ มูลค่างานที่ยังไม่รับรู้รายได้ 1,502 ล้านบาท และล่าสุด TRC เพิ่งจะได้รับงานใหม่เป็นงานวางระบบท่อส่งก๊าซเพื่อต่อขยายระบบท่อ หินกอง ระยะที่ 2 เป็นงาน EPC (Engineering, Procurement and Construction) ที่อำเภอหินกอง จังหวัดสระบุรี ของบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) หรือ PTT รวมมูลค่า 267 ล้านบาท มีระยะเวลาก่อสร้าง ประมาณ 400 วัน ในปีนี้ บริษัทฯ มีเป้าหมายจะผลักดันรายได้ให้ถึง 2,000 ล้านบาทจากที่เคยทำได้ 1,814 ล้านบาทในปีก่อน
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ : จุฬารัตน์ เจริญภักดี (ฟ้า) 02-5549395