BWG มั่นใจธุรกิจกำจัดขยะได้มาตรฐาน พร้อมรับการตรวจสอบจากทุกหน่วยงาน

จันทร์ ๐๔ พฤษภาคม ๒๐๐๙ ๐๘:๔๐
"สุวัฒน์ เหลืองวิริยะ" ยืนยันธุรกิจกำจัดขยะกากอุตสาหกรรมของ BWG ได้มาตรฐานและถูกต้องตามเกณฑ์ของกรมโรงงานอุตสาหกรรม พร้อมเปิดรับการตรวจสอบจากทุกหน่วยงาน เพื่อแสดงให้เห็นถึงความโปร่งใสในการทำธุรกิจ เผยที่ผ่านมาแม้ถูกสั่งให้หยุดประกอบกิจการแบบไม่ทันตั้งตัว 1 วันทำการแต่ไม่กระทบธุรกิจ เนื่องจากลูกค้าเข้าใจสถานการณ์และมั่นใจในมาตรฐานการให้บริการของบริษัท เชื่อยิ่งตรวจสอบยิ่งเป็นผลดีเพราะจะสะท้อนให้เห็นจุดแข็งของบริษัทฯ

นายสุวัฒน์ เหลืองวิริยะ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เบตเตอร์ เวิลด์ กรีน จำกัด (มหาชน) หรือ BWG เปิดเผยถึงกรณีที่ศูนย์บริหารและจัดการกากอุตสาหกรรม ของบริษัทฯ ในจังหวัดสระบุรี ได้รับคำสั่งจากผู้ว่าราชการจังหวัดสระบุรีให้หยุดประกอบกิจการชั่วคราวเพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงหลังจากที่มีชาวบ้านประท้วงปิดถนนพหลโยธินเพื่อเรียกร้องให้ปิดศูนย์บริหารและจัดการกากอุตสาหกรรม จังหวัดสระบุรี ในช่วงที่ผ่านมา ซึ่ง หยุดประกอบกิจการแค่ 1 วัน จากนั้นก็มีคำสั่งยกเลิกคำสั่ง ทำให้บริษัทฯ สามารถดำเนินการได้ตามปกติ จึงทำให้ไม่มีผลกระทบต่อธุรกิจของ BWG อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่าในช่วงเวลาดังกล่าว มีลูกค้าสอบถามเข้ามาอย่างต่อเนื่อง และเมื่อได้รับคำชี้แจงจากบริษัทฯ ก็เข้าใจและไม่ได้ยกเลิกการใช้บริการกับ BWG แต่อย่างใด

โดยยังคงมั่นใจในการให้บริการของบริษัทฯ ว่าได้มาตรฐานตามเกณฑ์ของกรมโรงงานอุตสาหกรรม "การถูกสั่งให้หยุดประกอบกิจการและมีคำสั่งยกเลิกภายในวันเดียวกัน ไม่ได้สร้างความเสียหายให้กับธุรกิจของ BWG เพราะลูกค้าเข้าใจในสถานการณ์เป็นอย่างดี ที่สำคัญช่วยพลิกสถานการณ์จากจุดอ่อนเป็นจุดแข็ง เพราะธุรกิจประเภทนี้ต้องผ่านการตรวจสอบอย่างเข้มงวดหลายฉบับ แต่เรายืนหยัดอยู่ได้คือเมื่อถูกสั่งปิดก็สามารถเปิดได้ทันทีในวันเดียวกัน สะท้อนถึงการทำงานที่ชัดเจนของ BWG ว่ามีความโปร่งใสและดำเนินการถูกต้อง

ทุกขั้นตอนและได้มาตรฐาน ซึ่งบริษัทฯ พร้อมให้ความร่วมมือตลอดเวลา หากหน่วยงานใดต้องการเข้าตรวจสอบ"

นายสุวัฒน์กล่าวอีกว่า ศูนย์บริหารและจัดการกากอุตสาหกรรมของบริษัทฯ เป็นศูนย์กำจัดขยะที่ได้มาตรฐานตามเกณฑ์ของกรมโรงงานอุตสาหกรรม โดยที่ผ่านมาบริษัทฯ ตรวจสอบและเฝ้าระวังเรื่องผลกระทบ ต่อสิ่งแวดล้อมอย่างเข้มงวด ทั้งด้านสภาพอากาศ น้ำ และสิ่งแวดล้อมอื่นๆ โดยทางด้านอากาศบริษัทฯ มีมาตรการ ควบคุมกลิ่นที่เกิดจากการดำเนินงานอย่างเข้มงวดและมีการเฝ้าระวังโดยการตรวจวัดคุณภาพอากาศทั้งภายในพื้นที่โครงการ และบริเวณโดยรอบพื้นที่โครงการ เพื่อเปรียบเทียบผลที่ได้จากการตรวจวัดว่าการดำเนินงานของบริษัทฯ เป็นสาเหตุในการก่อมลพิษทางอากาศให้แก่ชุมชนหรือไม่เป็นประจำทุกเดือน ตั้งแต่ มิถุนายน 2550 เป็นต้นมาจนถึงปัจจุบัน และพบว่า ศูนย์บริหารและจัดการกากอุตสาหกรรมของบริษัทฯ ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมทั้งเรื่อง น้ำ อากาศ จนเกิดผลเสียต่อสุขภาพได้

"เรื่องน้ำเห็นกันชัดๆ ว่า ไม่มีการปล่อยทิ้ง น้ำเสียลงสู่แหล่งน้ำภายนอกพื้นที่โครงการ เนื่องจากได้ก่อสร้างระบบบำบัดน้ำเสีย เพื่อทำหน้าที่รวบรวมและบำบัดน้ำเสียที่เกิดขึ้นภายในโครงการ ตลอดจน น้ำชะขยะ ที่เกิดจากการฝังกลบกากอุตสาหกรรมไม่อันตราย ซึ่งระบบบำบัดน้ำเสียที่ก่อสร้างขึ้นสามารถรองรับน้ำเสียที่เกิดขึ้นได้อย่างเพียงพอ และเป็นบ่อบำบัดแบบปิด (Close system) นอกจากนี้ BWG ได้ติดตั้งระบบ Reverse Osmosis (RO) ในขั้นตอนสุดท้ายของกระบวนการบำบัดเพื่อกรองน้ำที่ผ่านการบำบัดแบบชีวเคมีให้ได้ตามมาตรฐานที่กำหนด รวมทั้งยังได้นำน้ำที่ผ่านการบำบัดมาใช้ประโยชน์ใหม่ ได้แก่ ใช้รดพื้นถนนเพื่อลดฝุ่น ใช้รดต้นไม้ โดยไม่มีการปล่อยออกนอกพื้นที่ ซึ่งมาตรการดังกล่าวเป็นมาตรการที่กำหนดไว้ในรายงานการศึกษาผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม ซึ่งได้ปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัดและต่อเนื่องมาโดยตลอด"

อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้บริษัทฯ ได้เคยถูกร้องเรียนจากผู้แทนชาวบ้านตำบลหนองปลาไหล จ.สระบุรี ว่าได้รับความเดือดร้อนจากการประกอบกิจการของบริษัทฯ แต่หลังจากนั้น กลุ่มผู้ร้องเรียนดังกล่าวได้ยื่นหนังสือถอนเรื่องร้องเรียนไปเมื่อวันที่ 19 มิถุนายน 2551 ต่อ เลขาธิการวุฒิสภา หลังจากผู้ร้องเรียนได้ตรวจสอบและรับฟังคำชี้แจงจากบริษัทฯ แล้วพบว่าปัญหาที่เกิดขึ้นมิได้เกิดจากการประกอบกิจการของ BWG แต่อย่างใดทั้งสิ้น

เขากล่าวต่อถึงแนวโน้มผลประกอบการของ BWG ในปีนี้ว่า ยังมีทิศทางที่ดี แต่อาจจะทำได้ต่ำกว่าเป้าหมายเดิมที่คาดว่ารายได้ในปีนี้จะขยายตัว 10% จากปีที่ผ่านมาที่ทำได้ 611.07 ล้านบาท เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว ประกอบกับสถานการณ์ทางการเมืองที่ยังไม่นิ่ง แต่อย่างไรก็ตาม หากภาครัฐมีการเข้มงวดในการสนับสนุนให้บริษัทที่ยังไม่เข้าสู่ระบบการกำจัดขยะที่ถูกวิธี ที่มีอยู่มากกว่า 70-80% เข้ามาอยู่ในระบบก็จะทำให้ธุรกิจนี้ได้รับประโยชน์ด้วย ซึ่งจะเป็นผลดีต่อ BWG อย่างชัดเจน เนื่องจากปัจจุบันบริษัทฯ มีจุดแข็งในการให้บริการที่ครบวงจรทั้งหลุมฝังกลบ บำบัด รีไซเคิล และเตาเผา ถือเป็นผู้นำในธุรกิจกำจัดกากอุตสาหกรรมทั้งระบบ นอกจากนั้นปีนี้บริษัทฯ จะเริ่มทยอยรับรู้รายได้จากโครงการกำจัดขยะเทศบาลนครราชสีมา มูลค่ารวม 412 ล้านบาท และบริษัท อัคคีปราการ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทลูกที่บริหารเตาเผาขยะความร้อนสูง ในนิคมอุตสาหกรรมบางปู จังหวัดสมุทรปราการ จะพลิกมามีกำไรเป็นครั้งแรก ก็จะสนับสนุนให้ผลประกอบการของบริษัทฯ ยิ่งมีทิศทางที่ดียิ่งขึ้น

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ : จุฬารัตน์ เจริญภักดี (ฟ้า) 02-5549395

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๗:๒๑ 60 ปีแห่งความมุ่งมั่น! คาโอ คว้ารางวัลอุตสาหกรรมดีเด่น 2 ประเภทในปี 2567 ชูความสำเร็จด้านสิ่งแวดล้อมและความรับผิดชอบต่อสังคม
๑๗:๒๓ AVATR ก้าวสู่ความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่! ระดมทุนในรอบ Series C ได้มากกว่า 11,000 ล้านหยวน พร้อมก้าวสู่ความเป็นผู้นำในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าหรูหราแห่งอนาคต
๑๗:๐๖ Zoom เปิด 10 เทรนด์ ใช้ AI ในการทำงานปี 2568
๑๗:๑๐ เปิดมุมมองอาชีพที่หลากหลายในอุตสาหกรรมกาแฟไทย เจาะลึกบทบาทและแนวทางยกระดับสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน
๑๗:๑๔ อนาคตแห่งการเดินทาง: 5 คนขับ AI จากแอปเรียกรถ Maxim
๑๗:๕๕ Well-Being House บ้านชั้นเดียวเอาใจคนวัยเกษียณ
๑๗:๑๖ กทม. แจงเปิดกว้างการแข่งขันโครงการเช่าคอมพิวเตอร์พกพาสำหรับนักเรียน
๑๖:๓๗ รายงาน Ericsson Mobility Report ฉบับล่าสุด เผยผู้เริ่มให้บริการ 5G กลุ่มแรกกำลังมุ่งสู่โมเดลธุรกิจที่เน้นประสิทธิภาพ
๑๗:๒๕ เมดีซ กรุ๊ป ร่วมสมทบทุนสนับสนุนมูลนิธิโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราช ช่วยผู้ป่วยในชนบท ถิ่นทุรกันดารที่ห่างไกล
๑๖:๔๔ CNN จับตา นวัตกรรมล่าสุดจากนักวิจัยไทย พลิกโฉมการตรวจคัดกรองความเครียดด้วย เหงื่อ