นางจรวยพร ธรณินทร์ กรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรม (ก.พ.ค.) ในฐานะโฆษก ก.พ.ค. รายงานความคืบหน้าการดำเนินงานของ ก.พ.ค. ตั้งแต่วันที่ 11 ธันวาคม 2551 จนถึง 30 เมษายน 2552 ว่า ขณะนี้ ก.พ.ค. ได้พิจารณาและออกคำสั่งคำวินิจฉัยข้ออุทธรณ์ไปเรียบร้อยแล้วจำนวน 3 ราย และได้วินิจฉัยข้อร้องทุกข์จำนวน 4 ราย รวมเป็น 7 ราย ซึ่งหลังจากได้คำวินิจฉัยอุทธรณ์ของ ก.พ.ค. แล้ว หากผู้อุทธรณ์ยังไม่พอใจสามารถฟ้องต่อที่ศาลปกครองสูงสุด และในส่วนผู้ร้องทุกข์ที่ไม่พอใจคำวินิจฉัยของ ก.พ.ค. ให้ฟ้องต่อ ศาลปกครองชั้นต้นได้ โดยทั้ง 2 กรณี ให้ฟ้องภายใน 90 วัน เมื่อได้รับคำวินิจฉัยจาก ก.พ.ค.
อย่างไรก็ตาม โฆษก ก.พ.ค. กล่าวว่า ในกรณีของการร้องทุกข์นั้น ส่วนใหญ่เกิดจาก ข้อคับข้องใจในการคัดเลือกบุคคลให้เข้าสู่ตำแหน่งที่สูงขึ้น การย้ายไปในจังหวัดที่ตนเอง ไม่ประสงค์ การไม่ได้รับมอบหมายให้เป็นผู้ดำรงตำแหน่งรักษาการในตำแหน่งผู้บริหาร รวมทั้งการไม่ได้รับการพิจารณาความดีความชอบ ซึ่ง ก.พ.ค. มองว่าปัญหาเหล่านี้ หากหน่วยงาน ต้นสังกัดจัดกระบวนการเจ้าหน้าที่สัมพันธ์ เน้นการชี้แจงข้อมูล ตลอดจนเปิดโอกาสให้มีการสอบถามหรือซักซ้อมความเข้าใจให้ตรงกันทุกฝ่าย ก็จะช่วยลดข้อคับข้องใจได้มากขึ้น
นอกจากนี้ หลักการสำคัญคือ ผู้บริหารทุกระดับจะต้องใช้หลักธรรมาภิบาลใน การบริหารงาน โดยต้องเป็นไปอย่างเปิดเผย โปร่งใส และตรวจสอบได้ ซึ่งหากปฏิบัติได้ดังนี้ ก็เชื่อว่าจะทำให้การบริหารราชการมีความเป็นธรรมมากยิ่งขึ้น
โฆษก ก.พ.ค. กล่าวเพิ่มเติมว่า ขณะนี้ ก.พ.ค. ได้ออกประกาศ หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการตรวจดูการคัดสำเนา และการรับรองสำเนาเอกสารในการพิจารณาวินิจฉัยอุทธรณ์ โดยเปิดโอกาสให้คู่กรณี พยานเฉพาะในส่วนที่เกี่ยวกับการให้ถ้อยคำของตน หรือบุคคลภายนอกผู้มีส่วนได้เสียซึ่งประสงค์จะขอตรวจดู คัดสำเนาเอกสารในการพิจารณาวินิจฉัยอุทธรณ์ สามารถยื่นคำขอเป็นหนังสือต่อ ก.พ.ค. โดยจะยื่นด้วยตนเอง หรือมอบอำนาจให้ผู้อื่นยื่นคำขอแทน หรือจะส่งทางไปรษณีย์ลงทะเบียนก็ได้ ซึ่งกรรมการเจ้าของสำนวนจะเป็นผู้พิจารณาอนุญาตหรือไม่อนุญาต และจะมอบให้นิติกรผู้รับผิดชอบสำนวนเป็นผู้รับรองเอกสาร ซึ่งผู้ขอคัดสำเนาต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการคัดสำเนาทั้งหมด
ส่วนคำวินิจฉัยอุทธรณ์และร้องทุกข์ที่ผ่านกระบวนการพิจารณาเสร็จสิ้นสมบูรณ์แล้วนั้น ก.พ.ค. จะจัดห้องสมุดสำหรับจัดเก็บคำวินิจฉัยดังกล่าว เพื่อผู้สนใจจะขอศึกษาและขอคัดสำเนาคำวินิจฉัยได้ โดยให้เป็นไปตามแนวปฏิบัติของพระราชบัญญัติข้อมูลข่าวสาร พ.ศ. 2540
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร. 1786 กลุ่มสื่อสารองค์กร สำนักงาน ก.พ.