นายชาญชัย ชัยรุ่งเรือง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยภายหลังการประชุมหารือร่วมกับ หอการค้าไทย-จีน สมาคมวัฒนธรรมเศรษฐกิจไทย-จีน สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (สสปน.) และสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ถึงการจัดกิจกรรมส่งเสริมความร่วมมือด้านการลงทุน การค้า และการท่องเที่ยว ระหว่างการเยือนไทยของนักธุรกิจจีนจากสมาคมนักธุรกิจยอดเยี่ยมเชื้อสายจีนทั่วโลก ระหว่างวันที่ 26 — 29 กรกฎาคม 2552 ว่า รัฐบาลโดยกระทรวงอุตสาหกรรม ร่วมกับกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กระทรวงพาณิชย์ ตลอดจนหน่วยงานภาครัฐและเอกชนไทย จะจัดงานใหญ่เพื่อสร้างโอกาสทางการค้าและการลงทุนของไทย กับคณะนักธุรกิจจีนจากทั่วโลก
“ สืบเนื่องจากการที่กระทรวงอุตสาหกรรม ได้ไปจัดพิธีเปิดสำนักงานเศรษฐกิจการลงทุน ของบีโอไอ ที่กรุงปักกิ่ง เมื่อวันที่ 2 เมษายน ที่ผ่านมา พร้อมกับการจัดสัมมนาการลงทุนและการเจรจาจับคู่ทางธุรกิจ ซึ่งได้รับความสนใจจากนักธุรกิจจีน ซึ่งเป็นสมาชิกของสมาคมนักธุรกิจยอดเยี่ยมเชื้อสายจีนทั่วโลกเป็นอย่างมาก ดังนั้น สมาคมนักธุรกิจยอดเยี่ยมเชื้อสายจีนทั่วโลก จึงตัดสินใจจะมาจัดการประชุมประจำปี 2552 ในประเทศไทย และหวังจะสร้างโอกาสทางการลงทุน การค้า และการท่องเที่ยวกับประเทศไทย “ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมกล่าว
ดังนั้น คณะนักธุรกิจจีนที่จะเข้ามาประเทศไทย จะแบ่งเป็น 2 ครั้ง โดยครั้งแรก ผู้ประกอบการรายใหญ่ที่จะมาหารือในระหว่าง 28 — 30 พฤษภาคมนี้ จะมีสามกลุ่ม คือ 1. บริษัทไฮซิ่น ผู้ผลิตสินค้าชั้นนำด้านโทรคมนาคม เครื่องใช้ไฟฟ้า จะนำคณะมาหารือดูสถานที่ลงทุนในนิคมอุตสาหกรรมต่างๆ 2. กลุ่มเบียร์ชิงเต่า จะเข้ามาสำรวจความพร้อมของการลงทุนในประเทศไทย 3. บริษัทในกลุ่มผู้ใช้และผู้ค้า ที่ต้องนำเข้ายางพาราจากไทย ซึ่งในเบื้องต้นจะเข้ามาดูลู่ทางการลงทุนแปรรูปยางขั้นต้น ก่อนจะนำไปผลิตยางรถยนต์ที่ประเทศจีน
สำหรับคณะนักธุรกิจจีนชุดที่ 2 ที่จะเดินทางมาจากทั่วโลก เพื่อมาประชุมที่ประเทศไทยจำนวนกว่า 300 ราย เป็นนักธุรกิจจีนมาจากประเทศจีนแผ่นดินใหญ่ 150 ราย มาจากฮ่องกงและมาเก๊า 50 ราย และมาจากประเทศต่างๆ ทั่วโลกอีก 100 ราย
นายชาญชัยกล่าวต่อไปว่า ในระหว่างการมาเยือนประเทศไทยของคณะนักธุรกิจจีน จะมีการจัดกิจกรรมสำคัญ คือ การสัมมนา การจัดกิจกรรมจับคู่ทางธุรกิจ ตลอดจนการเยี่ยมชมนิคมอุตสาหกรรม และโรงงานในประเทศไทย โดยในส่วนของกิจกรรมสัมมนา ซึ่งจะจัดขึ้นที่เมืองพัทยา จะมุ่งเน้นการจูงใจให้นักธุรกิจจีนจากทั่วโลก เห็นถึงศักยภาพและความพร้อมของประเทศไทย โอกาสของนักธุรกิจจีนในไทย ตลอดจนนโยบายส่งเสริมการลงทุนของรัฐบาล และความสำเร็จในการดำเนินธุรกิจของนักลงทุนจีนที่เข้ามาลงทุนในไทย
ส่วนการจัดกิจกรรมจับคู่ทางธุรกิจ กระทรวงอุตสาหกรรม โดยสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม หรือ สสว. จะเป็นแกนนำในการจัดโปรแกรม โดยมีสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน หรือบีโอไอ ให้การสนับสนุน ในการคัดเลือกผู้ประกอบการไทยที่มีศักยภาพเพื่อมาพบปะเจรจารายบริษัทกับนักธุรกิจจีน และการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย จะดำเนินการเรื่องพาคณะนักธุรกิจจีนเยี่ยมชมนิคมอุตสาหกรรม และโรงงานในประเทศไทย
ทั้งนี้ นักธุรกิจไทย และจีน ที่จะเจรจาจับคู่ทางธุรกิจ ครอบคลุมทั้งด้านการค้าและการลงทุน ในสาขาต่างๆ ซึ่งสาขาที่ไทยต้องการให้นักธุรกิจจีนเข้ามาลงทุน ได้แก่ กลุ่มอุตสาหกรรมกลุ่มเกษตร ยานยนต์ อิเล็กทรอนิกส์ การท่องเที่ยว เครื่องจักรกลและอุปกรณ์ กลุ่มงานโลหะต่างๆ กลุ่มยาและเวชภัณฑ์ และกลุ่มพลังงานทางเลือก
ส่วนธุรกิจที่นักธุรกิจจีนให้ความสนใจ ได้แก่ สินค้าเกษตร เช่น ยาง ข้าว มันสำปะหลัง และสนใจเข้ามาลงทุนตั้งนิคมอุตสาหกรรมในประเทศไทย เพื่อตั้งโรงงานแปรรูปสินค้าเกษตร และนักธุรกิจจีนยังพร้อมจะศึกษาลู่ทางการลงทุนในสาขาที่ประเทศไทยเชิญชวนให้เข้ามาลงทุน
นายชาญชัยกล่าวด้วยว่า สมาคมนักธุรกิจยอดเยี่ยมเชื้อสายจีนทั่วโลก มีแผนจะนำคู่สมรสชาวจีน จำนวน 10,000 คู่ เดินทางมาจัดพิธีมงคลสมรสในประเทศไทยภายในปีนี้ เพื่อช่วยกระตุ้นธุรกิจท่องเที่ยวในประเทศไทย โดยในช่วงเช้าของงานสัมมนาในวันที่ 27 กรกฎาคม 2552 จะมีกิจกรรมโปรโมทพิธีมงคลสมรส โดยนำคู่บ่าวสาวชาวจีนจำนวน 10 คู่ มาเปิดตัว เป็นการเรียกน้ำย่อยก่อนที่จะมีการจัดพิธีมงคลสมรสจริงในวันที่ 31 กรกฎาคม 2552
“ ปลายเดือนพฤษภาคมนี้ จะมีผู้แทนจากชมรมผู้ผลิตผลิตภัณฑ์ยาง บริษัทเบียร์ชิงเต่า และบริษัทด้านไฟฟ้าอิเล็กทรอนิกส์อีกรายหนึ่ง เดินทางมาศึกษาข้อมูลการลงทุนในไทย ซึ่งเป็นผลมาจากการที่ได้เดินทางไปจัดพิธีเปิดสำนักงานบีโอไอที่ปักกิ่งในตอนต้นเดือนเมษายน ซึ่งคณะของกระทรวงอุตสาหกรรม ได้พบปะหารือกับนักลงทุน และนักธุรกิจชมรมผู้ผลิตผลิตภัณฑ์ของเมืองชิงเต่าและบริษัทอื่นๆ จนฝ่ายจีนสนใจการลงทุนในไทยมาก ” นายชาญชัยกล่าว