นายพฤฒิชัย ดำรงรัตน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง และรองประธานคณะกรรมการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรการปกครองส่วนท้องถิ่น เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรีในวันอังคารที่ 13 พฤษภาคม 2552 ว่า ตามที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี มีดำริให้สนับสนุนงบประมาณเพิ่มเติมสำหรับค่าอาหารกลางวันสำหรับเด็กนักเรียน และนายกรณ์ จาติกวณิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้เร่งการดำเนินงานตามนโยบายดังกล่าว ตลอดจนสนับสนุนการใช้งบประมาณสำหรับการเพิ่มค่าอาหารกลางวันเด็ก จากวันละ 10 บาทเป็น 13 บาท สำหรับเด็กนักเรียนทุกคนตั้งแต่เด็กเล็ก เด็กนักเรียนชั้นอนุบาลถึงประถมศึกษาปีที่ 6 ซึ่งเป็นไปตามตามมติของสภาผู้แทนราษฎร เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 5 กุมภาพันธ์ 2552 ที่ให้ทำการจัดสรรเงินอุดหนุนให้แก่สถานศึกษาสำหรับสนับสนุนให้เด็กนักเรียนรับประทานอาหารกลางวัน เพื่อช่วยเหลือเด็กนักเรียนที่ขาดสารอาหารหรือทุพโภชนาการ และเด็กนักเรียนยากจน โดยมีกลุ่มเป้าหมายจำนวน 30% ของจำนวนเด็กแต่ละสถานศึกษา ตั้งแต่เด็กเล็ก เด็กนักเรียนชั้นอนุบาลถึงประถมศึกษาปีที่ 6 ของโรงเรียนสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) โรงเรียนสังกัดองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) โรงเรียนสังกัดกองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน (ตชด.) โรงเรียนสังกัดกรมการศึกษานอกโรงเรียน (บนพื้นที่ราบสูง) ศูนย์เลี้ยงเด็กสังกัดกรมพัฒนาสังคมและ สวัสดิการ (กรมประชาสงเคราะห์เดิม) และศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก (ทั้งรับโอน และจัดตั้งเอง) โดยคณะรัฐมนตรีให้ความเห็นชอบงบประมาณในปีงบประมาณ พ.ศ. 2553 จำนวน 14,526 ล้านบาท จัดสรรเงินอุดหนุนค่าอาหารกลางวันให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เพื่อดำเนินการเรื่องอาหารกลางวันให้กับเด็กนักเรียนในกลุ่มดังกล่าว
รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวเพิ่มเติมว่า การดูแลเด็กนักเรียนที่ขาดสารอาหาร หรือทุพโภชนาการ และเด็กนักเรียนยากจนเป็นเรื่องสำคัญที่กระทรวงการคลังสนับสนุน และมีนโยบายดำเนินการในเรื่องที่เกี่ยวข้องอย่างเร่งด่วน
กรมบัญชีกลาง
โทร. (02) 273-9101