นายสมฤกษ์ ตั้งพิรุฬห์ธรรม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยฮา จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่ายอดขายผลิตภัณฑ์วุ้นเส้นกึ่งสำเร็จรูปเฉลี่ยต่อเดือนที่ผ่านมาเติบโตเป็นอย่างมาก ถือเป็นการสวนกระแสเศรษฐกิจที่กำลังชะลอตัวอยู่ ซึ่งยอดขายได้รับการผลักดันจากหลายปัจจัย ตั้งแต่การออกรสชาตใหม่ล่าสุด “ยำวุ้นเส้นทะเล” เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ซึ่งรสชาตใหม่นี้สามารถตอบโจทย์ผู้บริโภคในยุคปัจจุบันที่ให้ความสำคัญกับการรักษาสุขภาพและต้องการรักษาหุ่นให้ดูดีอยู่เสมอ เนื่องจากเป็นวุ้นเส้นที่ทำจากถั่วเขียวแท้ 100 เปอร์เซนต์ ไม่มีส่วนผสมของแป้ง อีกทั้งยังมีคุณค่าทางสารอาหารที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย เป็นการยืนยันจุดยืนของบริษัทฯ ที่ผลิตอาหารเพื่อสุขภาพที่รักษาความงามได้อีกด้วย นอกจากนี้ รสชาตยำวุ้นเส้นทะเลยังสามารถตอบสนองความต้องการอาหารรสชาตอร่อยและแซ่บได้อีกด้วย
บริษัทฯ ยังได้สร้างการรับรู้ผลิตภัณฑ์ใหม่ในวงกว้างผ่านการออกโฆษณาทางทีวีภายใต้งบลงทุน 10 ล้านบาทด้วย
การขยายช่องทางการขายตั้งแต่ช่วงต้นปีที่ผ่านมาก็เป็นอีกปัจจัยหนึ่ง โดยบริษัทฯ ได้แต่งตั้งผู้จำหน่ายเพิ่มขึ้นอีกสองแห่งประกอบด้วย บริษัท เดอเบล จำกัด ในเครือบริษัท กระทิงแดง จำกัด ซึ่งมีร้านค้าในเครือข่ายกว่า 80,000 ร้านค้า และ บริษัท พรีเมียร์มาร์เก็ตติ้ง จำกัด (มหาชน) ซึ่งมีร้านค้าในเครือข่ายกว่า 18,000 ร้านค้า จากเดิมที่จัดจำหน่ายสินค้าผ่านบริษัท แมส มาร์เก็ตติ้ง จำกัด และบริษัท เชียร์ เทรดดิ้ง จำกัด เพียง 2 ราย ซึ่งส่งผลให้ผลิตภัณฑ์ตราเกษตรสามารถกระจายให้สู่ผู้บริโภคได้อย่างทั่วถึงมากขึ้นทั่วประเทศ
การทำกิจกรรมการตลาดชงชิมและการจัดแคมเปญอย่างต่อเนื่องทั้งในช่องทางการขายแบบดั้งเดิม (Traditional Trade) และช่องทางการขายแบบทันสมัย (Modern Trade) ก็เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ช่วยผลักดันยอดขายผลิตภัณฑ์วุ้นเส้นกึ่งสำเร็จรูปโดยรวม
การเติบโตของยอดขายรวมของผลิตภัณฑ์วุ้นเส้นกึ่งสำเร็จรูปส่งผลให้ตราเกษตรได้กลายเป็นผู้เล่นอันดับต้นๆ โดยมีส่วนแบ่งการตลาด 23 เปอร์เซนต์ จากตลาดรวมวุ้นเส้นกึ่งสำเร็จรูปมูลค่า 350 ล้านบาท
นอกจากการยอดขายรวมของผลิตภัณฑ์วุ้นเส้นสำเร็จรูปที่เติบโตเป็นอย่างมาก ผลิตภัณฑ์โจ๊กกึ่งสำเร็จรูปตราเกษตรก็ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีในช่วงที่ผ่านมาเช่นกัน โดยตั้งแต่เปิดตัวสินค้าประมาณ 2 ปี ผลิตภัณฑ์โจ๊กเติบโต 60 เปอร์เซนต์ จากปีที่แล้ว และมีส่วนแบ่งการตลาด 11 เปอร์เซนต์ จากตลาดรวม 800 ล้าน ซึ่งปัจจัยหลักที่ผลักดันการเติบโตคือการขยายช่องทางการกระจายสินค้าและการรุกการทำการตลาดและจัดแคมเปญอย่างต่อเนื่องเช่นเดียวกับผลิตภัณฑ์วุ้นเส้นกึ่งสำเร็จรูป
สำหรับแผนการตลาดในช่วงครึ่งปีหลัง บริษัทฯ จะยังคงรุกหนักผ่านการทำการตลาดอาทิ กิจกรรมชงชิมตามจุดขาย รวมทั้งกิจกรรมโรดโชว์ตามอาคารสำนักงานและสถานศึกษาตั้งแต่อนุบาลจนถึงชั้นประถม อีกทั้งจะมีการจัดแคมเปญส่งเสริมการขายอย่างต่อเนื่องทั้งในช่องทางการขายแบบทันสมัยในซูเปอร์มาร์เก็ต ไฮเปอร์มาร์เก็ต และร้านสะดวกซื้อ และในตลาดช่องทางการขายแบบดั้งเดิมผ่านตัวแทนจัดจำหน่าย รวมทั้งออกผลิตภัณฑ์ใหม่ ซึ่งบริษัทฯ มีแผนที่จะเริ่มขายข้าวต้มหมูบะเต็งและข้าวต้มกุ้งแชบ๊วยเร็วๆ นี้ และกำลังจะเตรียมออกสินค้าใหม่อีกหนึ่งตัวภายในไตรมาสสองเช่นกัน
นอกจากนี้ บริษัทฯ จะขยายฐานลูกค้าเข้าสู่กลุ่มวัยรุ่นและนักศึกษามากขึ้นโดยการทำกิจกรรมตามมหาวิทยาลัย
สำหรับงบลงทุนในปีนี้ นายสมฤกษ์กล่าวว่าบริษัทฯ วางแผนจะลงทุน 45 ล้านบาท โดยใช้ในการขยายกำลังการผลิตสินค้าข้าวเพิ่มขึ้น 30% สินค้าวุ้นเส้นเพิ่มขึ้น 30% และสินค้าโจ๊กกึ่งสำเร็จรูปเพิ่มขึ้น 60%
จากแผนการรุกตลาดอย่างต่อเนื่องในปีนี้ บริษัทฯ ได้ตั้งเป้ารายรับปีนี้ 2,400 ล้านบาท หรือเติบโต 15 เปอร์เซนต์ในสิ้นปีนี้และหวังที่จะเป็นสินค้าอันดับต้นๆ ในใจผู้บริโภคในทุกตลาดที่บริษัทฯ มีผลิตภัณฑ์ขาย
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อ
บริษัท ดีซี คอนซัลแทนส์ แอนด์ มาร์เก็ตติ้ง คอมมูนิเคชั่นส์ จำกัด
ดร.วิทย์ สิทธิเวคิน / กรกช ประกอบกิจ / นิธิดา อัศวนิพนธ์ / พัชรพร นิภาวัฒนพงศ์
โทรศัพท์ 0-2610-2336 / 2386 / 2326
โทรศัพท์มือถือ 089-887-1118 (กรกช) / 081-628-9848 (นิธิดา)