นาย เชน ใจซื่อ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท นิวตริริช จำกัด กล่าวว่า ประเทศไทยเป็นเมืองเกษตรกรรม มีพื้นที่เพาะปลูกเป็นจำนวนมาก ในแต่ละปีมีการใช้ปุ๋ยและยาเป็นจำนวนมาก ในฐานะที่เป็นโรงงานผลิตที่อยู่ในวงการเกษตรมานานกว่า 10 ปี พบว่าสินค้าด้านอินทรีย์ชีวภาพที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน ยังมีความต้องการอยู่เป็นจำนวนมหาศาล เพราะเมื่อเทียบกับปริมาณการใช้ปุ๋ยเคมีนั้น ทั้งประเทศใช้ปุ๋ยอินทรีย์ไม่ถึง 10% จึงยังมีช่องว่างให้สินค้าเกษตรอินทรีย์เข้าทำตลาดอยู่ไม่น้อย ด้วยโอกาสทางการตลาดดังกล่าว จึงทำให้ ผู้รับจ้างผลิต (OEM) รายใหญ่ของประเทศ ตัดสินใจเปิดบริษัท นิวตริริช จำกัด เพื่อดำเนินธุรกิจขายตรงหลายชั้นหรือ (MLM) ซึ่งมีสินค้าหลักคือกลุ่มผลิตภัณฑ์ทางด้านการเกษตรครบวงจร ภายใต้แบรนด์ “ดาวปูแดง” ด้วยคอนเซ็ปต์ “ตัวจริงเรื่องปุ๋ยอินทรีย์ ต้อง ดาวปูแดง” โดยมี “นายเสรี รุ่งสว่าง” นักร้องลูกทุ่งชื่อดังเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์
แบรนด์ “ดาวปูแดง” ดำเนินธุรกิจเอ็มแอลเอ็มด้วยแผนการตลาดที่เราเรียกว่า “แผนไบนารี่ช่วยชาติ” เป็นการเปิดโอกาสให้แก่คนทุกกลุ่ม โดยเฉพาะเกษตรกร ได้มีโอกาสเป็นเจ้าของธุรกิจปุ๋ยอินทรีย์ สร้างรายได้เสริม หรือสร้างรายได้หลักให้กับครอบครัว ยามเว้นว่างจากการทำเกษตรกรรม ซึ่งมีจุดเด่นที่สมาชิกจะได้รับค่าตอบแทนเร็ว จ่ายทุก 7 วันและเปิดกว้างให้สมาชิกสามารถจับคู่ได้มากที่สุดถึง 100 คู่ต่อวัน โดยผู้สนใจสามารถเลือกลงทุนได้ 2 รูปแบบคือ สมัครสมาชิก ซึ่งช่วงแรกของการเปิดตัวธุรกิจสมาชิกไม่ต้องเสียค่าสมัครแล้วยังได้สิทธิ์ลดพิเศษในการซื้อปุ๋ยอินทรีย์ในราคาถูกเพียงตันละ 7,800 บาท และเปิดโอกาสให้สมาชิก นักลงทุนที่สนใจร่วมลงทุนในรูปแบบของการเปิดศูนย์กระจายสินค้าและบริการ โดยใช้งบในการลงทุนอยู๋ที่ 150,000 บาท มีคอนเซ็ปต์อยู่ที่ 1 อำเภอ 1 ศูนย์เท่านั้น เพื่อรองรับการสั่งสินค้าและให้บริการกับสมาชิกจากทั่วประเทศ โดยมีเป้าหมายจะกระจายศูนย์บริการดังกล่าวให้ครบ 700 แห่งทั่วประเทศ ซึ่งในแต่ละศูนย์จะได้รับค่าบริหารตอบแทนจากบริษัท 8 เปอร์เซ็นต์ อีกด้วย
สำหรับการลงทุนทั้ง 2 รูปแบบนี้ บริษัทฯ พร้อมสนับสนุนด้านการตลาดโดยทีมฝึกอบรมระดับมืออาชีพ ควบคู่กับการจัดกิจกรรมแนะนำธุรกิจโดยการลงพื้นที่พบเกษตรกรและนักธุรกิจอิสระดาวปูแดง ในรูปแบบคอนเสิร์ตของ ‘คุณเสรี รุ่งสว่าง’ ที่พร้อมจะเดินทางไปพบปะและทำกิจกรรมร่วมกับสมาชิก ‘ดาวปูแดง’ ทั่วประเทศ นายเชน กล่าวทิ้งท้ายว่า ธุรกิจขายตรงการเกษตร ถือว่าเป็นสินค้าที่มีการซื้อซ้ำมากที่สุด ด้วยเหตุนี้จึงมั่นใจว่า ภายใน 2 ปีครึ่งจะสามารถสร้างยอดจำหน่ายถึง 1,000 ล้านบาทอย่างแน่นอน