นายจารึก เฮงรัศมี ผู้อำนวยการสถาบันไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ เปิดเผยว่า “แม้ภาวะวิกฤตเศรษฐกิจและปัจจัยลบทางด้านการเมืองในประเทศจะส่งผลให้ยอดการส่งออกเครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ของไทยหดตัวลงในช่วงที่ผ่านมา แต่เราเชื่อมั่นว่าการส่งออกของอุตสาหกรรมจะเริ่มฟื้นตัวขึ้นภายในไตรมาสที่ 2 นี้ ดังนั้น ผู้ประกอบการจึงควรมุ่งเน้นวางแผนการผลิตและการจัดส่งให้ตรงเวลาตามความต้องการของลูกค้า เพื่อเพิ่มความเชื่อมั่นทั้งในคุณภาพของสินค้าและบริการของผู้ผลิตไทย”
จากรายงานล่าสุดโดยคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) พบว่า ยอดคำสั่งซื้อผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์จากต่างประเทศในช่วงไตรมาสที่ 2 ของปีนี้ เพิ่มสูงขึ้นถึงร้อยละ 80 โดยเฉพาะในกลุ่มลูกค้าจากตลาดหลัก อาทิ ตะวันออกกลาง เอเชีย รัสเซีย และยุโรปตะวันออก โดยกลุ่มสินค้าที่ยังคงได้รับคำสั่งซื้ออย่างต่อเนื่อง ได้แก่ ฮาร์ดดิสก์ไดรฟ์ แผงวงจรไฟฟ้า เครื่องปรับอากาศ เตาไมโครเวฟ เครื่องซักผ้า และเครื่องรับโทรทัศน์
นายจารึกยังกล่าวอีกว่า “นอกจากการผลิตสินค้าคุณภาพสูงและการจัดส่งสินค้าที่รวดเร็วตรงเวลาแล้ว การผลิตสินค้าที่ประหยัดพลังงานและสอดคล้องกับมาตรฐานด้านสิ่งแวดล้อมของนานาประเทศทั่วโลกนับเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ผู้ซื้อทั่วโลกให้ความไว้วางใจในสินค้าไทย เช่น มาตรฐาน IPP (Integrated Product Policy) ของสหภาพยุโรป ซึ่งควบคุมมาตรฐานของผลิตภัณฑ์ครบวงจร นับตั้งแต่ขั้นตอนการผลิตและออกแบบ การใช้งาน และการกำจัดซากวัสดุ ตลอดจนมาตรฐานด้านสิ่งแวดล้อมอื่นๆ ซึ่งประเทศไทยได้ให้ความสำคัญกับปัจจัยดังกล่าวมาโดยตลอด”
แม้ว่าประเทศไทยต้องเผชิญกับภาวะการแข่งขันในตลาดโลกที่ทวีความรุนแรงขึ้น แต่นายจารึกยังคงเชื่อมั่นว่า การที่ประเทศไทยได้ให้ความสำคัญกับการผลิตสินค้าที่ประหยัดพลังงานและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ซึ่งกำลังเป็นที่ต้องการของผู้บริโภคทั่วโลกอย่างต่อเนื่อง จะเป็นส่วนสำคัญในการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของสินค้าไทยในตลาดโลก นอกจากนี้ ไทยยังมีข้อได้เปรียบทางด้านบุคลากรที่มีศักยภาพ รวมทั้งปัจจัยต่างๆ ที่เอื้ออำนวยต่อการลงทุนจากต่างชาติ ทำให้สามารถดึงดูดเม็ดเงินจากนักลงทุนและผู้ผลิตจากต่างชาติได้ในระยะยาวต่อไป
นายจารึกได้ให้ความเห็นว่าการกระตุ้นให้ผู้บริโภคได้รับรู้และตระหนักถึงผลกระทบต่างๆ จากวิกฤตภาวะโลกร้อนจะช่วยส่งเสริมให้ผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมได้รับความนิยมมากยิ่งขึ้น ทั้งนี้งานแสดงสินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ 2552 หรือ Bangkok E&E 2009 จะมีส่วนสำคัญในการรณรงค์สร้างความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับสภาวะโลกร้อน เพราะนอกจากการ จัดแสดงหลากหลายสินค้าที่โดดเด่นในด้านการประหยัดพลังงานและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม รวมถึงบริการต่างๆ แบบครบวงจรแล้ว ภายในงานยังมีการสัมมนาในประเด็นน่าสนใจ โดยวิทยากรผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรม
“ในโอกาสพิเศษเพื่อเฉลิมฉลองวาระครบรอบ 10 ปีสถาบันไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ ได้มีการเตรียมจัดการประชุม เชิงสัมมนาระดับนานาชาติในหัวข้อ “Asia Goes Green” อันจะช่วยตอกย้ำความเป็นผู้นำของไทยในด้านการผลิตสินค้าที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมของทวีปเอเชีย” นายจารึกกล่าว
งานแสดงสินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ หรือ Bangkok E&E 2009 จะจัดขึ้นพร้อมกับงานแสดงสินค้าเครื่องปรับอากาศและเครื่องทำความเย็น หรือ Bangkok RHVAC 2009 ระหว่างวันที่ 7-11 ตุลาคมนี้ (7-9 ตุลาคม เป็นวันเจรจาการค้า และเปิดให้จำหน่ายปลีกแก่ประชาชนทั่วไปในวันที่ 10-11 ตุลาคม) ณ อิมแพ็ค เมืองทองธานี โดยเปิดให้ผู้สนใจได้สัมผัสหลากหลายนวัตกรรมและเทคโนโลยีใหม่ล่าสุด ทั้งเครื่องใช้ไฟฟ้าในครัวเรือนและภาคอุตสาหกรรม อุปกรณ์ภาพและเสียง รวมทั้งชิ้นส่วนและเครื่องมืออุตสาหกรรม ตลอดจนบริการต่างๆ ในอุตสาหกรรมครบวงจร และกิจกรรมสัมมนาที่ให้ความรู้โดยผู้เชี่ยวชาญจากทั้งในและต่างประเทศ
ผู้ที่สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ กรมส่งเสริมการส่งออก สำนักบริการการส่งออก 2 โทร. 0-2512-0093-104 ต่อ 272, 250, 293 โทรสาร 0-2512-2234, 0-2512-1565 อีเมล์ : [email protected] เว็บไซต์ www.bangkok-electricfair.com
เผยแพร่ในนามกรมส่งเสริมการส่งออก กระทรวงพาณิชย์ ต้องการทราบรายละเอียดเพิ่มเติมเพื่อเผยแพร่ข่าว กรุณาติดต่อ คุณสมคิด เจริญศักดิ์ / คุณภราดา เกียวจันทึก โทร. 0 2254 6895-7, 084 147 7575 โทรสาร 0 2650 7738