พี “นายพูลยศ กัมพลกัญจนา” ผู้ประสานงานโครงการเปเปอร์เรนเจอร์ มูลนิธิบูรณะชนบทแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ กล่าวว่า กิจกรรมดังกล่าวเกิดขึ้นจากความรู้สึกสงสารธรรมชาติ และเสียดายกระดาษจำนวนมากที่ถูกใช้ไปแค่หน้าเดียว โดยเฉพาะเอกสารที่เราคุ้นหน้าคุ้นตากันดีอย่างกระดาษเอ 4 ที่เกือบทุกโรงเรียน มหาวิทยาลัย และสำนักงานต่างๆ จะมีเหลือทิ้งเป็นจำนวนมาก ทั้งที่ความเป็นจริงแล้วยังเหลือหน้าขาวๆ ใช้งานได้อีกด้านหนึ่งก่อนเข้าสู่กระบวนการรีไซเคิลเพื่อนำกลับมาใช้ใหม่ อันจะเป็นการใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่า สอดรับกับกระแสลดภาวะโลกร้อนเนื่องจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
“โครงการคืนชีพให้กระดาษ ขบวนการหน้าเดียวจึงเกิดขึ้น และได้รับการสนับสนุน ตลอดจนคำปรึกษาแนะนำจากมูลนิธิสยามกัมมาจลตั้งแต่ปลายปี 2551 เป็นต้นมา” พีกล่าว โดยที่ผ่านมามีการออกประชาสัมพันธ์ และรณรงค์ให้เกิดการใช้กระดาษอย่างคุ้มค่าทั้ง 2 หน้า แล้วในหลายมหาวิทยาลัย อาทิ มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และมหาวิทยาลัยศรีนครินทรินทรวิโรฒ ประสานมิตร จนประสบผลสำเร็จค่อนข้างน่าพอใจ ทั้งกิจกรรมการตั้งกล่องรับบริจาคกระดาษใช้แล้วหน้าเดียวในห้องคอมพิวเตอร์ ร้านถ่ายเอกสาร หน้าหอพักนักศึกษา บางส่วนยังได้รับบริจาคจากห้างร้านที่เห็นคุณค่าของโครงการ ฯลฯ
ขณะเดียวกันก็เริ่มสร้างแกนนำในสถานศึกษาที่จะรับไม้ต่อโครงการในระยะยาว ซึ่งท้ายที่สุดแล้ว กระดาษใช้แล้วหน้าเดียวเหล่านี้จะถูกแปรสภาพให้กลายเป็นสมุดทำมือน่ารักน่าใช้ส่งตรงถึงมือผู้บริโภคหัวใจสีเขียวในรูปของการแจกจ่าย และจำหน่ายนำรายได้บำรุงโครงการต่อไป
สำหรับสมุดทำมือประมาณ 500 เล่มที่มีการจัดทำในกิจกรรมครั้งล่าสุดนี้ จะได้รับการส่งต่อไปยังสามเณรน้อยในโรงเรียนชนบทภายใต้การประสานงานของโครงการอาหารเพลเพื่อสามเณรในชนบท มูลนิธิเด็ก จำนวน 10 โรงเรียน โรงเรียนละ 50 เล่ม เพื่อใช้เป็นสมุดนักเรียนเล่มสวย อาทิ โรงเรียนพระปริยัติธรรมวัดนิโครธาราม อ.ท่าวังผา จ.น่าน,โรงเรียนพระปริยัติศาสนาภิพัฒน์วัดเมืองราม อ.เวียงสา จ.เชียงราย และโรงเรียนพระปริยัติธรรมวัดวังสะพุงพัฒนาราม อ.วังสะพุง จ.เลย
โดยเชื่อว่าผลตอบรับจากกิจกรรมครั้งนี้ ที่มีผู้เข้าร่วมกิจกรรมกว่า 50 คน ทั้งที่เป็นนักศึกษา นิสิต นักเรียน และครอบครัวพ่อแม่ลูกที่จูงมือกันมาร่วมทำสมุดทำมือจากกระดาษหน้าเดียว จะเป็นแรงผลักดันให้เกิดจิตสำนึกการใช้กระดาษอย่างคุ้มค่าแพร่ขยายไปยังสังคมในวงกว้างมากขึ้นในอนาคต
น้องกริช “นายกริช จั่นอาจ” นักศึกษาคณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สาขาเทคโนโลยีสารสนเทศ มหาวิทยาลัยกรุงเทพ เยาวชนที่มาร่วมกิจกรรม กล่าวว่า เวลานี้ ตัวเขาและเพื่อนๆ กำลังเก็บรวบรวมกระดาษใช้แล้วทุกรูปแบบไปมอบให้แก่โรงงานกระดาษเพื่อนำไปรีไซเคิลเพื่อผลิตกระดาษใหม่อีกครั้ง โดยเป็นโครงงานในวิชาสังคมและการเมืองที่มหาวิทยาลัยกรุงเทพต้องการให้นักศึกษาทำกิจกรรมเพื่อสังคม พบว่า โครงงานดังกล่าวได้รับการตอบรับค่อนข้างดี มีเพื่อนนักศึกษานำกระดาษใช้แล้วมาบริจาคตามจุดรับบริจาคค่อนข้างมาก
การมาร่วมกิจกรรมครั้งนี้ กริชได้ทราบข่าวมาจากเพื่อน และชวนเพื่อนๆ มาทำกิจกรรมกว่า 10 คน เมื่อมาแล้วก็ได้ทั้งเพื่อนใหม่ และแนวความคิดกลับไปต่อยอดโครงงานที่กำลังทำอยู่ เช่น การเพิ่มมูลค่าของกระดาษใช้แล้วหน้าเดียวให้สูงขึ้น ไม่เพียงแต่การเก็บรวบรวมกระดาษใช้แล้ว แต่สามารถนำกระดาษเหล่านั้นมาสร้างสรรค์เป็นสมุดจดที่มีความสวยงามได้ด้วย “จิตอาสาเป็นเรื่องที่ตรงตัวอยู่แล้ว คือ ใจเราอยากจะทำเอง ไม่ได้มีใครบังคับ แต่เราคิดที่อยากจะทำ อยากแบ่งปันเผื่อแผ่อะไรให้คนอื่นๆ บ้าง”
นายราเชน บุญเต็ม พี่เลี้ยงเยาวชนรักษ์บ้านเกิดด้านวัฒนธรรมในโครงการส่งเสริมการจัดการความรู้ของเยาวชนในชุมชนท้องถิ่น (4 ภาค) มูลนิธิสยามกัมมาจล กล่าวว่า รู้สึกดีที่ได้ร่วมกิจกรรมครั้งนี้ และรู้สึกสนุกเพลิดเพลินไปกับกิจกรรม มองว่าเป็นกิจกรรมที่มีประโยชน์มาก ซึ่งเขาจะนำแนวคิดการใช้กระดาษให้คุ้มค่าไปเผยแพร่ให้แก่น้องๆ เยาวชนในพื้นที่ตำบลท่าเรือ อำเภอเมือง จังหวัดนครศรีธรรมราช ได้ทำตาม
ที่สำคัญยังจะนำแนวคิดนี้ไปชักชวนน้องๆ ในสถานพินิจเด็กและเยาวชน จังหวัดนครศรีธรรมราช ได้ทำสมุดบันทึกจากกระดาษหน้าเดียวใช้ เพราะเป็นสิ่งที่ค่อนข้างขาดแคลน การทำสมุดบันทึกจากกระดาษหน้าเดียวจึงช่วยให้เยาวชนที่รักการขีดๆ เขียนๆ ในสถานพินิจเด็กและเยาวชน จังหวัดนครศรีธรรมราช มีอุปกรณ์การเขียนที่ครบครันมากขึ้น “ผู้ที่มาร่วมกิจกรรมครั้งนี้ถือเป็นผู้ที่มีจิตอาสา ทั้งยังเป็นการมาทำบุญร่วมกัน และเป็นการช่วยเหลือสังคมไปในตัวด้วย”
ทางด้านผู้ใหญ่ใจดีที่มาร่วมกิจกรรม น.ส.เยาวรัตน์ โนนกอง ผู้ช่วยผู้จัดการด้านการประกันคุณภาพของบริษัทรับเหมาก่อสร้างแห่งหนึ่ง กล่าวว่า ปกติในวันหยุดเสาร์ -อาทิตย์ เธอมักชักชวนเพื่อนๆ ไปทำบุญที่วัด หรือไปเลี้ยงเด็กกำพร้าตามสถานสงเคราะห์อยู่เสมอๆ เช่นกันกับกิจกรรมสมุดทำมือเพื่อสามเณรครั้งนี้ ซึ่งทำให้ได้รับความรู้ ได้เพื่อน และได้ประสบการณ์ใหม่ๆ ที่ไม่เคยพบมาก่อนหากไม่ได้เข้ามาสัมผัส “โดยส่วนตัวแล้วจะมองว่าการทำกิจกรรมจิตอาสา เราสามารถทำได้โดยไม่เป็นการเบียดบังเวลาทำงาน หรือเวลาสำหรับชีวิตด้านอื่นๆ เลย ขึ้นอยู่กับการจัดสรรเวลามากกว่า ว่าเราจะจัดเวลามาทำกิจกรรมเหล่านี้หรือไม่”
ส่วนนักกิจกรรมรุ่นเล็ก ด.ญ.พรรณธร สุขกลัด อายุ 10 ปี นักเรียนชั้น ป. 5 โรงเรียนเศรษฐบุตรอุปถัมภ์ ที่มาร่วมกิจกรรมพร้อมกับคุณแม่ บอกว่า เธอเพิ่งร่วมทำกิจกรรมหนังสือธรรมะทำมือในโครงการธรรมะทำมือ “ใจสบายแม้กายป่วย” ที่สวนรถไฟมาเมื่อไม่นานมานี้ จึงสนใจมาร่วมกิจกรรมสมุดทำมือด้วย โดยคุณแม่ได้เตรียมกระดาษหน้าเดียวจากสำนักงานมาสมทบด้วยจำนวนหนึ่ง เมื่อมาแล้วก็รู้สึกสนุกไปกับกิจกรรม ไม่รู้สึกเบื่อ เหนื่อยก็พัก หรือเดินชมพิพิธภัณฑ์ธนาคารไทยที่เปิดให้ผู้ร่วมกิจกรรมได้เข้าชมฟรี ทำให้ได้รับความรู้ไปอีกแบบ ส่วนกิจกรรมสมุดทำมือก็เป็นกิจกรรมที่ทำได้ง่าย และสามารถทำได้ที่บ้าน ซึ่งหากมีกิจกรรมอย่างนี้อีกก็จะมาร่วมกิจกรรมอีกอย่างแน่นอน
ขณะที่ นางปิยาภรณ์ มัณฑะจิตร ผู้จัดการมูลนิธิสยามกัมมาจล กล่าวว่า โครงการคืนชีพให้กระดาษ ขบวนการหน้าเดียว ถือเป็นโครงการที่มูลนิธิสยามกัมมาจลให้การสนับสนุนการปลูกจิตสำนึกการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ แก้ปัญหาโลกร้อน บนวิถีความพอเพียงให้แก่เยาวชน ซึ่งถือเป็นกิจกรรมจิตอาสาอย่างหนึ่งที่คนทุกเพศวัยสามารถทำได้ต่อเนื่อง ซึ่งนอกเหนือจากจะได้สมุดทำมือส่งต่อไปยังสามเณรในชนบทแล้ว กิจกรรมครั้งนี้ยังเป็นกุศโลบายที่ดีที่เชื่อมโยงผู้ที่มีจิตอาสา ทำความดีให้กับสังคม เกิดการเรียนรู้จากข้างใน ได้พบปะ ทำความรู้จัก ตลอดจนเชื่อมร้อยเป็นเครือข่ายร่วมกัน
โดยในส่วนของมูลนิธิสยามกัมมาจล นอกจากกิจกรรมนี้ยังขอเชิญชวนเยาวชนที่สนใจเข้าร่วมทำกิจกรรมกับมูลนิธิสยามกัมมาจล ซึ่งมีโครงการส่งเสริมเยาวชนทำกิจกรรมจิตอาสาในอีกหลายโครงการ เช่น โครงการพัฒนาศักยภาพแกนนำเยาวชนจิตอาสาในสถานศึกษา ส่งเสริมให้นักเรียนระดับมัธยมศึกษาเข้าทำกิจกรรมช่วยเหลือดูแลผู้ป่วยเด็กและผู้ป่วยทหารจากเหตุการณ์ความไม่สงบภาคใต้ ในโรงพยาบาล รวมถึงโครงการส่งเสริมการจัดการความรู้ของเยาวชนในชุมชนท้องถิ่น (4 ภาค) ส่งเสริมให้เยาวชนแกนนำใน 4 ภูมิภาคทำกิจกรรมพัฒนาตนเอง และใช้ชีวิตอยู่ในชุมชนบ้านเกิดได้อย่างมีความสุข เยาวชนที่สนใจสามารถแสดงความจำนงเข้าร่วมกิจกรรมนี้ได้ที่มูลนิธิสยามกัมมาจล 0-2544-2513, 0-2544-3991.
เรียกได้ว่าเป็นกิจกรรมที่สุขใจทั้งผู้ให้และผู้รับจริงๆ .
ติดต่อฝ่ายสื่อสารสังคม มูลนิธิสยามกัมมาจล ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน)
สมเกียรติ พุทธิจรุงวงศ์ 0-2544-5692 หรือติดตามความเคลื่อนไหวของมูลนิธิ พร้อมดาวน์โหลดเนื้อหาและภาพข่าวได้ที่
www.scbfoundation.com รวมทั้งอัพเดทข่าวสารความเป็นไปของเยาวชนคนรุ่นใหม่ได้ที่เว็บบล็อก www.okkid.net