สำหรับวิทยากรที่เข้าร่วมการเสวนาในครั้งนี้ได้แก่ ผศ.ดร.ธนวรรธน์ พลวิชัย คณบดี คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ผศ.ดร.พาวิน มะโนชัย สาขาไม้ผล คณะผลิตกรรม การเกษตร มหาวิทยาลัยแม่โจ้ นายประสงค์ ตันวัฒนากูล ประธานชมรมผู้แปรรูปลำไยอบแห้งภาคเหนือ ผู้แทนสำนักงานเกษตรจังหวัดเชียงใหม่ เกษตรกรผู้ปลูกลำไย และผู้แทนผู้ส่งออกลำไยอบแห้ง
ทั้งนี้ สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรได้รายงานแนวโน้มการผลิตลำไยปี 2552 ว่า พื้นที่ ให้ผลผลิตลำไยเพิ่มขึ้นร้อยละ 2.13 ผลผลิตเพิ่มขึ้นร้อยละ 7.82 ปริมาณการส่งออกลำไยสดและผลิตภัณฑ์จากลำไยเพิ่มขึ้นร้อยละ 10 โดยประเทศจีนเป็นตลาดหลักที่มีความต้องการบริโภค อย่างไรก็ตามคาดว่าราคาลำไยสดและลำไยอบแห้งที่เกษตรขายได้มีแนวโน้มลดลงเนื่องจากปริมาณผลผลิตที่เพิ่มขึ้น
นายเอ็นนูกล่าวอีกว่า ในปี 2550 ที่ผ่านมาภาครัฐมีโครงการรับจำนำผลผลิตลำไยอบแห้งทั้งเปลือกเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของเกษตรกรจากปัญหาราคาตกต่ำ ทำให้เกษตรกรส่วนใหญ่คาดหวังว่ามาตรการความช่วยเหลือจากภาครัฐจะช่วยลดความเสี่ยงทางด้านราคาให้ เกษตรกรจึงเพิ่มพื้นที่ การปลูก ขณะที่การแปรรูปลำไยยังคงมีข้อจำกัดหลายประการทั้งการขาดเทคโนโลยีการผลิต ขาดเงินลงทุนด้านเครื่องจักรและอุปกรณ์ต่างๆ ในการแปรรูป ตลอดจนการขาดกลไกเชื่อมโยงเครือข่ายและการรวมกลุ่มเพื่อการแปรรูปลำไยและการตลาด ดังนั้น การเสวนาดังกล่าวจะเป็นประโยชน์ต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการนำข้อมูลมากำหนดมาตรการเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกลำไย โดยเร็วต่อไป