นางพรทิวา นาคาศัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า กระทรวงพาณิชย์ ได้ลงนาม ความร่วมมือกับบริษัท บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) ภายใต้ความร่วมมือ “การส่งเสริมการรับซื้อและการจัดจำหน่ายผลิตผลผักและผลไม้ไทย" โดยบิ๊กซีจะรับซื้อผลผลิตผักและผลไม้ประจำฤดูกาลและประจำปีและสินค้าแปรรูปจากผักและผลไม้ไทย เพื่อจำหน่ายผ่านสาขาของบิ๊กซีทั่วประเทศ โดยกระทรวงพาณิชย์จะส่งเสริมและสนับสนุนกิจกรรมของบิ๊กซี ทั้งในด้านความร่วมมือในกิจกรรมต่างๆและ การประชาสัมพันธ์ เพื่อให้การส่งเสริม รับซื้อ และส่งออกผลิตผลทางการเกษตรของไทยเป็นรูปธรรมและบรรลุเป้าหมายทุกประการ
“กระทรวงพาณิชย์มีหน้าที่รับผิดชอบในการส่งเสริมและสนับสนุนภาคการเกษตรของไทย ด้วยการส่งเสริมการจำหน่าย ส่งออก และบริโภคผลิตผลการเกษตรของไทย โดยเฉพาะผักและผลไม้ตามฤดูกาล เนื่องจากภาคการเกษตรมีมูลค่ากว่าร้อยละ 11 ของผลผลิตมวลรวมประชาชาติ และเกี่ยวข้องกับร้อยละ 40 ของแรงงานทั้งหมดของประเทศไทย ภายใต้ความร่วมมือระหว่างกระทรวงพาณิชย์และบิ๊กซี จะช่วยให้เกษตรกรมีช่องทางจำหน่ายผักผลไม้เพิ่มเติม ซึ่งจะช่วยแก้ปัญหาสินค้าเกษตรลุ้นตลาดและมีราคาตกต่ำ โดยเบื้องต้นในปี 2552 นี้ บิ๊กซีจะเพิ่มปริมาณการรับซื้อผักและผลไม้ประจำฤดูกาลและประจำปีจากปริมาณการรับซื้อในปีที่ผ่านมาประมาณ 10,000 ตันตลอดปีนี้ ” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าว
นางสาวจริยา จิราธิวัฒน์ รองประธานฝ่ายการตลาดและการสื่อสารบริษัท บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ในปี 2552 บิ๊กซีจะรับซื้อผักและผลไม้ประจำฤดูกาลและประจำปีเพิ่มขึ้นจาก 9,000 ตันในปีที่แล้ว เป็น 10,000 ตัน หรือ 10% นอกจากนี้ บิ๊กซีจะเป็นตลาดรองรับสินค้า OTOP ซึ่ง แปรรูปจากผักและผลไม้ไทย
ในการส่งเสริมการขายผักและผลไม้ประจำสาขา ทางบิ๊กซีจะจัดเตรียมพื้นที่เฉพาะส่วนของแต่ละสาขาทั้งภายในและภายนอก เพื่อจัดกิจกรรมจำหน่ายผักและผลไม้ไทยตลอดทั้งปี รวมทั้งการพัฒนาและวิชาการ โดยการจัดส่งวิทยากรไปให้ความรู้แก่เกษตรกรไทยผู้ผลิตผักและผลไม้ผ่านทางสหกรณ์ต่างๆ ตลอดจนการให้กลุ่มเกษตรกรไทยเข้าดูงานด้านการรักษาและตรวจสอบคุณภาพสินค้าทางการเกษตรที่ศูนย์จัดส่งสินค้าของบิ๊กซี ปีละ 2 ครั้ง เพื่อสนับสนุนให้เกษตรกรไทยสามารถเข้าสู่ระบบการจัดการคุณภาพ GAP (Good Agricultural Practice)
“บิ๊กซียังร่วมส่งเสริมธุรกิจและอุตสาหกรรมระดับท้องถิ่น ด้วยการจัดเตรียมพื้นที่สำหรับจำหน่ายสินค้า โอทอป และการจัดนิทรรศการโอทอปทั้งในระดับย่อยและระดับประเทศ โดยไม่คิดค่าเช่า ใน 67 สาขา ทั่วประเทศเพื่อประชาสัมพันธ์สินค้าโอทอปอย่างทั่วถึงในวงกว้าง รวมทั้งในตลาดต่างประเทศ บิ๊กซีจะให้ความร่วมมือในการเพิ่มช่องทางจำหน่ายในต่างประเทศผ่านบริษัทในกลุ่มคาสิโน ซึ่งมีสำนักงานอยู่ในประเทศต่างๆ เพื่อให้เกิดความร่วมมือในการติดต่อทางการค้าระหว่างตัวแทนของกระทรวงพาณิชย์ซึ่งประจำในประเทศดังกล่าวกับสำนักงานของกลุ่มคาสิโน ซึ่งมี 10 ประเทศทั่วโลก” นางสาวจริยากล่าว
ทั้งนี้ ในช่วงที่ผ่านมา บิ๊กซีได้จัดทำกิจกรรมเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรในด้านต่างๆ อาทิ การรับซื้อผลไม้จากกลุ่มสหกรณ์การเกษตรต่างๆ เช่น กลุ่มเกษตรกรภาคเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้ รวมถึง การสนับสนุนด้านการตลาดและให้ความรู้ในด้านการพัฒนาสินค้ากับเกษตรกร เป็นต้น
สำหรับ “เทศกาลอุดหนุนผลไม้ไทย ใส่ใจเศรษฐกิจชาติที่บิ๊กซี” บิ๊กซีจะจำหน่ายผักและผลไม้ อาทิ ทุเรียน เงาะ มังคุด สละ ลิ้นจี่ ลองกอง ระหว่างวันที่ 21 พฤษภาคม ถึงวันที่ 28 พฤษภาคม 2552 ที่บิ๊กซี ทุกสาขา
บริษัท บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) (ชื่อย่อในการซื้อขายหลักทรัพย์ฯ: BIGC) ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2536 เป็นผู้ดำเนินธุรกิจค้าปลีกสมัยใหม่ในรูปแบบซูเปอร์เซ็นเตอร์ ชื่อ บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ ซึ่งจัดจำหน่ายสินค้าอุปโภคและบริโภคที่หลากหลายในราคาสมเหตุสมผล ภายใต้สโลแกน “เราให้คุณมากกว่าคำว่าถูก” เพื่อสร้างความพึงพอใจ ในระดับสูงสุดแก่ผู้บริโภค ปัจจุบันมีสาขาที่เปิดให้บริการจำนวน 67 สาขาครอบคลุมทั่วประเทศ สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับบิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ สามารถเข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์ของบริษัทฯ ได้ที่ www.bigc.co.th
ข้อมูลเพิ่มเติมสำหรับสื่อมวลชน กรุณาติดต่อที่ อาซิแอม เบอร์สัน-มาร์สเตลเลอร์
สาธิดา ศรีธัญญาธรณ์ / หงสินันท์ สมบูรณ์วรรณะ
โทร: 0 2252 9871-7