PYLON เอาฤกษ์โชว์กำไรโค้งแรกยอดเยี่ยม เชื่อฝ่ามรสุมดันผลงานครึ่งปีแรกเติบโตได้

ศุกร์ ๒๒ พฤษภาคม ๒๐๐๙ ๑๑:๒๙
PYLON โชว์ผลประกอบการในงบรวมบริษัทย่อยโค้งแรกปี 52 ออกมายอดเยี่ยมโชว์กำไรทะลุ 15.43 ล้านบาท ขณะที่งบเดี่ยวอยู่ที่ 11.02 ล้านบาท เติบโตเพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่ทำได้ 10.05 ล้านบาท "บดินทร์ แสงอารยะกุล" เผยเป็นผลมาจากรับรู้งานในมือที่มีอยู่ 200 ล้านบาท และบริษัทลูก " เอ็กซิลอน" เริ่มทำกำไรได้ชัดเจนขึ้น พร้อมคุย เตรียมประมูลเพิ่มอีก 300 ล้านบาท เชื่อครึ่งปีแรกฝ่ามรสุมเศรษฐกิจซบ

นายบดินทร์ แสงอารยะกุล กรรมการรองผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไพลอน จำกัด (มหาชน) หรือ PYLON เปิดเผยถึงผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 1/2552 สิ้นสุดวันที่ 31มีนาคม 2552ว่า บริษัทฯ รวมบริษัทย่อยมีกำไรสุทธิ 15.33 ล้านบาท ในขณะที่งบเฉพาะกิจการจะพบว่าบริษัทฯมีกำไรสุทธิ 11.01 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปี2551 ที่ทำได้ 10.05 ล้านบาท โดยผลประกอบการที่เติบโตขึ้นสวนทางกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจดังกล่าวเป็นผลมาจากการทยอยรับรู้รายได้จากงานที่อยู่ในมือ(Backlog) ที่มีอยู่ประมาณ 200 ล้านบาท รวมถึงรับรู้รายได้จากบริษัทย่อย คือ บริษัท เอ็กซิลอน จำกัด ซึ่งประกอบธุรกิจให้บริการงานออกแบบก่อสร้างและตกแต่งสิ่งปลูกสร้างต่างๆ ที่ PYLON ถือหุ้นในสัดส่วน 51%

"ไตรมาสแรกที่งบของเราออกมาดีเพราะรับรู้รายได้จาก Backlog ที่มีอยู่ในมือกว่า 200 ล้านบาท นอกจากนั้น ยังได้ผลประกอบการของบริษัทลูก " เอ็กซิลอน" เข้ามาช่วยหนุน แม้ว่าจะเพิ่งก่อตั้งเมื่อเดือนธันวาคม 2551 ที่ผ่านมา แต่ก็สามารถสร้างรายได้และกำไรได้ทันที ซึ่งปีนี้จะรับรู้รายได้เต็มปีเชื่อว่าน่าจะสนับสนุนให้ผลประกอบการของ PYLON เป็นไปในทิศทางที่ดีได้"

นายบดินทร์ กล่าวต่อถึง แนวโน้มผลประกอบการในไตรมาสที่ 2/2552 ว่า ยังมีทิศทางที่ดีแต่อาจชะลอลงบ้างเนื่องจากมีวันหยุดเยอะในเดือนเมษายนถึงพฤษภาคม โดยในช่วงไตรมาส 2/2552 บริษัทมีงานในมือคิดเป็นมูลค่าประมาณ 150 ล้านบาท และอยู่ระหว่างการประมูลอีกประมาณ 300 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะทยอยรับรู้เข้ามาเป็นรายได้ในช่วงปลายไตรมาส 2/2552 จนถึงต้นไตรมาสที่ 3/2552 ดังนั้น คาดว่าผลประกอบการครึ่งปีแรกมีแนวโน้มที่ดี แม้ภาวะเศรษฐกิจโลกจะชะลอตัว เนื่องจากที่ผ่านมาบริษัทได้เข้าร่วมประมูลงานต่างๆ อย่างต่อเนื่อง เพื่อขยายฐานลูกค้า รวมถึงเพิ่มประสิทธิภาพและพัฒนาการทำงาน ให้เหมาะสมกับงานแต่ละโครงการ เพื่อให้สามารถรองรับงานที่จะเข้ามาในอนาคตได้อย่างคล่องตัว

สำหรับการขยายธุรกิจในครึ่งปีหลัง กรรมการรองผู้จัดการใหญ่ PYLON กล่าวว่า บริษัทฯ ยังคงเดินหน้าร่วมประมูลงานอย่างต่อเนื่อง เพื่อเพิ่มจำนวน Backlog ให้มากขึ้น หลังจากที่ส่วนใหญ่จะทยอยรับรู้เป็นรายได้ในช่วงครึ่งปีแรก โดยจะให้ความสำคัญกับงานในภาครัฐเป็นหลัก เนื่องจากมองว่าจะเริ่มมีงานในโครงการขนาดใหญ่ของภาครัฐออกสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งโครงการรถไฟฟ้าสายต่างๆ ซึ่งน่าจะเริ่มก่อสร้างได้ประมาณช่วงไตรมาสที่ 3-4 ของปี 2552 และที่ผ่านมาโครงการรถไฟฟ้าสายสีแดงช่วงบางซื่อ- ตลิ่งชัน และโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วงช่วงบางใหญ่-บางซื่อ ได้ผู้ชนะการประมูลแล้วจะช่วยให้มีงานเข้าสู่ตลาดเพิ่มขึ้น ดังนั้นบริษัทต้องเตรียมความพร้อมเพื่อรองรับสถานการณ์ดังกล่าว รวมถึงการขยายพันธมิตรทางธุรกิจ เพื่อให้รับงานได้กว้างขวางมากขึ้น ซึ่งปัจจุบัน PYLON มีความพร้อมเป็นอย่างดีทั้งด้านกระแสเงินสด ประสบการณ์ในโครงการขนาดใหญ่รวมทั้งเครื่องมือและบุคลากรที่มีอยู่อย่างครบครัน

นายบดินทร์ กล่าวต่อในช่วงท้ายว่าถึงแม้ในปี 2552 จะเป็นอีกปีหนึ่งที่ดำเนินธุรกิจอย่างยากลำบาก แต่จากประสบการณ์ และผลงานที่สร้างไว้เป็นจำนวนมากในตลาด จะทำให้ PYLON ยังสามารถรักษาส่วนแบ่งในตลาดรับเหมาก่อสร้างฐานรากไว้ที่ระดับ 20% ซึ่งเป็นส่วนแบ่งทางการตลาดในปัจจุบันไว้ได้ ส่วนรายได้นั้นวางเป้าหมายไว้ที่ระดับ 500 — 700 ล้านบาท เนื่องจากราคาเหล็กและน้ำมันที่ลดลงทำให้มูลค่าต่อโครงการลดลงไปด้วย

ข้อมูลบริษัท ไพลอน จำกัด (มหาชน) (PYLON)

บริษัท ไพลอน จำกัด (มหาชน) (PYLON) ดำเนินธุรกิจเป็นผู้รับเหมาก่อสร้างงานฐานรากงาน แบ่งออกเป็น 3 สายงานหลัก ดังนี้ คือ

1.งานเสาเข็มเจาะ (Bored Pile) เสาเข็มเจาะเป็นเสาเข็มที่นิยมใช้กับการก่อสร้างฐานรากของโครงสร้างขนาดใหญ่ และโครงสร้างอาคารในบริเวณที่มีพื้นที่จำกัด นอกจากนี้เสาเข็มเจาะยังลดมลภาวะเรื่องเสียงและแรงสั่นสะเทือนเมื่อเทียบกับการใช้เสาเข็มตอก การก่อสร้างเสาเข็มเจาะนั้นสามารถปรับเปลี่ยนขนาดได้ จากขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางน้อยกว่า 50 เซนติเมตร จนถึงมากกว่า 1 เมตรขึ้นไป และทำได้ถึงความลึกมากกว่า 60 เมตร ขึ้นอยู่กับการออกแบบกำลังรับน้ำหนักของเสาเข็มโดยวิศวกร และสภาพชั้นดินในแต่ละพื้นที่

2. งานปรับปรุงคุณภาพดิน (Ground Improvement) มีวัตถุประสงค์เพื่อเพิ่มเสถียรภาพให้กับโครงสร้างของดินเดิม ทำให้ดินมีกำลังรับน้ำหนักมากขึ้นและป้องกันการเคลื่อนตัวของดิน โดยบริษัทมีการให้บริการงานประเภทนี้โดยวิธีการอัดฉีดซีเมนต์ด้วยแรงดันสูง (Jet Grouting) ที่ความดันประมาณ 200 ถึง 400 บาร์ และ 3.งานก่อสร้างกำแพงกันดินชนิดไดอะแฟรม (Diaphragm Wall) กำแพงกันดินชนิดไดอะแฟรมเป็นการก่อสร้างกำแพงโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อใช้เป็นโครงสร้างรับน้ำหนักและป้องกันการเคลื่อนตัวของดินทางด้านข้าง ซึ่งส่วนใหญ่จะใช้เพื่อเป็นโครงสร้างของชั้นจอดรถใต้ดิน กำแพงอาคารผู้โดยสารสำหรับระบบรถไฟฟ้าใต้ดิน และอุโมงค์ลอดทางแยก เป็นต้น

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ : จุฬารัตน์ เจริญภักดี (ฟ้า) 02-5549395

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๕ พ.ย. ดิ เอราวัณ กรุ๊ป เปิดตัว HOP NextGen ชวนนักศึกษาเยี่ยมชม ฮ็อป อินน์ เรียนรู้เทคนิคบริการแบบ Consistency is Yours พร้อมพัฒนาบุคลากรรุ่นใหม่
๑๕ พ.ย. คิง เพาเวอร์ ต้อนรับเทศกาลแห่งความสุขส่งท้ายปี เปิดแคมเปญ THE POWER OF FUNTASTIC CELEBRATION 2025 ฉลองทุกความสุข สนุกไม่รู้จบ
๑๕ พ.ย. พันธุ์ไทย ชวนแฟนด้อม คัลแลนและพี่จอง จุ่ม การ์ดพันธุ์ไทยใจฟู ลิมิเต็ด อิดิชั่น
๑๕ พ.ย. BAM ทรานส์ฟอร์มองค์กรสู่ DIGITAL ENTERPRISE ตอกย้ำผู้นำ AMC ยุค 4.0 วางเป้าหมายยกระดับองค์กรสร้างโอกาสเติบโตอย่างยั่งยืน เตรียมส่ง อิสระ เดอะซีรีส์ ชวนลูกหนี้ BAM
๑๕ พ.ย. บางจากฯ ได้รับการประเมินด้านความยั่งยืนอันดับสูงสุดของโลก จาก SP Global 2024 ในกลุ่มอุตสาหกรรม Oil Gas Refinery and
๑๔ พ.ย. ซีเอเค อินเตอร์เนชั่นแนล ออกบูธให้ความรู้เรื่องการใช้งานระบบดับเพลิงนร. พระหฤทัยนนทบุรี
๑๒ พ.ย. พนักงานซีเอเค อินเตอร์เนชั่นแนล รับรางวัลเจ้าหน้าที่ความปลอดภัยในการทำงานดีเด่น
๑๕ พ.ย. PROSPECT REIT ชูไตรมาส 3/67 โตเกินเป้า อัตราการเช่าพุ่งนิวไฮ หนุนจ่ายปันผลเด่น 0.2160 บาท
๑๕ พ.ย. CHAO ประกาศงบ Q3/67 กำไรพุ่งกว่า 62% รับตลาดส่งออกพีค จีนโตเด่น แย้ม Q4 เดินหน้าบุกตลาดในประเทศ สินค้าใหม่หนุนยอดขายปลายปี
๑๕ พ.ย. ฉลองเทศกาลลอยกระทงประจำปี 2567 ณ โรงแรมแมนดาริน โอเรียนเต็ล กรุงเทพฯ