บลจ. นครหลวงไทย ร่วมกับ Citigroup เตรียมเสนอขายกองทุนเปิดนครหลวงไทย Efficient Long - Short Commodity (LSCom) ซึ่งเป็นกองทุน Feeder Fund ลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุน Citi COMET Index USD Fund โดยกองทุนดังกล่าวมีนโยบายสร้างผลตอบแทนให้เป็นไปตามสินทรัพย์อ้างอิง คือ ดัชนี Citi COMET Index ผ่านการทำธุรกรรม Total Return Swap ทั้งนี้ บลจ. นครหลวงไทย ร่วมกับ Citigroup เริ่มจัดสัมมนาเชิญลูกค้าสถาบันรายใหญ่ที่สนใจและมีศักยภาพในการลงทุนเข้ารับฟัง ณ โรงแรม โฟร์ซีซั่น กรุงเทพฯ เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 28 พฤษภาคม 52
นายธีรพันธุ์ จิตตาลาน กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน นครหลวงไทย จำกัด เปิดเผยว่า จากรายงานตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญ เช่น ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของสหรัฐ (รอยเตอร์ และมหาวิทยาลัยมิชิแกน) ในเดือนพฤษภาคม 2552 ปรับเพิ่มขึ้นไปอยู่ที่ระดับ 67.9 ซึ่งถือได้ว่าเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนมีนาคม 2551 หรือในรอบกว่า 14 เดือน ขณะที่ดัชนีภาคอุตสาหกรรมการผลิต และภาคบริการ ในเขตยูโรโซนปรับตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 4 ติดต่อกัน โดยปรับขึ้นไปอยู่ที่ระดับ 40.5 และ 44.7 ตามลำดับ รวมทั้ง ดัชนีชี้นำของภาคการผลิต PMI Manufacturing Index ทั้งสหรัฐ ยุโรป และจีนเริ่มดีขึ้น รวมกับปัจจัยอื่นๆ แล้ว ทำให้บริษัทฯ มีมุมมองจากการวิเคราะห์ว่าเศรษฐกิจโลกได้พ้นจากจุดต่ำสุดของการถดถอยแล้ว ดังนั้น ต่อไปกิจกรรมทางเศรษฐกิจมีแนวโน้มสูงขึ้น ซึ่งเป็นปัจจัยหลักที่จะทำให้ราคาของสินค้าโภคภัณฑ์ และตัวเลขเงินเฟ้อสูงขึ้นตาม ซึ่งหากนักลงทุนพึ่งพาแต่การฝากเงินเฉยๆ ก็จะมีผลทำให้ค่าเงินลดลงเมื่อเทียบกับระดับเงินเฟ้อ
ในฐานะที่บลจ. นครหลวงไทยซึ่งเป็นบริษัทจัดการกองทุนที่มีกองทุนหุ้นและตราสารหนี้ทั้งในและต่างประเทศ และมีทีมบริหารการลงทุนและทีมบริหารความเสี่ยงที่มีศักยภาพและความสามารถสูง จึงเล็งเห็นโอกาสในการลงทุนในสินค้าโภคภัณฑ์เพื่อเป็นทางเลือกการลงทุนอีกประเภทซึ่งจะช่วยกระจายความเสี่ยงจากการลงทุน และ/หรือ เพิ่มอัตราผลตอบแทนให้แก่พอร์ตสำหรับผู้ถือหน่วยลงทุนของบริษัทได้ดียิ่งขึ้น เนื่องจากข้อมูลในอดีต การลงทุนในหุ้นนั้นมีความผันผวนประมาณ 25-27% ต่อปี ในขณะที่อัตราผลตอบแทนของกองทุน Citi COMET Index USD Fund มีความผันผวนในช่วง 10 ปีที่ผ่านมาเฉลี่ยประมาณ 11% ต่อปี จึงทำให้เมื่อพิจารณาจากอัตราผลตอบแทนหลังปรับด้วยค่าความเสี่ยงแล้ว การลงทุนในสินค้าโภคภัณฑ์จึงมีความน่าสนใจมากกว่า และสินค้าโภคภัณฑ์มักจะให้ผลตอบแทนที่ดีในช่วงที่อัตราผลตอบแทนจากหุ้นและตราสารหนี้ไม่สูงมากนัก
จากการศึกษาของ Goldman Sachs ที่พบว่าแนวโน้มอัตราผลตอบแทนจากสินค้าโภคภัณฑ์จะแปรผันตามการเปลี่ยนแปลงของอัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจที่แท้จริง โดยถึงแม้ว่าเศรษฐกิจโลกจะยังชะลอตัวอยู่ (ติดลบ) แต่เริ่มติดลบในอัตราที่ลดลง ก็ถือว่ามีการเปลี่ยนแปลงเพิ่มขึ้นแล้ว และอัตราผลตอบแทนจากสินค้าโภคภัณฑ์จะสูงกว่า 10 เท่าของการเปลี่ยนแปลงของอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ โดย Goldman Sachs คาดการณ์อัตราผลตอบแทนจากสินค้าโภคภัณฑ์ไว้สูงถึง 3 เท่า ในช่วง 5 ปี ข้างหน้า (ปี 2553 — 2557)
บริษัทฯ จึงเตรียมเสนอขายกองทุน FIF ประเภท Feeder Fund เพื่อเพิ่มช่องทางการลงทุนให้แก่ผู้ที่ต้องการกระจายการลงทุนไปยังต่างประเทศ โดยเฉพาะผู้ที่ต้องการกระจายความเสี่ยงของการลงทุนบางส่วนในตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ โดยกองทุนเปิดนครหลวงไทย Efficient Long-Short Commodity มีนโยบายลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุน Citi COMET Index USD Fund ซึ่งเป็นกองทุนหลัก ซึ่งมีกลยุทธ์การลงทุนแบบ Long — Short เพื่อหากำไรจากความผันผวนของราคาสินค้าโภคภัณฑ์ โดยจากข้อมูลในอดีต ผลตอบแทนจากการลงทุนในลักษณะ Long-Short จะผันผวนต่ำกว่ากองทุนที่มีนโยบายแบบ Long Only
กองทุน LSCom ไม่มีกำหนดอายุกองทุน และจะป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนไม่น้อยกว่า 90% กองทุนจึงมีความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนต่ำ กองทุนมีมูลค่าโครงการ 1,500 ล้านบาท ราคา 10 บาทต่อหน่วย มูลค่าขั้นต่ำของการลงทุน 20,000 บาท ซื้อขายได้สัปดาห์ละ 1 ครั้ง ตลอดทุกสัปดาห์ ดังนั้น การลงทุนในกองทุนนี้ จึงเป็นทางเลือกที่เหมาะสมกับผู้ต้องการกระจายการลงทุนไปยัง asset class อีกประเภทหนึ่ง และสามารถรับความเสี่ยงได้ระดับปานกลางถึงสูง เช่น นักลงทุนประเภทสถาบัน และบุคคลธรรมดาที่มีพื้นฐานความรู้ด้านการลงทุนโดยขณะนี้กองทุนอยู่ระหว่างการพิจารณาจากสำนักงานคณะกรรมการ ก.ล.ต.
โปรดติดตามการจัดสัมมนาครั้งต่อไปแก่บุคคลทั่วไปที่สนใจการลงทุนโดยสามารถติดต่อขอรายละเอียดการสัมมนา หรือ ข้อมูลกองทุนเพิ่มเติมได้ที่ เจ้าหน้าที่ฝ่ายบริการลูกค้า บลจ.นครหลวงไทย จำกัด Call Center
โทร. 0-2624-8555 www.sci-asset.com การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนตัดสินใจลงทุน