เล็งตอกเสาเข็มโรงพยาบาลบางขุนเทียนหลังรับมอบกรรมสิทธิ์จากผู้บริจาคที่ดินอย่างเป็นทางการ

ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะบริหาร กทม. (2 มิ.ย.52) มีมติเห็นชอบการดำเนินโครงการก่อสร้างโรงพยาบาลบาลขุนเทียน เพื่อจัดให้มีโรงพยาบาลพื้นที่กรุงเทพฯ ในย่านทางด้านตะวันตกของกรุงเทพมหานครและบริเวณใกล้เคียง ต่อเนื่องไปยังจังหวัดสมุทรปราการ มีผู้อยู่อาศัยกว่า 3 แสนครัวเรือน รวมประชากรราว 1 ล้านคน แต่ปัจจุบันไม่มีโรงพยาบาลของรัฐอยู่ในบริเวณดังกล่าว และมีศูนย์บริการสาธารณสุขอยู่น้อยมาก เป็นโรงพยาบาลขนาด 200 เตียง เปิดให้บริการทางการแพทย์ทั่วไป และเวชศาสตร์ผู้สูงอายุแบบครบวงจร ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านโรค ครอบคลุมพื้นที่ให้บริการประชาชนเขตบางขุนเทียน บางบอน ทุ่งครุ จอมทอง ราษฎร์บูรณะ อ.พระสมุทรเจดีย์ จ.สมุทรปราการ และ อ.เมือง จ.สมุทรสาคร รวมเป้าหมายให้บริการ 8 แสนราย

โรงพยาบาลบางขุนเทียน จะสร้างขึ้นเป็นพื้นที่ขนาด 34 ไร่ 1 งาน 80 ตารางวา ตั้งอยู่บน ถ.บางขุนเทียน— ชายทะเล เป็นที่ดินบริจาคโดย น.ส.อุไรศรี คะนึงสุขเกษม จำนวน 13 ไร่ 2 งาน 97 ตรว. และที่ดินของนางพรทิพย์ วงศ์ศิริเดช จำนวน 20 ไร่ 2 งาน 83 ตรว. กทม. จะก่อสร้างให้แล้วเสร็จพร้อมเปิดให้บริการในปี 2555 ตามเจตจำนงของผู้บริจาคที่ดิน โดยจะแบ่งการดำเนินการออกเป็น3 ระยะ อย่างไรก็ดีขณะนี้มีผู้ขณะนี้มีผู้ยืนความประสงค์จะบริจาค 100 ล้านบาท เพื่อสร้างอาคารโรงพยาบาล โดยสร้างอาคารรูปแบบตามกฎหมาย และตามที่ กทม. กำหนด ซึ่งจะสามารถดำเนินการในเฟสแรก ใช้เวลาในการศึกษา 6-8 เดือน จากนั้นใช้เวลาก่อสร้างประมาณ 450 วัน จึงจะสามารถเปิดให้บริการได้

ทั้งนี้ ทางสำนักการโยธา ได้สำรวจที่ดินแล้ว ให้ความเห็นเรื่องเทคนิคการก่อสร้าง จะใช้วิธีตอกเสาเข็มฝังจมในดินชั้นปนทราย ลึก 18-24 เมตร อย่างไรก็ดีกทม. จ้างที่ปรึกษาโครงการ เพื่อออกแบบโครงสร้างอาคาร โดยศึกษาวิธีการที่ดีที่สุด เพื่อประโยชน์สูงสุดของประชาชน รวมทั้งจัดเตรียมที่ดินสำหรับก่อสร้างโรงพยาบาล ศึกษาผลกระทบการศึกษาระบบนิเวศน์ เนื่องจากพื้นที่ทั้งกล่าวอยู่ในโซนสีเขียว ตาม พ.ร.บ.ผังเมืองรวมกรุงเทพ รวมทั้งจะต้องมีการสำรวจความคิดเห็นประชาชนต่อไป

ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวด้วยว่า ขณะนี้สำนักงานกฎหมายกำลังร่างหนังสือสัญญามอบกรรมสิทธิ์ที่ดิน จากนั้น กทม. จะมีการลงนามในสัญญารับมอบที่ดินจากผู้บริจาคอย่างเป็นทางการในเร็วๆ นี้ พร้อมทั้งจะเตรียมจัดอัตรากำลังบุคลากร แพทย์ พยาบาล เพื่อให้ทันต่อการจะเปิดให้บริการหลังการก่อสร้างเสร็จ ทั้งนี้ ปัจจุบันมีประชากรผู้สูงอายุเกิน 10% และจะทวีเพิ่มขึ้น จึงต้องเตรียมการรับยุคของผู้สูงอายุ ซึ่งเมื่อมีโรงพยาบาลบางขุนเทียนแล้วจะทำให้ไทยเป็นประเทศแรกในฐานะผู้นำด้านการแพทย์เพื่อสูงอายุครบวงจรของภูมิภาคด้วย