สมาคมการแสดงสินค้า (ไทย) พร้อมทั้งสมาชิก 80 บริษัท ยังสานต่อโครงการ Green Management on Exhibition Project ล่าสุดเดินหน้าจัดกิจกรรม “TEA Green Exhibition Education Trip” เข้าศึกษาดูงานด้านการจัดการสิ่งแวดล้อมแบบครบวงจร ที่โรงแรมรอยัล คลิฟ บีช รีสอร์ท และ ศูนย์ประชุมพีช พัทยา หลังได้รับรางวัลสถานประกอบการที่ปฏิบัติตามมาตรการในรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมและมีการจัดการสภาพแวดล้อมดีเด่น จากกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เพื่อเปิดโอกาสให้สมาชิกได้เรียนรู้กระบวนการจัดการสิ่งแวดล้อม พร้อมทั้งนำแนวทางคิดวิธีปฏิบัติไปประยุกต์ใช้กับองค์กรต่อไป
นายพรรธระพี ชินะโชติ นายกสมาคมการแสดงสินค้า (ไทย) หรือ TEA กล่าวว่า “สมาคมได้ให้ความสำคัญกับเรื่องการดูแลสิ่งแวดล้อม โดยได้ประกาศเป็นนโยบายขององค์กรและเหล่าสมาชิก ซึ่งแม้ในสภาวะช่วงวิกฤติเศรษฐกิจโลกช่วงนี้ ที่หลายบริษัทมีการตัดงบประมาณในบางส่วนลง แต่สำหรับสมาคมและสมาชิกแล้วนั้น กลับมีการเพิ่มงบประมาณ เพราะเรามองเห็นว่าเรื่องสิ่งแวดล้อมเป็นเรื่องที่ไม่ไกลตัวเรา เป็นเรื่องที่เราต้องทำอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ สมาคมจึงยังคงที่จะเดินหน้าสานต่อโครงการ Green Management on Exhibition Project หลังจากได้รับเกียรติจาก 2 สมาชิกของสมาคม คือศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมอิมแพ็ค เมืองทองธานี และศูนย์แสดงนิทรรศการและการประชุมไบเทค บางนา ให้การสนับสนุน ขณะเดียวกัน ศูนย์ประชุมพีช พัทยา และศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ เป็นอีกสองบริษัทสมาชิกของสมาคม ที่ได้การดำเนินงานและมีแนวคิดเรื่องการรักษ์สิ่งแวดล้อมภายในองค์กรและทำอย่างต่อเนื่องมาเป็นเวลาหลายปี”
คุณศรีสกุล ฟูตระกูล ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาธุรกิจ โรงแรมรอยัล คลิฟ บีช รีสอร์ท และ ศูนย์ประชุมพีช พัทยา กล่าวว่า “เราให้ความสำคัญในเรื่องของคุณภาพชีวิตที่ดีของพนักงาน การสร้างจิตสำนึกทางสังคมให้แก่พนักงาน ควบคู่ไปกับการช่วยลดปัญหาของสิ่งแวดล้อม ที่ถือว่าเป็นเรื่องเร่งด่วนมาก โดยเฉพาะเรื่องของขยะที่ล้นหลังจากการเหลือใช้นั้น ซึ่งเรามองว่าในการมีส่วนร่วมในกิจกรรม “TEA Green Exhibition Education Trip” ที่ถือว่าเป็นอีกโครงการที่น่าสนใจ เพื่อเป็นสื่อกลางระหว่างสมาคมกับสมาชิก เราเริ่มทำตั้งแต่ 35 ปีที่ผ่านมา โดยเริ่มจากติดตั้งอุปกรณ์ในโรงบำบัดน้ำเสีย (Water treatment) ซึ่งเรามีนโยบายในการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม อาทิ
- การจัดทำแบบร้องเรียนเรื่องสิ่งแวดล้อม
- การทำอาสาสมัครในการรักษาสิ่งแวดล้อม ซึ่งตอนนี้มีอยู่ร้อยกว่าคน
- การยกเลิกใช้โฟมทุกชนิด แม้แต่การตัดตัวหนังสือ บนฉากหลังการประชุม (Backdrop)
- การให้บริการน้ำดื่มเป็นขวดแก้วแทนขวดพลาสติก
- การปลูกต้นไม้แทนการซื้อดอกไม้ เพื่อมาจัดดอกไม้
- การใช้ต้นไม้ประดับแทนการจัดดอกไม้ประดับตามจุดต่างๆ ของโรงแรม
- การรีไซเคิลสายคล้องคอหรือบัตรเข้างานประชุม
- การแจกข้อมูลการประชุมเป็นไฟล์แทนการใช้กระดาษ
- เก็บน้ำตาลที่เหลือจากการใช้ระหว่างอาหารว่างโดยมีภาชนะเตรียมไว้ เพื่อนำมาทำปุ๋ยชีวภาพ
- เก็บเศษเปลือกผลไม้และผักสำหรับทำปุ๋ยชีวภาพ
- มีจุดรับบริจาคสิ่งของที่เหลือจากงานประชุม เช่น ดินสอ ปากกา กระเป๋าเอกสาร เพื่อมอบให้แก่บ้านเด็กกำพร้า
- การเปลี่ยนจากคูปองอาหารเช้าที่เป็นกระดาษ ซึ่งจากเดิมต้องผลิตปีละหลายล้านใบ มาเป็นบัตรคีย์การ์ดที่มีบาร์โค้ด ซึ่งสามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้
พร้อมกันนี้ มีขั้นตอนและวิธีการในการลดใช้พลังงานได้แก่ ติดตั้งอุปกรณ์จ่ายไฟฟ้าที่มีคุณภาพดี เพื่อใช้ในการช่วยจ่ายพลังงานไฟฟ้า
- การติดตั้งเครื่องปรับอากาศที่ช่วยลดการใช้พลังงานอย่างคุ้มค้า
- การทำบอร์ดรักษาสิ่งแวดล้อมและพลังงาน
- การบันทึก พร้อมทั้งวิเคราะห์การใช้พลังงาน
- การรณรงค์เรื่องเวลาปิด-เปิดไฟฟ้าในห้องของแขกที่มาพักในโรงแรม
- การขอความร่วมมือหรือความสมัครใจ ในการใช้ผ้าปูที่นอน ผ้าเช็ดตัวผืนเดิม แทนการส่งซักทุกวัน เพื่อลดปริมาณในการใช้น้ำได้อีกทาง
- การจัดรถรับ-ส่งให้แก่พนักงาน แบ่งเป็นรอบๆ ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อเป็นการช่วยลดการใช้ปริมาณรถของพนักงาน
- การจัดรถจักรยานให้แขกเพื่อเป็นการลดใช้น้ำมัน
- การใช้รถ LPG แทนการใช้รถที่เติมน้ำมัน
- การรณรงค์ให้มีการดับเครื่องยนต์ ที่ลานจอดรถ
ทั้งหมดนี้ ส่งผลให้เราสามารถประหยัดงบประมาณไปได้ปีละ 4 ล้านบาท ถ้าองค์กรต่างๆ นำไปเป็นแนวทางในการช่วยสิ่งแวดล้อมก็จะช่วยลดภาวะเรือนกระจกได้อย่างแน่นอน
คุณเปรมพร สายแสงจันทร์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ สายงานสื่อสารองค์กร ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ กล่าวเสริมว่า บริษัทฯ มีนโยบายสนับสนุน Green Exhibition Green Venue มาโดยตลอด ในด้านส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน ดังนี้
1. มีแผนลดใช้พลังงานไฟฟ้า โดยจัดทำโครงการรณรงค์การประหยัดไฟฟ้าในอาคาร มีการให้ความรู้ด้านประหยัดพลังงานไฟฟ้ากับพนักงานในบริษัท และจัดทำโครงการควบคุมการใช้พลังงานไฟฟ้า ด้วยการปรับปรุงระบบแสงสว่างและระบบปรับอากาศที่ใช้ในอาคารศูนย์ประชุมฯ ซึ่งช่วยให้สามารถประหยัดพลังงานไฟฟ้าได้มากขึ้น
2. ติดตั้งฟิล์มกรองแสงภายในศูนย์ฯ เพื่อประหยัดพลังงานจากระบบปรับอากาศ
3. ดำเนินการตามแผนการอนุรักษ์น้ำ อาทิ ลดการใช้เคมีในการบำบัดน้ำเสีย โดยเปลี่ยนมาใช้น้ำ จุลินทรีย์ชีวภาพที่ทำเองแทน เรามีการส่งเสริมการอนุรักษ์น้ำ ได้แก่ เลือกใช้อุปกรณ์ที่สามารถประหยัดพลังงานได้ เช่น โถปัสสาวะประหยัด น้ำ, ใช้ก๊อกน้ำที่ช่วยประหยัดน้ำ, ใช้ระบบปรับความดันน้ำที่สามารถประหยัดน้ำได้ เป็นต้น
พร้อมกันนี้เรายังมีนโยบายการจัดซื้อจัดจ้างที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ได้แก่
1. วางแผนโครงการจัดซื้อบรรจุภัณฑ์ที่ทำจากเยื่อกระดาษชานอ้อย โดยผ่านกระบวนการ Elemental Chlorine — Free (ECF) : ไม่มีสารคลอรีนตกค้าง
2. สั่งซื้อวัสดุก่อสร้าง เช่น ท่อประปา, ก๊อกน้ำ ฯลฯ ที่ได้ รับการรับรองคุณภาพด้านสิ่งแวดล้อม เช่น ISO14000
3. การสั่งซื้อ สารเคมี ในส่วนของ CHILLER โดยเป็นสารเคมี ที่ไม่ก่อให้เกิดอันตราย และมีใบ Material Safety Data Sheet (MSDF): ข้อมูลความปลอดภัยของสารเคมี
4. สนับสนุนการสั่งซื้อกระดาษที่ใช้ในสำนักงานประเภท Green read
นอกจากนี้ ศูนย์การประชุมฯ ร่วมมือกับ บริษัท บางจาก ปิโตรเลียม จำกัด จัดตั้งเป็นสถานที่รับบริจาคน้ำมันพืชใช้แล้ว จากร้านค้าในศูนย์การประชุมฯ รวมทั้งจากพนักงานและประชาชนทั่วไป สำหรับการดำเนินงานที่มีต่อ Exhibition โดยตรง ได้แก่
- การตั้งกล่องเพื่อรับคืนบัตรเข้างาน และสายคล้อง คอ รวมทั้งแผ่นพับ แผ่นปลิวโฆษณา
- การแจกจ่ายข้อมูลล่วงหน้าเป็น File หรือทาง E-mail
ศูนย์การประชุมฯ มุ่งหวังในการรณรงค์อนุรักษ์สิ่งแวดล้อมจะเกิดผลได้ ต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกคน
“สมาคมการแสดงสินค้า (ไทย) พร้อมทั้ง 80 สมาชิกของสมาคม คาดหวังว่าโครงการ “Green Management on Exhibition Project” จะเป็นจุดเริ่มต้นสำคัญ ที่จะช่วยผลักดันให้วงการอุตสาหกรรมการประชุมและการแสดงสินค้าในอนาคตข้างหน้า ได้มีทั้งรูปแบบของการจัดงานในแบบฉบับที่จะช่วยกันรักษาสิ่งแวดล้อมให้เป็นปัจจัยหลัก เกิดการปลูกฝังจิตสำนึกที่ดีให้เกิดขึ้นแก่ทุกคน และที่สำคัญจะเป็นการวางรากฐานของอุตสาหกรรมนี้แก่ประเทศไทย ให้ได้รับความเชื่อถือจากกลุ่มลูกค้าต่างประเทศ เป้าหมายเพื่อที่วางใจใช้ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพในการจัดงานประชุมต่างๆ ได้อย่างทันสมัย ลดการสร้างความสูญเสียต่อสภาพแวดล้อม และสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนแก่อุตสาหกรรมนี้ของเราต่อไป” นายกสมาคม กล่าวทิ้งท้าย
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาติดต่อได้ที่
บริษัท พิตอน คอมมิวนิเคชั่น จำกัด
โทรศัพท์ 02 690 5681-4 โทรสาร 02 690 5685
คุณบูรณี จันทรปรรณิก (ต้น) 081 841 3767
คุณจรรยา จ้อยเจริญ (เก๋) 081 995 9945