เปิดเมนูอร่อย ช่วยเกษตรกรไทย “กุ้งทอด ซอสลิ้นจี่” โดยคุณหรีด ในงาน ถูก..สด..สะอาด จากสวน มาตรฐานคาร์ฟูร์

จันทร์ ๑๕ มิถุนายน ๒๐๐๙ ๑๕:๑๑
คาร์ฟูร์ โดย มร.ฟิลิปป์ โบรยานิโก ประธานคณะกรรมการบริหารห้างคาร์ฟูร์ ประเทศไทย เปิดตำรับหนึ่งในเมนูผลไม้แสนอร่อย “กุ้งทอด ซอสลิ้นจี่” ซึ่งได้รับเกียรติจาก คุณหรีด — รพีพรรณ เหลืองอร่ามรัตน์ มาเผยสูตรเด็ดเคล็ดไม่ลับให้ได้ชิมกัน ในพิธีลงนามบันทึกความเข้าใจระหว่างกระทรวงพาณิชย์ กับ ห้างคาร์ฟูร์ ในโครงการ “ถูก..สด..สะอาด จากสวน มาตรฐานคาร์ฟูร์” ที่คาร์ฟูร์อาสาช่วยแก้ปัญหาผลไม้ล้นตลาดและราคาตกต่ำตามฤดูกาล โดยจะรับซื้อผลไม้ไทยตามฤดูกาล จำนวน 4,000 ตัน เพื่อจำหน่ายภายในประเทศและส่งออก โดยมี พรทิวา นาคาศัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธานในพิธี ณ ห้างคาร์ฟูร์ สาขาแจ้งวัฒนะ

ภายในงาน “ถูก..สด..สะอาด จากสวน มาตรฐานคาร์ฟูร์” ถูกตกแต่งด้วยกองคาราวานผลไม้ตามฤดูกาลที่คาร์ฟูร์รับซื้อ อาทิ ลิ้นจี่, เงาะ, มังคุด, ทุเรียน เป็นต้น ซึ่งจัดวางเรียงรายอยู่ในรถสามล้อตุ๊ก..ตุ๊ก พร้อมด้วยเมนูผลไม้ที่เป็นไฮไลท์ของงาน “กุ้งทอด ซอสลิ้นจี่” หรือ Pink Lychee Sauce (พิ้งค์ ไลชี่ ซอส) กุ้งทอดสีเหลืองทอง ที่เสิร์ฟพร้อมซอสลิ้นจี่สีชมพูช็อคกิ้งพิ้งค์ชวนรับประทาน ที่ได้รับเกียรติจาก คุณหรีด — รพีพรรณ เหลืองอร่ามรัตน์ มาเผยสูตรเด็ดนี้ว่า “เมื่อก่อนลิ้นจี่เป็นผลไม้ที่ค่อนข้างมีราคาสูง ด้วยลูกที่โต รสชาติที่หวาน เนื้อกรอบอร่อย แต่เวลานี้กลับมีผลผลิตที่มากจนล้นตลาด จึงต้องมีการนำมาแปรรูปเพื่อเพิ่มความหลากหลาย เช่น นำมาเป็นส่วนหนึ่งของการประกอบอาหาร ที่เลือกจานเด็ดจานนี้เพราะ คนไทยชอบรับประทานอาหารประเภททอด และอาหารประเภทนี้มักจะต้องทานกับน้ำจิ้มบ๊วยกอ เช่น แฮกึ้น หอยจ้อ กรรเชียงปูทอด ซึ่งปัจจุบันน้ำจิ้มบ๊วยกอที่หวานเค็ม แทบจะไม่เห็นเนื้อบ๊วย แต่กลับเป็นน้ำเชื่อมแทน จึงคิดว่าลิ้นจี่น่าจะทำได้ และไม่ยากเกินไป

โดยซอสลิ้นจี่ หรือ พิ้งค์ ไลชี่ ซอส จะเป็นการผสมผสานความหวานที่ได้จากลิ้นจี่ และความเปรี้ยวความฉ่ำจากสับปะรด โดยนำสับปะรด น้ำตาลทราย น้ำส้มสายชู มาปั่นรวมกันให้ละเอียด ซึ่งเคล็ดลับอยู่ที่การปั่น ซึ่งจะต้องปั่นให้ละเอียดมากๆ เพื่อที่จะได้น้ำสับปะรดและเนื้อสับปะรดที่เนียนละเอียด จากนั้นใส่น้ำลิ้นจี่กระป๋องเล็กน้อย เพื่อให้ได้กลิ่นของลิ้นจี่ และหั่นเนื้อลิ้นจี่ให้เป็นสี่เหลี่ยมลูกเต๋า แล้วปั่นอีกครั้งเพียงครู่เดียว จากนั้นต้มน้ำร้อนในหม้อให้เดือด แล้วนำลิ้นจี่ที่เพิ่งปั่นเสร็จใส่หม้ออีกหนึ่งใบ แล้วนำหม้อนั้นไปตั้งในหม้อที่มีน้ำเดือดอยู่แล้วคนไปเรื่อยๆ สาเหตุที่ไม่นำซอสลิ้นจี่ใส่หม้อโดยตรงแล้วตั้งไฟ เพราะน้ำผลไม้เมื่อโดนไฟ

จะทำให้มีรสชาติขม จากนั้นละลายแป้งข้าวเจ้า หรือ แป้งมันฮ่องกง เพียงเล็กน้อย ซึ่งหากเป็นแป้งข้าวเจ้า จะได้น้ำซอสที่ขุ่น แต่สามารถเก็บรับประทานได้นาน และหากต้องการจะรับประทานเลยควรใส่เป็นแป้งมันฮ่องกง เพราะจะได้สีซอสที่ใส เติมสีผสมอาหารสีชมพูเพียงเล็กน้อย จะให้สีสันที่สวยงามยิ่งขึ้น

ส่วนความอร่อยของกุ้งทอดนั้น อยู่ที่การเลือกกุ้งยิ่งเป็นสินค้าวงจรคุณภาพจะเป็นกุ้งที่มีเนื้อแข็ง แล้วล้างโดยเปิดน้ำก๊อกให้ไหลผ่าน แกะเปลือกกุ้งโรยแป้งมันแล้วล้างออก จากนั้นทิ้งให้สะเด็ดน้ำไม่ให้น้ำเกาะ นำกุ้งไปคลุกแป้งขนมปัง ชุบไข่แดง โรยงา แล้วนำไปทอดในน้ำมันที่ร้อนเดือด ยิ่งหากทอดในตะแกรงที่ทอด เฟรนฟรายด์ จะดีมาก เพราะจะได้กุ้งที่กรอบนอกนุ่มใน ซึ่งเป็นเมนูที่ง่ายและไม่ยุ่งยาก

นอกจากนี้ผลไม้ไทยยังมีความโดดเด่นด้วยรสชาติ จึงสามารถมาแปรรูปเป็นเมนูผลไม้อื่นๆ ได้หลากหลายเช่นกัน อย่างมังคุด หรือ ทุเรียน สามารถนำมาทำเป็นยำมังคุดได้ เพราะมังคุดมีรสชาติที่หวานอมเปรี้ยว และยังสามารถทำเป็นมังคุดเชื่อม ทุเรียนเชื่อม ซึ่งจะได้รับความนิยมมากจากชาวต่างชาติในต่างประเทศ หรือนำมาทำเป็นส้มตำทุเรียน ที่จะใช้ทุเรียนที่ยังไม่สุกมาสับแทนเป็นเส้นมะละกอ หรือส้มตำผลไม้รวม หรือจะนำผลไม้รวมต่างๆ มาราดกับน้ำสลัดก็อร่อยไปอีกแบบ และยังมีอีกหนึ่งเมนูของหวาน คือ กรานิต้า (Granita) ที่จะนำผลไม้ที่ฉ่ำน้ำ เช่น แตงโม แคนตาลูป มาปั่นให้เป็นน้ำ จากนั้นนำไปใส่หม้อแล้วนำหม้อนั้นไปตั้งในหม้อที่มีน้ำเดือดอยู่ เติมน้ำตาลทรายเล็กน้อย แล้วคนไปเรื่อยๆ ให้เข้ากัน แล้วนำไปใส่ในช่องแช่แข็งตู้เย็น จนกระทั่งเมื่อเริ่มจะกลายเป็นน้ำแข็ง นำออกมาคนให้แตก และนำกลับเข้าช่องแช่แข็งตู้เย็นอีกครั้ง และเมื่อเริ่มจะกลายเป็นน้ำแข็งอีกครั้ง ให้นำออกมาคนอีกรอบ จากนั้นเข้าช่องแช่แข็งอีกครั้ง เมื่อนำออกมารับประทานจะเหมือนเป็นไอศกรีม ซึ่งในต่างประเทศนิยมมากเช่นกัน นอกจากแตงโม แคนตาลูป ยังมีทับทิม เมลอน ที่สามารถทำเป็นกรานิต้าได้อีก ซึ่งต้องยอมรับว่าประเทศไทยเป็นประเทศที่อุดมสมบูรณ์มากๆ พืชผักผลไม้จึงมีมากมายหลากหลาย และยังสามารถนำมาแปรรูปเป็นเมนูอาหารคาวหวานได้มากมายเช่นกัน และที่สำคัญไม่ทำให้อ้วนด้วยค่ะ”

เห็นมั๊ยค่ะ พวกเราชาวไทยสามารถช่วยเกษตรกรไทย ด้วยการนำผลไม้มาพลิกแพลงขึ้นโต๊ะอาหารจานอร่อยได้เพียบ คนทานอิ่มอร่อย เกษตรกรไทยยิ้มได้

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อ

บริษัท แม็กซิม่า คอนซัลแตนท์ จำกัด

โทร.0-2434-8300 สุจินดา, แสงนภา, ภัควลัญชญ์

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๗:๒๙ ผู้ถือหุ้น READY อนุมัติปันผล อัตรา 0.30 บาทต่อหุ้น ปักธงปี 68 รายได้โต 10% เติบโตตามเทรนด์การตลาดยุคดิจิทัล
๑๗:๐๗ JMART เตรียมเงินพร้อมคืนหุ้นกู้ 1,500 ล้านบาท ตอกย้ำเสถียรภาพการเงินปิดจ๊อบหุ้นกู้ 856.6 ล้านบาท ขอบคุณนักลงทุนที่เชื่อมั่น
๑๗:๓๗ Lorde เซอร์ไพรส์! ส่งเพลงใหม่ในรอบ 4 ปี What Was That พร้อมเอ็มวีแนว Vlog สุดเท่ ซีนยิ่งใหญ่แฟนเพลงรวมตัวกว่า 8,000
๑๗:๐๔ Kenny G คัมแบ็ค!! ชวนแฟน ร่วมดื่มด่ำสุนทรียภาพดนตรีแจซระดับโลกอีกครั้ง ใน Kenny G Live in Bangkok 2025 เปิดแสดง 4 กรกฎาคม
๑๗:๒๓ เปิดประตูสู่อนาคตไอที รำไพพรรณี MOU นครระยองวิทยาคมฯ สร้างบัณฑิตพันธุ์ใหม่
๑๗:๐๘ JGAB 2025 เวทีอัญมณีและเครื่องประดับอาเซียนระดับโลก ดันไทยสู่ศูนย์กลางการค้าและนวัตกรรมเครื่องประดับอย่างยั่งยืน
๑๗:๐๒ อ.อ.ป. ร่วมยินดี อคส. ครบรอบ 70 ปี
๑๗:๓๗ กองทรัสต์อัลไล เดินหน้าขยายพอร์ต เตรียมลงทุน! 2 โครงการใหม่ ทีเท็น บาย วิลเลจ ฮับ และ วิลเลจ ฮับ สายไหม โครงการคอมมูนิตี้มอลล์บนทำเลศักยภาพ
๑๗:๓๕ Bangkok Climate Action Week (BKKCAW) รวมพลังคนกรุง สู้วิกฤตโลกร้อน
๑๗:๓๑ Sherwood Corporation จับมือ Conquest Crop Protection Pty Ltd ขยายช่องทางสู่ตลาดเคมีเกษตรในออสเตรเลีย