สรุปผลการดำเนินงาน คกก.โยธาและผังเมือง สภากทม.

นายประเดิมชัย บุญช่วยเหลือ สมาชิกสภากรุงเทพมหานคร เขตห้วยขวาง ในฐานะประธานคณะกรรมการการโยธาและผังเมือง สภากรุงเทพมหานคร กล่าวว่า คณะกรรมการฯ ได้ติดตามผลการดำเนินงานด้านโยธาและผังเมืองของกรุงเทพมหานครตลอดมา ซึ่งผลการติดตามพบว่า กรณีการร้องเรียนการก่อสร้างอาคารหอพักของวิทยาลัยกรุงเทพธนบุรี เขตทวีวัฒนา ซึ่งมีการขออนุญาตก่อสร้างอาคาร 3 ชั้น 3 หลังเพื่อใช้เป็นหอพักนักศึกษานั้น พบประชาชนร้องเรียนว่าพื้นที่ดังกล่าวถูกกำหนดให้อยู่ในบริเวณการใช้ประโยชน์ที่ดินประเภทชนบทและเกษตรกรรม ไม่สามารถก่อสร้างอาคารขนาดใหญ่ได้ แต่กลับมีการก่อสร้างอาคารดังกล่าวได้ คณะกรรมการฯ จึงได้เชิญสำนักผังเมือง และสำนักการโยธามาชี้แจงรายละเอียดพบว่า พื้นที่ดังกล่าวถูกกำหนดไว้จริง แต่สามารถใช้เพื่อสถาบันราชการ และการสาธารณูปโภคได้ด้วย ซึ่งการก่อสร้างที่เกี่ยวกับการศึกษาถือเป็นกิจการเพื่อสาธารณูปโภค สามารถดำเนินการได้ นอกจากนี้คณะกรรมการมีความเห็นเพิ่มเติมว่า อาคารหอพักนักศึกษามีวัตถุประสงค์เพื่อให้นักศึกษาเข้าพักอาศัย หากมีการเปลี่ยนแปลงให้บุคคลอื่นเข้าไปพักอาศัย หน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรต้องดำเนินการให้เป็นไปตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด ทั้งนี้เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมต่อสังคม

กำชับเจ้าหน้าที่โยธาหมั่นตรวจสอบอาคารป้องกันปัญหาการกระทำผิด

ความคืบหน้าการดำเนินการกรณีอาคารปริญสิริ ซ.พหลโยธิน 37 เขตจตุจักร ซึ่ง บมจ.ปริญสิริ ทำการก่อสร้างโดยไม่ได้รับอนุญาตนั้น ผลการตรวจสอบของคณะกรรมการฯ ร่วมกับสำนักการโยธา และสำนักงานเขตจตุจักร มีความเห็นว่า การดำเนินการตรวจสอบของหน่วยงานกทม.ยังมีความล่าช้า เจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องควรออกไปตรวจสอบการก่อสร้างอาคารอย่างสม่ำเสมอ หากตรวจพบการกระทำผิด ก็สามารถเจ้งให้ผู้ประกอบการแก้ไขทันที หากปล่อยให้มีการกระทำผิดไปจนอาคารก่อสร้างแล้วเสร็จ แล้วมีคำสั่งให้รื้อถอนภายหลัง จะทำให้ผู้ประกอบการได้รับความเสียหายมากไปด้วย

เสนอกทม. เพิ่มบทลงโทษ เพื่อลดจำนวนผู้กระทำผิด

ส่วนการดำเนินการกับรถเคลื่อนที่ติดตั้งป้ายโฆษณา Hello Bangkok ซึ่งมีการจอดในที่สาธารณะเพื่อทำการโฆษณาสินค้า ทำให้เกิดภูมิทัศน์ที่ไม่สวยงาม และป้ายที่ขนาดใหญ่ถือว่าเป็นอาคารหรือไม่นั้น จากการหารือร่วมกับสำนักการโยธา สำนักผังเมือง และสำนักงานกฎหมายและคดี พบว่าป้ายดังกล่าวซึ่งมีขนาดใหญ่ไม่เข้าข่ายเป็นอาคารแต่อย่างใด นอกจากนี้ยังได้หารือร่วมกับกรมการขนส่งทางบก กองบัญชาการตำรวจนครบาล และการไฟฟ้านครหลวง โดยกองบัญชาการตำรวจนครบาลได้สั่งการให้ สน.ท้องที่ ดูแลให้รถดังกล่าวย้ายไปจอดที่อื่นที่ไม่ผิดกฎหมายแล้ว หากไม่ดำเนินการตามที่สั่งก็จะมีคำสั่งให้จับกุมเพื่อดำเนินคดีต่อไป สำหรับการไฟฟ้านครหลวง ซึ่งเดิมผู้ประกอบการได้ขออนุญาตใช้ไฟชั่วคราวเพื่อใช้ในงานเฉลิมพระเกียรติฯ เป็นเวลา 2 เดือน ต่อมาพบว่ามีการใช้ผิดวัตถุประสงค์จึงได้มีหนังสือแจ้งตัดไฟไปยังผู้ประกอบการ ทั้งนี้รถที่ติดตั้งป้ายโฆษณาจะต้องมีหนังสือรับรองจากกรุงเทพมหานครว่ามีความปลอดภัย และจะต้องมีเอกสารรับรองอื่นๆ ครบถ้วนเพื่อประกอบการพิจารณาอนุญาตให้ใช้ไฟ ซึ่งคณะกรรมการฯ เห็นว่ากทม.ควรมีมาตรการบทลงโทษแก่ผู้กระทำผิดที่ชัดเจนมากขึ้น เพื่อให้ผู้ประกอบการที่หวังผลประโยชน์ทางธุรกิจเกิดความเกรงกลัวและ ไม่กล้ากระทำผิด

กำชับ สนย. กำหนดราคากลางด้วยความยุติธรรม

สำหรับปัญหาการดำเนินการประกวดราคาโครงการก่อสร้างทางลอด ถ.ตากสิน กับ ถ.รัชดาภิเษก (อุโมงค์มไหสวรรย์) ซึ่งมี ผู้เสนอราคาต่ำกว่าราคากลาง 0.01 บาท เท่ากันถึง 7 รายนั้น คณะกรรมการฯ ได้เชิญสำนักการโยธาและผู้เกี่ยวข้องมาชี้แจงรายละเอียดพบว่า โครงการดังกล่าวเป็นโครงการที่ได้รับเงินอุดหนุนจากรัฐบาล 100% และมีการยกเลิกการประมูลหลายครั้งจากเหตุผลหลายๆ ประการ ล่าสุดผู้มีสิทธิเสนอทุกรายได้มีหนังสือถึงสำนักการโยธาขอให้ทบทวนราคากลาง เนื่องจากวัสดุก่อสร้างมีราคาสูงขึ้น ทำให้ไม่สามารถดำเนินการได้ แต่สำนักการโยธาพิจารณาแล้วเห็นว่าในช่วงเวลานั้นโครงการอื่นก็สามารถจัดจ้างงานได้ จึงไม่มีเหตุผลที่จะระงับขั้นตอนการเสนอราคาทางอิเล็กทรอนิกส์ ตามที่ผู้มีสิทธิเสนอราคาร้องขอ จนเป็นเหตุให้มีผู้เสนอราคาต่ำเท่ากัน 7 ราย ทำให้ไม่ได้ผู้รับจ้าง เป็นเหตุให้ต้องยกเลิกการประกวดราคา ทั้งนี้สำนักการโยธาได้มีหนังสือหารือไปยังสำนักงานกฎหมายและคดีว่าผู้รับจ้างกระทำการในลักษณะการสมยอมหรือไม่ ซึ่งพบว่าจากข้อเท็จจริงยังไม่มีข้อบ่งชี้ว่าการกระทำดังกล่าวครบองค์ประกอบของความผิดทางอาญาจึงไม่เข้าข่ายในเรื่องของการสมยอม ทั้งนี้คณะกรรมการฯ เห็นว่า กรณีผู้มีสิทธิ์เสนอราคาไม่เห็นด้วยกับราคากลาง เป็นเหตุให้มีการเสนอราคาในลักษณะที่ไม่ต้องการได้งาน ทำให้โครงการไม่สามารถดำเนินการได้ เนื่องจากไม่ได้ผู้รับจ้าง ทำให้รัฐเสียประโยชน์และประชาชนเสียโอกาสนั้น สำนักการโยธาควรพิจารณาราคากลางให้รอบคอบว่ามีความเหมาะสมและเป็นธรรมกับทุกฝ่ายหรือไม่ อย่างไร เพื่อให้โครงการนี้สามารถดำเนินการต่อไปได้