นายทรงพล จำปาพันธุ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี เติมสีสันให้กับผลิตภัณฑ์ผ้าไหมของจังหวัดนครราชสีมา ด้วยการสร้างสรรค์โครงการ “โคราช Thai Silk นวัตกรรมผ้าไหมไทยประยุกต์” งานโรดโชว์ 5 จังหวัด เพื่ออวดโฉมผ้าไหมโคราชแก่ประชาชนชาวไทยทั่วประเทศ และประเดิมจัดงานแห่งแรกเอาใจคนชลบุรี โดยลักษณะการจัดงานครั้งนี้มีทั้งงานนิทรรศการและส่วนการแสดงสินค้า โดยไฮไลท์ของงานนิทรรศการนั้นเป็นการจัดแสดงมหัศจรรย์แห่ง ตำนานผ้าไหมโคราช 7 แบบ 7 ลาย และตื่นตาไปกับนวัตกรรมการสร้างสรรค์ผ้าไหมยืดได้ ผ้าไหมซักเครื่อง ฯลฯ พร้อมยังได้รับความร่วมมือในการจัดจำหน่ายสินค้าจากผ้าไหมของกลุ่มเกษตรกรผ้าไหมโคราชในราคาย่อมเยา และยังมีการเดินแฟชั่น โชว์จากผ้าไหมโดยนักแสดงชื่อดัง เพื่อสร้างความประทับใจให้กับผู้ร่วมชมงาน โดยงานนี้จะจัดแสดง ตั้งแต่วันที่ 27 มิถุนายน - 1 กรกฎาคม 2552 ณ ศูนย์อุตสาหกรรมภาค 9 จังหวัดชลบุรี และกำหนดจัดพิธีปิดโครงการฯ อย่างยิ่งใหญ่อีกครั้ง ณ ห้างสรรพสินค้าเดอะมอลล์โคราช จังหวัดนครราชสีมา ในวันที่ 24 — 28 กรกฎาคม 2552
จากการกำหนดยุทธศาสตร์ในการพัฒนาเศรษฐกิจของจังหวัดนครราชสีมาให้เข้มแข็งเพื่อเป็นศูนย์กลางของธุรกิจในภาคพื้นตะวันออกเฉียงเหนือ จังหวัดนครราชสีมาได้เล็งเห็นถึงศักยภาพของเกษตรกรในการเลี้ยงไหมและอุตสาหกรรมของผ้าไหมโคราชที่มีศักยภาพ และคุณภาพของสินค้าที่เป็นที่ยอมรับของประชาชนทั่วไป จึงได้สร้างสรรค์โครงการ “โคราช ไทยซิลค์ นวัตกรรมผ้าไหมไทยประยุกต์” เพื่อประชาสัมพันธ์ผ้าไหมโคราชให้ประชาชนในหลายๆ จังหวัดได้ทราบถึงตำนาน คุณภาพและได้เห็นถึงนวัตกรรมของผ้าไหมโคราช ที่ไม่ได้สร้างสรรค์มาเพื่อตัดเย็บชุดในรูปแบบเดิมๆ เท่านั้น แต่ยังสามารถนำมาสร้างสรรค์เป็นสินค้าหลายหลายประเภท และงานนี้ยังสร้างสรรค์มาเพื่อให้ผู้ประกอบการ ชาวบ้านทั่วไปในจังหวัดต่างๆ ได้เล็งเห็นถึงศักยภาพในการนำสินค้าจากผ้าไหมโคราช ไปจำหน่ายเพื่อสร้างรายได้ให้กับตนเองอีกด้วย โดยโครงการนี้ เราไม่เพียงแต่จัดงานแสดงนิทรรศการผ้าไหมและขายสินค้าเท่านั้น แต่ยังถือเป็นเวทีเจรจาการค้าสำหรับผู้ประกอบการในจังหวัดต่างๆ โดยคาดว่าโครงการนี้ จะสามารถกระตุ้นเศรษฐกิจในระดับท้องถิ่นและภูมิภาคได้ นายประจักษ์ สุวรรณภักดี ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา กล่าว
การจัดแสดงงาน “โคราช ไทยซิลค์ นวัตกรรมผ้าไหมไทยประยุกต์” ได้ถูกสร้างสรรค์มาเพื่อกลุ่มเป้าหมายหลัก 2 กลุ่มคือ ประชาชนทั่วไป และกลุ่มนักธุรกิจ นักลงทุนท้องถิ่น ดังนั้นรูปแบบของงานจึงมี 2 ลักษณะคือ การจัดงานแสดงนิทรรศการผนวกกับการขายสินค้า และกิจกรรมการเจรจาการค้า โดยกิจกรรมการเจรจาการค้านั้นได้ถูกกำหนดจัดขึ้นใน 3 จังหวัด คือ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ นครศรีธรรมราชและสงขลา โดยกิจกรรมการเจรจาทางการค้านี้ มุ่งหวังเพื่อขยายตลาดผ้าไหมโคราชสู่ภูมิภาคอื่นๆ ตลอดจนเพื่อขยายโอกาสทางการค้าให้กับนักธุรกิจในจังหวัดนั้นๆ พร้อมยังเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจ ในระดับท้องถิ่นและมุ่งหวังว่าจะเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยให้เศรษฐกิจของประเทศไทยผ่านพ้นวิกฤติเศรษฐกิจตกต่ำของโลกได้
สำหรับงานนิทรรศการและการจัดแสดงสินค้าจากผ้าไหมนั้น ถูกกำหนดจัด 2 ครั้งคือ พิธีเปิดโครงการ ณ จังหวัดชลบุรี และ พิธีปิดโครงการ ณ จังหวัดนครรราชสีมา โดยภาพรวมของการจัดงานทั้งสองแห่งนี้ จะประกอบไปด้วย
1. การจัดแสดงนิทรรศการตำนานผ้าไหม โคราช 7 ลาย
2. การออกร้านเพื่อจำหน่ายผ้าไหมของเกษตรกรผู้เลี้ยงไหมในจังหวัดนครราชสีมา
3. การแสดงแฟชั่นโชว์ผ้าไหมโคราช
การจัดแสดงผ้าไหมโคราช 7 ลายนั้น ประกอบไปด้วย
1, ผ้าไหมมัดหมี่ข้อหรือที่ชาวบ้านเรียกว่า ซิ่นคั่น เป็นการทอมัดหมี่ลายเล็กๆ สลับกับไหมสี นิยมใช้ในหมู่ผู้หญิง
2. ผ้าไหมมัดหมี่ คือ การทำผ้าไหมให้เป็นลายและสีต่างๆ ตามแบบหรือลายที่ได้ออกแบบไว้ ซึ่งปัจจุบันมีทั้งแบบลายที่เป็น
แบบลายโบราณและแบบที่เป็นลายประยุกต์
3. โสร่งหางกระรอก เป็นผ้าไหมลายพื้นเมืองที่ทอกันมานานตั้งแต่สมัยโบราณ การทอมีขั้นตอนที่ซับซ้อนและเป็นเอกลักษณ์
เฉพาะตัว ทอด้วยไหมเส้นเล็กเนื้อละเอียด ทำให้เนื้อผ้าดูเรียบหรูและเป็นเงา อีกทั้งเนื้อผ้าโปร่งเบาจึงระบายอากาศได้ดี
4. ผ้าไหมหางกระรอก เป็นผ้าไหมทอมือ จากการย้อมและทอด้วยเส้นไหมลายเส้นควบกัน สอดผสานลายเส้นสาย
ทำให้ได้ผ้าไหมที่มีความหนาและมีลวดลายชัดเจนสวยงาม โดยผ้าไหมหางกระรอกเป็นผ้าไหมพื้นเมืองของปักธงชัย
5. ผ้าไหมลายลูกแก้วมีลักษณะการทอแบบยกดอก ลักษณะสำคัญอีกอย่างของผ้าลายลูกแก้ว นอกจากความหรูหรา
และเป็นเอกลักษณ์แล้ว คือยังสามารถรีดให้เรียบได้ง่ายกว่าผ้าไหมเนื้อเรียบทั่วไป
6. ผ้าไหมพื้นเรียบผ้าไหมสีพื้นเนื้อเรียบมีลักษณะเงางาม เนื่องจากทอด้วยไหมเส้นเล็ก เนื้อเนียนละเอียด เหมาะสำหรับ
ตัดชุดลำลองที่ต้องการความเบาสบาย
7. ผ้าไหมลายประยุกต์ การจัดแสดงนี้เป็นการรวมความคิดสร้างสรรค์ของการออกแบบลายผ้าไหมให้เหมาะสมกับตลาด
เป้าหมาย มีความทันสมัยเป็นที่นิยมในปัจจุบัน ตลอดจนในปีนีคณะจัดทำงานยังมีโครงการประกวดออกแบบลายผ้าไหม
เอกลักษณ์แห่งจังหวัดโคราช ซึ่งเป็นประหนึ่งไฮไลท์ของการจัดงาน โดยรายละเอียดของการประกวดนั้นอยู่ในส่วนเอกสารราย
ละเอียดการรับสมัครและหลักเกณฑ์การตัดสิน
ในงานนี้ยังได้รับความร่วมมือจากกลุ่มเกษตรกรไหม จังหวัดนครราชสีมา กว่า 40 ร้าน มาร่วมออกงานจำหน่ายสินค้าหลากหลายชนิด อาทิ ผ้าไหมชิ้น เสื้อผ้าไหม รองเท้าผ้าไหม กระเป๋า หมอนผ้าไหม ผ้านวมใยไหม ฯลฯ โดยสินค้าทุกประเภทเป็นสินค้าจากผ้าไหมแท้คุณภาพดี ในราคาที่ย่อมเยา โดยนอกจากนี้ ยังมีการเดินแฟชั่นโชว์ผ้าไหมจากนางแบบ ที่กำหนดแสดงวันละ 2 รอบ ในเวลา 16.00 น. และ 18.00 น. โดยในวันเปิดงานได้รับเกียรติจากดาราชื่อดัง “เอ๊ะ อิศริยา สายสนั่น” มาเดินแฟชั่นโชว์ในชุด “ฟินนาเล่” โดยผ้าไหมที่กำหนดแสดงในแฟชั่นโชว์ครั้งนี้ เป็นการแสดงผ้าไหมลายต่างๆ ที่ถ่ายทอดผ่านการตัดเย็บในรูปแบบอันหลากหลาย แสดงออกถึงผ้าไหมที่สามารถใช้ได้กับคนทุกกลุ่ม ทุกรสนิยม เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้สวมใส่ได้อย่างดีเยี่ยม
สำหรับการจัดงานครั้งนี้ คาดว่าจะมีผู้เข้าชมตลอด 5 วันเป็นจำนวนมาก โดยผู้สนใจชมงาน “โคราช ไทยซิลค์ นวัตกรรมผ้าไหมไทยประยุกต์” สามารถเข้าชมได้ ตั้งแต่ วันที่ 27 มิถุนายน - 1 กรกฎาคม 2552 เวลา 10.00 น. — 20.00 น. ศูนย์อุตสาหกรรมภาค 9 อำเภอเมือง จังหวัดชลบุรี ใกล้กับห้างเซ็ลทรัล ชลบุรี
รายละเอียดสถานที่จัดงาน
1. การแสดงนิทรรศการนวัตกรรมจากผ้าไหมและการแสดงสินค้า (พิธีเปิด) วันที่ 27 มิถุนายน - 1 กรกฎาคม 2552
ศูนย์อุตสาหกรรม ภาค 9 อำเภอเมือง จังหวัดชลบุรี (09.00 น. — 20.00 น. ทุกวัน)
2. การพบปะนักลงทุนและการเจรจาทางการค้าเพื่อพัฒนาการค้าอุตสาหกรรมผ้าไหม วันที่ 7 กรกฏาคม 2552
ห้องหัวหินบอลรูม โรงแรมหัวหินแกรนด์ แอนด์ พลาซ่า อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ (10.00 — 16.30 น.)
3. การพบปะนักลงทุนและการเจรจาทางการค้าเพื่อพัฒนาการค้าอุตสาหกรรมผ้าไหม วันที่ 8 กรกฏาคม 2552
โรงแรมทักษิณ อำเภอเมือง จังหวัดนครศรีธรรมราช (10.00 — 16.30 น.)
4. การพบปะนักลงทุนและการเจรจาทางการค้าเพื่อพัฒนาการค้าอุตสาหกรรมผ้าไหม วันที่ 11 กรกฎาคม 2552
ห้องมโนรา โรงแรมหาดใหญ่เซ็นทรัล อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา (11.00 — 15.30 น.)
5. การแสดงนิทรรศการนวัตกรรมจากผ้าไหมและการแสดงสินค้า (พิธีปิด) วันที่ 24 กรกฎาคม - 28 กรกฎาคม 2552
ห้างสรรพสินค้า เดอะมอลล์โคราช จังหวัดนครราชสีมา (09.00 น. — 20.00 น. ทุกวัน)