การจัดอันดับสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ฉบับที่ 12 ของกรีนพีซ: บริษัทผู้ผลิตกลับคำเรื่องการลดใช้สารพิษในผลิตภัณฑ์

ศุกร์ ๐๓ กรกฎาคม ๒๐๐๙ ๐๙:๐๗
ฮิวเล็ตต์-แพคการ์ด เดล และเลอโนโว ถูกลดคะแนนเนื่องจากไม่ทำตามข้อตกลงที่จะลดสารพิษอันตรายในผลิตภัณฑ์

คู่มือการจัดสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ฉบับล่าสุดของกรีนพีซ (1) ระบุสามบริษัทยักษ์ใหญ่ผู้ผลิตคอมพิวเตอร์ ได้แก่ ฮิวเล็ตต์-แพคการ์ด เดล และเลอโนโว ยังคงไม่สามารถเพิ่มคะแนนจากการจัดอันดับครั้งก่อน เนื่องจากผู้ผลิตคอมพิวเตอร์ทั้ง 3 รายนี้ไม่ปฏิบัติตามคำมั่นอย่างแท้จริงที่เคยให้ไว้ว่าจะทำให้ผลิตภัณฑ์ของตนปราศจากพลาสติกพีวีซี (PVC) และสารหน่วงไฟประเภทโบรมีน (Brominated Flame Retardants-BFRs) ให้ได้ภายในปีนี้ (2)

เอชพี ได้รับเสียงเตือนจากภาคประชาชนให้ลดการใช้สารพิษในผลิตภัณฑ์ โดยนักกิจกรรมของกรีนพีซได้ส่งซากคอมพิวเตอร์โน๊ตบุคที่มีสารเคมีอันตรายเป็นส่วนประกอบ ไปยังสำนักงานใหญ่ของบริษัทเอชพีที่ประเทศจีนวันที่ 24 มิถุนายนที่ผ่านมา และเมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม นักกิจกรรมกรีนพีซได้นำรูปภาพปัญหามลพิษในเอเชียและแอฟริกาที่เกิดจากสารพิษจากซากผลิตภัณฑ์อิเล็กทรอนิกส์เมื่อนำไปทิ้ง รีไซเคิล หรือกำจัดทำลาย ไปจัดแสดงหน้าสำนักงานใหญ่ของเอชพีที่ประเทศเนเธอร์แลนด์ ทั้งนี้ กรีนพีซจะจับตามองและพยายามกดดันเอชพีต่อไป รวมถึงผู้ผลิตสินค้าอิเล็กทรอนิกส์รายอื่นๆให้ปฏิบัติตามคำมั่นในการลดสารพิษในผลิตภัณฑ์ของตนให้ได้มากที่สุด

“กรีนพีซให้ความสำคัญกับการให้คำมั่นของผู้ผลิตแต่ละราย และถือว่าแต่ละบริษัทควรแสดงความรับผิดชอบต่อคำมั่นสัญญานั้น โดยที่ไม่กลับคำ หรืออ้างเหตุผลว่าไม่สามารถยกเลิกการใช้สารเคมีอันตรายอย่างพีวีซี และสารหน่วงไฟประเภทโบรมีน (BFRs) ในคอมพิวเตอร์ได้ในขณะนี้” นายทอม ดาวแดล ผู้ประสานงานรณรงค์ด้านสารพิษ กรีนพีซสากลกล่าว

เอชพีถูกจัดอยู่ในอันดับที่ 14 ซึ่งถอยห่างแบรนด์คอมพิวเตอร์อื่นๆ ที่พัฒนาไปไกล เนื่องจากเอชพีได้ผิดคำมั่นที่จะยุติการใช้สารพีวีซีและสารหน่วงไฟประเภทโบรมีน (BFRs) ในผลิตภัณฑ์ประเภทคอมพิวเตอร์ (ยกเว้นผลิตภัณฑ์จำพวกเซอร์เวอร์และปริ้นท์เตอร์) โดยเลื่อนจากปี 2552 ไปเป็นปี 2554 แม้แต่ปัจจุบันเอชพียังไม่มีผลิตภัณฑ์ที่ลดปริมาณการใช้สารเคมีอันตรายเหล่านี้ในท้องตลาด (3)

แอลจีอี โตชิบา และโมโตโรล่า ขยับขึ้นมาอยู่ในอันดับที่ 4, 5 และ 6 ตามลำดับ โซนี ตกจากอันดับที่ 5 เป็นอันดับที่ 12 เนื่องจากยังล้าหลังบริษัทอื่นๆในเรื่องการรีไซเคิลขยะอิเล็กทรอนิกส์ เลอโนโวยังคงรั้งท้ายเนื่องจากยังไม่มีคำมั่นสัญญาที่แน่นอนในการยุติการสารเคมีอันตรายอย่างถาวรในทุกผลิตภัณฑ์

ผลิตภัณฑ์คอมพิวเตอร์ของแอปเปิ้ลที่เพิ่งออกมาล่าสุดก็ปราศจากพีวีซีและสารหน่วงไฟประเภทโบรมีน (BFRs) แล้ว ซึ่งแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าการยุติการใช้สารเคมีอันตรายประเภทดังกล่าวมีความเป็นไปได้และมีทางเลือกอื่นๆ ที่จะทำได้ (4) เช่นเดียวกันกับ เดล เลอโนโว และเอเซอร์ ได้นำหน้าเอชพีในการมีผลิตภัณฑ์บางรุ่นที่ปราศจากหรือใช้พีวีซีและสารหน่วงไฟประเภทโบรมีนในปริมาณน้อยขายในท้องตลาด นอกจากนี้ เดลยังได้แข่งกับแอปเปิ้ลในการประกาศว่าตนเป็นผู้ผลิตผลิตภัณฑ์คอมพิวเตอร์โน๊ตบุคที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากที่สุดในขณะนี้ (5)

“เป็นเรื่องน่าขันที่บางผู้ผลิต เช่น เดล ยังคงหมกมุ่นอยู่กับการโฆษณาสู้กับแอปเปิ้ล ขณะที่แอปเปิ้ลได้เน้นพัฒนาการลดใช้สารเคมีอันตรายในผลิตภัณฑ์คอมพิวเตอร์อย่างจริงจัง ทั้งนี้ ผู้ผลิตรายอื่นๆควรทุ่มเทไปยังการพัฒนาผลิตภัณฑ์ของตนให้แซงหน้าแอปเปิ้ลในประเด็นด้านการลดใช้สารเคมีอันตรายมากกว่าเน้นการโฆษณา” นายดาวแดลกล่าว

กรีนพีซเรียกร้องให้บริษัทผู้ผลิตสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ลดปริมาณการใช้สารหน่วงไฟประเภทโบรมีน (BFRs) และพีวีซีในทุกผลิตภัณฑ์ เนื่องจากสารเคมีดังกล่าวเป็นสารพิษซึ่งจะส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมตลอดวงจรชีวิตของผลิตภัณฑ์ ตั้งแต่กระบวนการผลิตไปจนถึงการกำจัดทำลาย การยุติการใช้สารเคมีอันตรายจะทำให้สามารถรีไซเคิลผลิตภัณฑ์ได้อย่างปลอดภัย

หมายเหตุ

1. การจัดอันดับสินค้าอิเล็กทรอนิกส์สีเขียวฉบับที่ 12 สามารถศึกษาได้ที่http://www.greenpeace.org/seasia/th/press/reports

2. พีวีซี (PVC) สามารถปนเปื้อนในสิ่งแวดล้อมและส่งผลกระทบในระดับสูงต่อสิ่งมีชีวิต การปนเปื้อนสามารถเกิดขึ้นได้ในทุกวงจรชีวิตของผลิตภัณฑ์ ตั้งแต่กระบวนการผลิต การใช้ผลิตภัณฑ์ ไปจนถึงการกำจัด ซึ่งเมื่อพีวีซีโดนความร้อน จะเปลี่ยนรูปเป็นไดออกซิน (Dioxin) ซึ่งเป็นสารก่อมะเร็งที่รุนแรงที่สุด สารหน่วงไฟประเภทโบรมีน (BFRs) ไม่สามารถย่อยสลายได้ตามธรรมชาติและสะสมในสิ่งแวดล้อมรวมถึงสิ่งมีชีวิตอย่างสัตว์และมนุษย์ และสามารถกระจายออกจากผลิตภัณฑ์ได้ในระหว่างการใช้งาน ส่งผลให้ตกค้างอยู่ในฝุ่นละอองทั่วไป ซึ่งมีผลต่อสุขภาพของมนุษย์ หลังจากการเพิ่มขึ้นของขยะอิเล็กทรอนิกส์ในช่วงสิบปีที่ผ่านมา พบว่ามีคนงานที่เกี่ยวข้องในกระบวนการกำจัดทำลายหรือรีไซเคิลต้องประสบปัญหาด้านสุขภาพเพิ่มมากขึ้น ดังนั้นการยุติการใช้สารพิษอันตราย จึงเป็นทางออกของปัญหาที่ต้นเหตุ นอกจากนี้ยังทำให้การรีไซเคิลสามารถทำได้อย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพมากขึ้น

http://www.greenpeace.org/international/campaigns/toxics/electronics/what-s-in-electronic-devices/bfr-pvc-toxic

3. http://www.hp.com/hpinfo/globalcitizenship/environment/productdesign/materialuse.html

“เนื่องจากยังมีทางเลือกที่สามารถทำได้ ซึ่งไม่ส่งผลกระทบต่อประสิทธิภาพหรือคุณภาพของผลิตภัณฑ์ และไม่ส่งผลต่อสุขภาพและสิ่งแวดล้อม เราจึงจะยุติการใช้สารหน่วงไฟประเภทโบรมีน(BFRs) และพีวีซี ในผลิตภัณฑ์คอมพิวเตอร์ภายในปี 2554”

4. http://www.apple.com/environment/

5. http://greeninc.blogs.nytimes.com/2009/06/19/dell-calls-green-macbook-ads-misleading/

ข้อมูลเพิ่มเติมติดต่อ

ทอม ดาวแดล ผู้ประสานงานรณรงค์ด้านสารพิษ กรีนพีซสากล โทร +31 (0) 6212 96892

พลาย ภิรมย์ ผู้ประสานงานรณรงค์ด้านสารพิษ กรีนพีซ เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โทร 081-658-9432

วิริยา กิ่งวัชระพงศ์ ผู้ประสานงานสื่อมวลชน โทร 089-487-0678

www.greenpeace.or.th

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๗:๒๓ เริ่มแล้ว MONEY EXPO 2024 เชียงใหม่ ระดมแคมเปญแรง ส่งตรงถึงลูกค้าภาคเหนือ กู้บ้าน 0% 3 เดือน - เงินฝาก Step Up ดอกเบี้ย
๑๗:๓๒ ถอดรหัสความสำเร็จ JOURNAL พลิกเกมน้ำหอมไทย ปั้นแบรนด์ทะลุร้อยล้านภายใน 7 ปี โดย ฟ้า-ธนัญญา สุธีรชัย
๑๗:๕๓ กทม. บูรณาการความร่วมมือเตรียมพร้อมมาตรการดูแลความปลอดภัยเทศกาลลอยกระทง ปี 67
๑๗:๔๑ เรียนรู้จากเวทีจริง! เด็กสื่อสารการแสดง SPU สัมผัสการทำงานละครเวทีผ่าน ฟ้าจรดทราย เดอะมิวสิคัล
๑๖:๓๑ วว. จัดกิจกรรม โครงการปลูกต้นไม้ เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม
๑๖:๒๒ Awakening Bangkok 2024 กลับมาปลุกไฟย่าน เติมไฟคน ฉายแสงให้เขตพระนครสว่างไสวด้วยไฟสร้างสรรค์ 8-17 พฤศจิกายน
๑๖:๒๔ ไทเชฟ แนะนำ ผงปรุงรสคั่วกลิ้ง ต้อนรับวันลอยกระทง
๑๖:๔๖ ประเสริฐ สั่งเร่งขยายผลแอปพลิเคชัน Smart PDPA มั่นใจลดปัญหาข้อมูลรั่วไหล
๑๖:๔๓ อิมแพ็ค เมืองทองธานี คว้ารางวัล 2024 Thailand Headlines Person Of the Year Award สาขา Socioeconomics Award
๑๖:๔๒ กรมวิชาการเกษตร ผนึก จังหวัดจันทบุรี จัดประชุมผู้ประกอบการวางแผนเชิงรุก เตรียมความพร้อมฤดูกาลส่งออกลำไยภาคตะวันออกไปจีน