กทม.จับมือไมโครซอฟท์พัฒนาศักยภาพการศึกษาให้นักเรียนสังกัดกทม.

พฤหัส ๑๖ กรกฎาคม ๒๐๐๙ ๑๕:๑๑
กรุงเทพมหานครร่วมกับไมโครซอฟท์กระจายการเรียนรู้สู่นักเรียนในโครงการด้านการศึกษา “Microsoft Education Alliance” ผ่านโปรแกรม “Microsoft MultiPoint” ซอฟต์แวร์เพื่อการเรียนรู้อย่างเท่าเทียม และโปรแกรม “Microsoft Accessibility” ช่วยลดช่องว่างการเรียนรู้สำหรับนักเรียนพิการ เพื่อพัฒนาศักยภาพด้านการศึกษาใน 435 โรงเรียนทั่วกรุงเทพฯ พร้อมนำร่องเปิดอบรมครูในการใช้สื่อการเรียนรู้ในเดือนกันยายน และเปิดการสอนนักเรียนชั้นประถมได้ในภาคเรียนที่ 2 /2552 นี้

ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ลงนามในบันทึกความร่วมมือในโครงการ “Microsoft Education Alliance” ร่วมกับบริษัท ไมโครซอฟท์ (ประเทศไทย) เพื่อความร่วมมือด้านการศึกษา ขยายโอกาสการเรียนรู้อย่างไม่มีขีดจำกัดสำหรับครูและนักเรียนในโรงเรียนสังกัดกรุงเทพมหานคร 435 แห่ง โดยการนำเทคโนโลยีมาบูรณาการเข้ากับการศึกษา ได้แก่ โปรแกรม “Microsoft MultiPoint” ซอฟต์แวร์มหัศจรรย์เพื่อการเรียนรู้อย่างเท่าเทียม และโปรแกรม “Microsoft Accessibility” ที่ช่วยลดช่องว่างการเรียนรู้สำหรับนักเรียนพิการ ซึ่งจะมีการจัดฝึกอบรมการใช้โปรแกรมต่างๆ ให้กับครูสังกัดกรุงเทพมหานครในระดับประถมศึกษาทั้งหมด 435 โรงเรียน โดยแบ่งเป็น 3 กลุ่ม กลุ่มละ 145 โรงเรียน เริ่มอบรมรอบแรกในวันที่ 10-11 กันยายน 2552 รอบที่ 2 ในวันที่ 15-16 กันยายน และรอบที่ 3 ในวันที่ 17-18 กันยายน 2552 ทั้งนี้ จะเปิดทำการเรียนการสอนให้กับนักเรียนระดับชั้นประถมศึกษากว่า 3 แสนคน รวมถึงนักเรียนพิเศษซึ่งเป็นผู้พิการ จำนวน 1,800 คนของโรงเรียนสังกัดกรุงเทพมหานครได้ในภาคเรียนที่ 2/2552 นี้

ม.ร.ว. สุขุมพันธุ์ กล่าวว่า กรุงเทพมหานครมีความมุ่งมั่นที่จะทำให้กรุงเทพฯ เป็นเมืองแห่งการเรียนรู้ โดยพยายามจัดสรรให้ประชาชนและชุนชนได้มีโอกาสในการเข้าถึงแหล่งความรู้และข้อมูลให้กว้างขวางที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ในส่วนของการศึกษาในระบบนั้น จะเน้นเรื่องของการพัฒนาในทุกๆ ด้านที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นโรงเรียน การจัดระบบการศึกษา การพัฒนาครูและนักเรียน รวมไปถึงการนำสื่อการสอนรูปแบบใหม่มาใช้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการสนับสนุนให้นำเทคโนโลยีสมัยใหม่มาช่วยในเรื่องการเรียนการสอนเพื่อพัฒนาการเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง และสร้างความกระตือรือร้นด้านการศึกษาของครูและนักเรียน ซึ่งในขณะนี้กรุงเทพมหานครได้เดินหน้าจัดซื้อเครื่องคอมพิวเตอร์ จำนวน 20,500 เครื่อง เพื่อนำมาใช้ในการเรียนการสอนของโรงเรียนสังกัดกรุงเทพมหานคร โดยตั้งเป้าให้โรงเรียนสังกัดกรุงเทพมหานครมีคอมพิวเตอร์ใช้อย่างน้อยโรงเรียนละ 41 เครื่อง

ทั้งนี้ บริษัทไมโครซอฟท์ในฐานะที่เป็นผู้นำทางด้านเทคโนโลยีจึงนำความเชี่ยวชาญมาสนับสนุนในโครงการ “Education Alliance” เพื่อร่วมกันพัฒนาศักยภาพทางการศึกษาให้กับครูและนักเรียนในสังกัดกรุงเทพมหานคร โดยความร่วมมือในครั้งนี้จะมีการนำเทคโนโลยีที่น่าสนใจของไมโครซอฟท์มาใช้กับการศึกษา ได้แก่ การนำ Microsoft MultiPoint มาพัฒนาการศึกษาทั้งในและนอกห้องเรียนสำหรับโรงเรียนในสังกัดกรุงเทพมหานครเป็นครั้งแรก โดยนำมาบูรณาการกับการเรียนการสอนใน 8 กลุ่มสาระวิชา อาทิ วิชาคณิตศาสตร์ สังคมศาสตร์ วิทยาศาสตร์ และภาษาอังกฤษ เป็นต้น นอกจากนี้ ยังได้นำหลักสูตร Microsoft Accessibility มาใช้ เพื่อขยายโอกาสการเรียนรู้อย่างเท่าเทียมกันทั้งครู นักเรียนปรกติ และนักเรียนพิเศษในโรงเรียนเรียนร่วมสังกัดกรุงเทพมหานคร ซึ่งที่ผ่านมานักเรียนพิเศษ เช่น นักเรียนที่พิการทางสายตา พิการทางร่างกายอื่นๆ อาจจะไม่ได้รับความเท่าเทียมกันในการเรียนรู้ แต่ปัจจุบันเมื่อเทคโนโลยีมีการพัฒนามากขึ้น การเรียนรู้หรือการฝึกทักษะต่างๆ ก็ควรเป็นไปในแนวทางเดียวกัน เพื่อให้นักเรียนทุกคนได้มีโอกาสเรียนรู้การใช้คอมพิวเตอร์อย่างทั่วถึง

สำหรับการสนับสนุนเทคโนโลยีเพื่อพัฒนาการศึกษาในโครงการความร่วมมือ Microsoft Education Alliance ประกอบด้วยโปรแกรม Microsoft MultiPoint Program ซึ่งพัฒนาโดยแผนกวิจัยของไมโครซอฟท์ ที่มีจุดประสงค์เพื่อขยายโอกาสในการเรียนรู้เทคโนโลยีแก่ผู้ที่มีข้อจำกัด โปรแกรมไมโครซอฟท์มัลติพอยท์ทำให้เครื่องคอมพิวเตอร์หนึ่งเครื่องสามารถรองรับการใช้งานของนักเรียนได้จำนวน 3-50 คนพร้อมๆ กัน โดยนักเรียนแต่ละคนสามารถใช้เมาส์ของตัวเองควบคุมเคอร์เซอร์ที่ออกแบบมาเป็นพิเศษบนหน้าจอและเรียนรู้ไปพร้อมๆ กันทั้งหมด โปรแกรมนี้ไม่เพียงแต่ให้ทางออกสำหรับข้อจำกัดด้านงบประมาณ แต่ยังสร้างประสบการณ์เรียนรู้ที่สร้างสรรค์และเน้นการส่งเสริมให้นักเรียนมีส่วนร่วม และสามารถดึงความสนใจของนักเรียนทุกคนได้โดยไม่จำกัดโอกาสใช้คอมพิวเตอร์อยู่ที่นักเรียนคนใดคนหนึ่งเท่านั้น ส่วน Microsoft ICT Accessibility เป็นหลักสูตรที่แนะนำโปรแกรมสนับสนุนการใช้งานคอมพิวเตอร์สำหรับผู้พิการที่มีปัญหาในการเคลื่อนไหวหรือการมองเห็น โดยจะสนับสนุนการทำงานของผู้พิการซึ่งไม่จำกัดเฉพาะว่าต้องเป็นผู้พิการทางสายตา หรือร่างกายเท่านั้น สำหรับผู้ที่ประสบอุบัติเหตุ บกพร่องทางด้านสายตา หรือแขนหักก็สามารถเรียนรู้ที่จะใช้โปรแกรมนี้ช่วยในการทำงานหรือสื่อสารกับผู้อื่นได้ โดยเปิดโอกาสให้ผู้พิการที่มีปัญหาทางสายตาหรือผู้พิการทางการเคลื่อนไหวได้มีโอกาสใช้คอมพิวเตอร์ในการเรียนรู้ได้อย่างเท่าเทียมกับคนทั่วไป และยังเป็นการลดช่องว่างในการเรียนรู้อีกด้วย

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๒๒ พ.ย. รีเลชั่นชิพรีพับบลิค แนะกลยุทธ์สำคัญ นำพาธุรกิจร้านอาหารสู่ความสำเร็จ มัดใจลูกค้าให้อยู่หมัด
๒๒ พ.ย. ชมนวัตกรรมสุดล้ำในงาน METALEX 2024 หลายแบรนด์แกะกล่องเครื่องจักรครั้งแรกในงานนี้
๒๒ พ.ย. Bangkok Illustration Fair 2024 สู่การเติบโตก้าวใหญ่ในปีที่ 4
๒๒ พ.ย. ผลการจัดอันดับขีดความสามารถในการแข่งขันด้านดิจิทัลโดย IMD ประจำปี 2567 TMA เผยไทยครองอันดับ 37 ในการจัดอันดับด้านดิจิทัลปีนี้
๒๒ พ.ย. โก โฮลเซลล์ จัดเต็มสินค้า ส่งสุข สุดอร่อย เฉลิมฉลองเทศกาลส่งท้ายปี เข้มกระเช้าปีใหม่ดีมีมาตรฐาน พร้อมชู อาหารแช่แข็ง-อาหารสด
๒๒ พ.ย. กทม. จับมือสถานทูตเนเธอร์แลนด์ ประจำประเทศไทย จัดประชุมเชิงปฏิบัติการ ACTIVE Workshop เมืองเดินเท้า และจักรยานสัญจร ครั้งที่
๒๒ พ.ย. สัมผัสความหรูหราของวิลล่าริมทะเล VEYLA NATAI RESIDENCES ผ่านประสบการณ์เหนือระดับในงาน SOUL of VEYLA
๒๒ พ.ย. 'แอสเซทไวส์' จับมือ 'สยามกีฬา' เปิดศึกลูกหนังยุวชนทัวร์นาเมนต์ใหญ่แห่งปี AssetWise Siamkeela Cup 2024-25 ต่อเนื่องเป็นปีที่
๒๒ พ.ย. โรงแรมเรเนซองส์ เปิดตัว R FINDS แพลตฟอร์มดิจิทัลระดับโลก ที่จะเชื่อมมนต์เสน่ห์ชุมชนท้องถิ่นสู่นักเดินทางทั่วโลก
๒๒ พ.ย. electric.neon.lamp หยิบเพลงฮิต แม้ ใส่ฟีลดนตรีเหงาปนเศร้าในแบบ Piano Version