กทท. เดินหน้าสู่ท่าเรืออิเล็กทรอนิกส์เต็มรูปแบบ

พฤหัส ๑๖ กรกฎาคม ๒๐๐๙ ๑๖:๒๒
นางสุนิดา สกุลรัตนะ กรรมการ การท่าเรือฯ รักษาการแทนผู้อำนวยการการท่าเรือแห่งประเทศไทย (กทท.) เปิดเผยถึงความคืบหน้าของการพัฒนาท่าเรือกรุงเทพ (ทกท.) และท่าเรือแหลมฉบัง (ทลฉ.) สู่การเป็นท่าเรืออิเล็กทรอนิกส์ว่า กทท. ได้เร่งพัฒนาศักยภาพท่าเรือสู่ระบบ e-Port เพื่อก้าวสู่ความเป็นท่าเรือที่ทันสมัยมีมาตรฐานระดับโลกโดยพัฒนาระบบบริหารจัดการและการบริการ ซึ่งจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการบริการเรือสินค้าและตู้สินค้าให้มีความทันสมัย สะดวก รวดเร็ว ปลอดภัย และลดต้นทุนค่าใช้จ่ายของผู้ประกอบการ ซึ่งในขณะนี้โครงการ e—Port ได้มีความคืบหน้าทั้งในส่วนของการติดตั้งระบบควบคุมการผ่านเข้าออกประตูตรวจสอบอัตโนมัติหรือ e-Gate ที่ ทกท. และระบบจัดเก็บค่ายานพาหนะผ่านท่า e-Toll ที่ ทลฉ. เพื่อเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพด้านการบริการของท่าเรือและอำนวยความสะดวกแก่ผู้ใช้บริการ พร้อมเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยของยานพาหนะและบุคคลที่ผ่านเข้าออกท่าเรือ รวมทั้งการติดตั้งระบบการให้บริการท่าเทียบเรือตู้สินค้า (CTMS) ที่ ทกท. ซึ่งจะทำให้การบริหารจัดการตู้สินค้าผ่านเข้า - ออกท่าเรือเป็นไปตามมาตรฐานสากลก็มีความคืบหน้ามาก คาดว่าระบบต่างๆ ดังกล่าวจะเสร็จสมบูรณ์พร้อมใช้งานภายในปลายปี 2552 นี้

นอกจากนี้ กทท. ยังมีโครงการพัฒนาศูนย์การขนส่งตู้สินค้าทางรถไฟที่ ทลฉ. ซึ่งเป็นโครงการระยะยาว สนับสนุนการพัฒนาระบบโลจิสติกส์ของประเทศ ซึ่งจะเพิ่มขีดความสามารถรองรับตู้สินค้าที่ขนส่งทางรถไฟได้ถึงปีละ 2.0 ล้านทีอียู ตลอดจน กทท. ยังเพิ่มระบบรักษาความปลอดภัยด้วยระบบกล้องโทรทัศน์วงจรปิด (CCTV) ทั้งที่ ทลฉ. และ ทกท. จำนวน 72 กล้อง และจำนวน 30 กล้อง ตามลำดับ ซึ่งเป็นเทคโนโลยีใหม่และเป็นลักษณะพิเศษเฉพาะและ ทกท. ยังได้รับเลือกจากเยอรมันให้เป็นท่าเรือสาธิตในโครงการความปลอดภัย อาชีวอนามัยและสิ่งแวดล้อมของท่าเรือในภูมิภาคอาเซียนอีกด้วย

สำหรับผลการดำเนินงานให้บริการเรือ สินค้าและตู้สินค้าผ่าน ทกท. และ ทลฉ. นั้น รักษาการแทนผู้อำนวยการ กทท. กล่าวว่า

ในช่วง 8 เดือน ของปีงบประมาณ 2552 (ต.ค. 51 — พ.ค.. 52) โดยเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน มีผลดำเนินงาน กล่าวคือ

ทกท. มีเรือผ่านท่า จำนวน 1,702 เที่ยว ลดลง 13% สินค้าผ่านท่า 9.951 ล้านตัน ลดลง 18% และตู้สินค้าผ่านท่า (รวมตู้เปล่า) จำนวน 0.841 ล้านทีอียู ลดลง 16%

ทลฉ. มีเรือผ่านท่า จำนวน 4,948 เที่ยว ลดลง 9% สินค้าผ่านท่า 30.229 ล้านตัน ลดลง 16% และตู้สินค้าผ่านท่า จำนวน 2.962 ล้านทีอียู ลดลง 15% ทั้งนี้คาดว่าปริมาณสินค้าผ่านท่าจนถึงปลายปีนี้จะมีแนวโน้มที่ดีขึ้นหากไม่มีปัจจัยอื่นๆ มากระทบ โดยเฉพาะ ทลฉ. ที่กำลังจะรับเรือตู้สินค้าที่ใหญ่ที่สุดในโลกเข้าเทียบท่าเป็นการประจำ เนื่องจากการที่มีเรือแม่ขนาดใหญ่ระดับโลกเข้าเทียบท่าเรือในประเทศไทยเป็นการแสดงให้เห็นถึงความเชื่อมั่นของผู้ประกอบการเดินเรือต่อการฟื้นฟูเศรษฐกิจประเทศไทยและศักยภาพของ ทลฉ. อันจะส่งผลดีต่อการฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศ และการพัฒนา ทลฉ. ระยะ 3 ต่อไป

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๒๒ พ.ย. รีเลชั่นชิพรีพับบลิค แนะกลยุทธ์สำคัญ นำพาธุรกิจร้านอาหารสู่ความสำเร็จ มัดใจลูกค้าให้อยู่หมัด
๒๒ พ.ย. ชมนวัตกรรมสุดล้ำในงาน METALEX 2024 หลายแบรนด์แกะกล่องเครื่องจักรครั้งแรกในงานนี้
๒๒ พ.ย. Bangkok Illustration Fair 2024 สู่การเติบโตก้าวใหญ่ในปีที่ 4
๒๒ พ.ย. ผลการจัดอันดับขีดความสามารถในการแข่งขันด้านดิจิทัลโดย IMD ประจำปี 2567 TMA เผยไทยครองอันดับ 37 ในการจัดอันดับด้านดิจิทัลปีนี้
๒๒ พ.ย. โก โฮลเซลล์ จัดเต็มสินค้า ส่งสุข สุดอร่อย เฉลิมฉลองเทศกาลส่งท้ายปี เข้มกระเช้าปีใหม่ดีมีมาตรฐาน พร้อมชู อาหารแช่แข็ง-อาหารสด
๒๒ พ.ย. กทม. จับมือสถานทูตเนเธอร์แลนด์ ประจำประเทศไทย จัดประชุมเชิงปฏิบัติการ ACTIVE Workshop เมืองเดินเท้า และจักรยานสัญจร ครั้งที่
๒๒ พ.ย. สัมผัสความหรูหราของวิลล่าริมทะเล VEYLA NATAI RESIDENCES ผ่านประสบการณ์เหนือระดับในงาน SOUL of VEYLA
๒๒ พ.ย. 'แอสเซทไวส์' จับมือ 'สยามกีฬา' เปิดศึกลูกหนังยุวชนทัวร์นาเมนต์ใหญ่แห่งปี AssetWise Siamkeela Cup 2024-25 ต่อเนื่องเป็นปีที่
๒๒ พ.ย. โรงแรมเรเนซองส์ เปิดตัว R FINDS แพลตฟอร์มดิจิทัลระดับโลก ที่จะเชื่อมมนต์เสน่ห์ชุมชนท้องถิ่นสู่นักเดินทางทั่วโลก
๒๒ พ.ย. electric.neon.lamp หยิบเพลงฮิต แม้ ใส่ฟีลดนตรีเหงาปนเศร้าในแบบ Piano Version