กรุงเทพมหานครร่วมกับไมโครซอฟท์กระจายการเรียนรู้สู่นักเรียน ในโครงการด้านการศึกษา “Microsoft Education Alliance”

ศุกร์ ๑๗ กรกฎาคม ๒๐๐๙ ๐๙:๔๒
นำเสนอ “Microsoft MultiPoint” ซอฟต์แวร์มหัศจรรย์เพื่อการเรียนรู้อย่างเท่าเทียม และ “Microsoft Accessibility” ลดช่องว่างการเรียนรู้สำหรับนักเรียนพิการ เพื่อพัฒนาศักยภาพด้านการศึกษาใน 435 โรงเรียนทั่วกรุงเทพฯ

กรุงเทพมหานครฯ ร่วมกับบริษัท ไมโครซอฟท์ (ประเทศไทย) จำกัด ลงนามในบันทึกความร่วมมือในโครงการ “Microsoft Education Alliance” เพื่อความร่วมมือด้านการศึกษา ขยายโอกาสการเรียนรู้อย่างไม่มีขีดจำกัดสำหรับครูและนักเรียนในโรงเรียนสังกัดกรุงเทพมหานคร 435 แห่ง โดยการนำเทคโนโลยีมาบูรณาการเข้ากับการศึกษา ได้แก่ โปรแกรม Microsoft MultiPoint และโปรแกรม Microsoft Accessibility พร้อมนำร่องเปิดอบรมครูในการใช้สื่อการเรียนรู้ในเดือนกันยายนศกนี้

ม.ร.ว. สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครฯ กล่าวว่า “กรุงเทพมหานครฯ มีความมุ่งมั่นที่จะทำให้กรุงเทพฯ เป็นเมืองแห่งการเรียนรู้ โดยเราพยายามที่จะจัดสรรให้ประชาชนและชุมชนได้มีโอกาสในการเข้าถึงแหล่งความรู้และข้อมูลให้กว้างขวางที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ในส่วนของการศึกษาในระบบนั้น เราเน้นในเรื่องของการพัฒนาในทุกๆ ด้านที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นโรงเรียน การจัดระบบการศึกษา การพัฒนาครูและนักเรียน รวมไปถึงการนำสื่อการสอนรูปแบบใหม่มาใช้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการสนับสนุนให้นำเทคโนโลยีสมัยใหม่มาช่วยในเรื่องการเรียนการสอนเพื่อพัฒนาการเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง และสร้างความกระตือรือร้นด้านการศึกษาของครูและนักเรียน ในฐานะที่ไมโครซอฟท์เป็นผู้นำทางด้านเทคโนโลยี กรุงเทพมหานครฯ จึงมองเห็นว่าไมโครซอฟท์จะสามารถนำความเชี่ยวชาญมาสนับสนุนในส่วนนี้ได้ จึงร่วมลงนามในโครงการ “Education Alliance” ในครั้งนี้ เพื่อร่วมกันพัฒนาศักยภาพทางการศึกษาให้กับครูและนักเรียนในสังกัดกรุงเทพมหานครฯ โดยความร่วมมือดังกล่าว จะมีการนำเทคโนโลยีที่น่าสนใจของไมโครซอฟท์มาใช้กับการศึกษา ได้แก่ การนำ Microsoft MultiPoint มาพัฒนาการศึกษาทั้งในและนอกห้องเรียนสำหรับโรงเรียนในสังกัดกรุงเทพมหานครฯ เป็นครั้งแรก โดยนำมาบูรณาการกับการเรียนการสอนใน 8 กลุ่มสาระวิชา อาทิ วิชาคณิตศาสตร์ สังคมศาสตร์ วิทยาศาสตร์ และภาษาอังกฤษ เป็นต้น นอกจากนี้ ยังได้นำหลักสูตร Microsoft Accessibility มาใช้ เพื่อขยายโอกาสการเรียนรู้อย่างเท่าเทียมกันทั้งครู นักเรียนปรกติ และนักเรียนพิเศษในโรงเรียนเรียนเด็กพิการร่วม สังกัดกรุงเทพมหานครฯ ซึ่งที่ผ่านมานักเรียนพิเศษ เช่น นักเรียนที่พิการทางสายตา พิการทางร่างกายอื่นๆ อาจจะไม่ได้รับความเท่าเทียมกันในการเรียนรู้ แต่ปัจจุบันเมื่อเทคโนโลยีมีการพัฒนามากขึ้น การเรียนรู้ หรือการฝึกทักษะต่างๆ ก็ควรเป็นไปในแนวทางเดียวกัน อีกทั้ง เพื่อให้นักเรียนทุกคนได้มีโอกาสเรียนรู้การใช้คอมพิวเตอร์อย่างทั่วถึง”

นางสาวปฐมา จันทรักษ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไมโครซอฟท์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “ไมโครซอฟท์ตระหนักถึงความสำคัญของการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารเข้ามาพัฒนาการศึกษา เนื่องจากการศึกษาคือรากฐานของการพัฒนาด้านอื่นๆ และเทคโนโลยีสามารถสร้างโอกาสและขยายผลการเรียนรู้ได้อย่างไม่มีขีดจำกัด เราจึงได้ร่วมมือกับหน่วยงานต่างๆ และนำเทคโนโลยีเข้าไปสนับสนุนเพื่อให้บรรลุเป้าหมายใน ด้านการปฏิรูปการศึกษา หรือ Transforming Education โดยมุ่งส่งเสริมให้เกิดการบูรณาการเทคโนโลยีเข้ากับการเรียนการสอน ส่งผลให้เกิดการเรียนรู้ที่ได้ผลยิ่งขึ้น มีการแบ่งปันประสบการณ์การใช้เทคโนโลยีระหว่างชุมชนครูและนักเรียน นอกจากนี้ ยังเน้นในเรื่องของการขยายโอกาสทางการศึกษาไปยังผู้ที่อยู่นอกระบบการศึกษาและชุมชนผ่านศูนย์การเรียนรู้เทคโนโลยี ซึ่งการนำเทคโนโลยีไปเอื้อให้เกิดการเรียนรู้เหล่านี้ จะต่อยอดไปยัง เป้าหมายอื่นๆ ได้แก่ การรู้จักใช้เทคโนโลยีในการสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ๆ การพัฒนาทักษะการใช้โปรแกรมขั้นสูงให้กับชุมชน เพื่อให้ชุมชนแข็งแกร่ง และสามารถสร้างงานสร้างรายได้เพิ่มขึ้น ซึ่งความร่วมมือกับกรุงเทพมหานครฯ ในครั้งนี้เป็นการขยายผลไปยังครูและนักเรียนในโรงเรียนภายใต้สังกัดกรุงเทพมหานครถึง 435 โรงเรียน ในฐานะที่เป็นผู้นำและที่ปรึกษาทางด้านเทคโนโลยี ไมโครซอฟท์พร้อมที่จะนำเทคโนโลยีเข้ามาสนับสนุนการพัฒนา และยกระดับการศึกษาไทยให้ก้าวหน้าเพราะการศึกษาเปรียบเสมือนต้นน้ำของระบบเศรษฐกิจและสังคมที่ยั่งยืน ประเทศที่การศึกษาได้รับการพัฒนานั้นมักจะมีระบบเศรษฐกิจที่เจริญมั่นคง หากวันนี้เราสามารถนำเทคโนโลยีมายกระดับการศึกษาในประเทศได้ เราจะเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของประเทศในระดับนานาชาติและสร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจในอนาคตได้อย่างแน่นอน”

สำหรับการสนับสนุนเทคโนโลยีเพื่อพัฒนาการศึกษาในโครงการความร่วมมือ Microsoft Education Alliance ประกอบด้วย

1. Microsoft MultiPoint Program

โปรแกรมดังกล่าวพัฒนาโดยแผนกวิจัยของไมโครซอฟท์ ที่มีจุดประสงค์เพื่อขยายโอกาสในการเรียนรู้เทคโนโลยีแก่ผู้ที่มีข้อจำกัด โปรแกรมไมโครซอฟท์มัลติพอยท์ทำให้เครื่องคอมพิวเตอร์หนึ่งเครื่องสามารถรองรับการใช้งานของนักเรียนได้จำนวน 3-50 คนพร้อมๆ กัน โดยนักเรียนแต่ละคนสามารถใช้เม้าส์ของตัวเองควบคุมเคอร์เซอร์ที่ออกแบบมาเป็นพิเศษบนหน้าจอและเรียนรู้ไปพร้อมๆ กันทั้งหมด โปรแกรมนี้ไม่เพียงแต่ให้ทางออกสำหรับข้อจำกัดด้านงบประมาณ แต่ยังสร้างประสบการณ์เรียนรู้ที่สร้างสรรค์และเน้นการส่งเสริมให้นักเรียนมีส่วนร่วม และสามารถดึงความสนใจของนักเรียนทุกคนได้โดยไม่จำกัดโอกาสใช้คอมพิวเตอร์อยู่ที่นักเรียนคนใดคนหนึ่งเท่านั้น โครงการที่พัฒนาขึ้นจากศูนย์วิจัยของไมโครซอฟท์นี้ ได้นำร่องในประเทศไทยเป็นประเทศแรก และประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี ปัจจุบัน มีการใช้งานโปรแกรมนี้ใน 500 โรงเรียนทั่วประเทศ และหลังจากวันนี้จะมีโรงเรียนในสังกัดกรุงเทพมหานครอีก 435 โรงเรียนใช้งานโปรแกรม Microsoft MultiPoint ซึ่งเป็นการเพิ่มโอกาสในการเรียนรู้ ให้ทั่วถึงยิ่งขึ้นไปอีก

2. Microsoft ICT Accessibility

หลักสูตรที่แนะนำโปรแกรมสนับสนุนการใช้งานคอมพิวเตอร์สำหรับผู้พิการที่มีปัญหาในการเคลื่อนไหวหรือ การมองเห็น โดยจะสนับสนุนการทำงานของพวกเขาเหล่านั้น ซึ่งไม่จำกัดเฉพาะว่าต้องเป็นผู้พิการทางสายตา หรือร่างกายเท่านั้น สำหรับผู้ที่ประสบอุบัติเหตุ หรือบกพร่องทางด้านสายตา หรืออาจจะแขนหักก็สามารถเรียนรู้ที่จะใช้โปรแกรมนี้ช่วยในการทำงานหรือสื่อสารกับผู้อื่นได้ โดยเปิดโอกาสให้ผู้พิการที่มีปัญหาทางสายตาหรือ ผู้พิการทางการเคลื่อนไหวได้มีโอกาสใช้คอมพิวเตอร์ในการเรียนรู้ได้อย่างเท่าเทียมกับคนทั่วไป และลดช่องว่างในการเรียนรู้

สำหรับการนำเทคโนโลยีด้านการศึกษาไปสนับสนุนการเรียนการสอนนั้น จะมีการจัดฝึกอบรมครูในการใช้โปรแกรม Microsoft MulitPoint ให้กับครูสังกัดกรุงเทพมหานครฯ ในระดับประถมศึกษาทั้งหมด 435 โรงเรียน โดยแบ่งเป็น 3 กลุ่ม กลุ่มละ 145 โรงเรียน เริ่มอบรมรอบแรกในวันที่ 10-11 กันยายน 2552 รอบที่ 2 ในวันที่ 15-16 กันยายน และรอบที่ 3 ในวันที่ 17-18 กันยายน 2552

ข้อมูลเกี่ยวกับไมโครซอฟท์

บริษัท ไมโครซอฟท์ (Nasdaq “MSFT”) ซึ่งก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2518 เป็นผู้นำระดับโลกด้านบริการซอฟต์แวร์ และโซลูชั่นที่ช่วยเสริมสร้างศักยภาพของผู้ใช้และองค์กรธุรกิจ

บริษัท ไมโครซอฟท์ (ประเทศไทย) จำกัด ก่อตั้งขึ้นในปี 2536 บริษัทฯ เสนอซอฟต์แวร์ชั้นนำระดับโลกที่ใช้งานง่ายและเหมาะกับความต้องการของผู้ใช้คนไทย ตลอดจนแพลตฟอร์มที่ช่วยให้องค์กรธุรกิจพัฒนาโซลูชั่นที่ตรงตามความต้องการอย่างมีประสิทธิภาพ และสามารถรองรับได้ตั้งแต่คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊คไปจนถึงเครื่องขนาดใหญ่ระดับเมนเฟรม เพื่อให้สอดคล้องกับการขยายตัวของจำนวนผู้ใช้คอมพิวเตอร์ในประเทศไทย หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติม สามารถเข้าไปเยี่ยมชมได้ที่เว็บไซต์ของไมโครซอฟท์ (ประเทศไทย) http://www.microsoft.com/thailand.

ไมโครซอฟท์เป็นเครื่องหมายการค้าจดทะเบียนของ ไมโครซอฟท์ คอร์ป ประเทศสหรัฐอเมริกา และ/หรือ ประเทศอื่นๆ ชื่อบริษัทและผลิตภัณฑ์ที่มีการกล่าวถึงในเอกสารชุดนี้อาจจะเป็นเครื่องหมายการค้าของเจ้าของนั้นๆ

หมายเหตุ: หากท่านต้องการทราบข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับไมโครซอฟท์ สามารถดูได้ที่ http://www.microsoft.com/presspass/ ในส่วนของหน้าข้อมูลบริษัท

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ:

คุณศุภาดา ชัยวงษ์

ฮิลล์ แอนด์ นอลตัน ประเทศไทย

โทรศัพท์: 0-2627-3501 ต่อ 209

โทรสาร: 0-2627-3510

Email: [email protected]

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๗:๒๑ 60 ปีแห่งความมุ่งมั่น! คาโอ คว้ารางวัลอุตสาหกรรมดีเด่น 2 ประเภทในปี 2567 ชูความสำเร็จด้านสิ่งแวดล้อมและความรับผิดชอบต่อสังคม
๑๗:๒๓ AVATR ก้าวสู่ความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่! ระดมทุนในรอบ Series C ได้มากกว่า 11,000 ล้านหยวน พร้อมก้าวสู่ความเป็นผู้นำในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าหรูหราแห่งอนาคต
๑๗:๐๖ Zoom เปิด 10 เทรนด์ ใช้ AI ในการทำงานปี 2568
๑๗:๑๐ เปิดมุมมองอาชีพที่หลากหลายในอุตสาหกรรมกาแฟไทย เจาะลึกบทบาทและแนวทางยกระดับสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน
๑๗:๑๔ อนาคตแห่งการเดินทาง: 5 คนขับ AI จากแอปเรียกรถ Maxim
๑๗:๕๕ Well-Being House บ้านชั้นเดียวเอาใจคนวัยเกษียณ
๑๗:๑๖ กทม. แจงเปิดกว้างการแข่งขันโครงการเช่าคอมพิวเตอร์พกพาสำหรับนักเรียน
๑๖:๓๗ รายงาน Ericsson Mobility Report ฉบับล่าสุด เผยผู้เริ่มให้บริการ 5G กลุ่มแรกกำลังมุ่งสู่โมเดลธุรกิจที่เน้นประสิทธิภาพ
๑๗:๒๕ เมดีซ กรุ๊ป ร่วมสมทบทุนสนับสนุนมูลนิธิโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราช ช่วยผู้ป่วยในชนบท ถิ่นทุรกันดารที่ห่างไกล
๑๖:๔๔ CNN จับตา นวัตกรรมล่าสุดจากนักวิจัยไทย พลิกโฉมการตรวจคัดกรองความเครียดด้วย เหงื่อ