ผลการศึกษาโครงกำหนดยุทธศาสตร์กำลังคนภาครัฐ กรณีแพทย์และพยาบาล (กระทรวงสาธารณสุข)

พุธ ๒๒ กรกฎาคม ๒๐๐๙ ๐๗:๔๕
สำนักงาน ก.พ. ร่วมกับศูนย์บริการวิชาการแห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โดยมี ศ. ดร. ศุภชัย ยาวะประภาษ ศึกษาโครงการกำหนดยุทธศาสตร์กำลังคนภาครัฐ ในกลุ่มข้าราชการครู ตำรวจ และบุคลากรทางการแพทย์ ซึ่งเป็นกลุ่มข้าราชการที่มีจำนวนมาก คิดรวมกันเป็นประมาณร้อยละ 70 ของข้าราชการในฝ่ายพลเรือนทั้งหมด เพื่อให้การกำหนดยุทธศาสตร์การบริหารจัดการกำลังคนมีขนาดและคุณภาพที่เหมาะสม สอดคล้องกับการบริหารจัดการทรัพยากรบุคคลภาครัฐ และทิศทางการพัฒนาประเทศ

จากการศึกษากรณีบุคลากรทางการแพทย์ ซึ่งได้แก่ แพทย์และพยาบาล พบว่ามีข้อสรุปได้ดังนี้คือ จำนวนแพทย์ที่สามารถทำเวชปฏิบัติได้ของประเทศไทย มีจำนวน 31,939 คน โดยสัดส่วนแพทย์ต่อประชากรของประเทศไทยคือ 1: 1,985 คน แพทย์ภาครัฐจำนวน 21,500 คน คิดเป็นสัดส่วนต่อประชากรของประเทศไทย 1 : 2,948 คน และแพทย์ของกระทรวงสาธารณสุขจำนวน 11,025 คน คิดเป็นสัดส่วนต่อประชากรในประเทศไทย 1: 5,750 คน ซึ่งเมื่อเปรียบเทียบกับสัดส่วนมาตรฐานขององค์การอนามัยโลกที่กำหนดสัดส่วนแพทย์ต่อผู้ป่วยไว้ที่ 1: 5,000 คน และสัดส่วนแพทย์ต่อประชากรของประเทศต่างๆ แล้ว แพทย์ไทยยังอยู่ในสัดส่วนที่ดีกว่า สัดส่วนของแพทย์ทั้งระบบต่อจำนวนประชากรยังมีการขาดแคลนอยู่แต่ไม่ถึงขั้นวิกฤติ การขาดแคลนแพทย์ของกระทรวงสาธารณสุขมีปัญหามากกว่าแพทย์ในสังกัดอื่น ซึ่งมีปัญหาขาดแคลนมากในโรงพยาบาลชุมชนขนาดเล็ก และ/หรือพื้นที่ห่างไกล จึงสะท้อนว่าอุปทานไม่เป็นปัญหาแต่กระทรวงสาธารณสุขต้องหาวิธีดึงให้แพทย์เข้าทำงานและอยู่ต่อไปในระบบ

สำหรับแนวโน้มในอนาคต ปัญหาการขาดแคลนแพทย์ในระบบจะบรรเทาลงไปเนื่องจากกำลังการผลิตแพทย์ที่เพิ่มขึ้น รวมทั้งยังมีแพทย์กำลังทยอยเติมเข้าสู่ระบบอย่างต่อเนื่องจนอาจส่งผลการมีแพทย์ในระบบมากเกินฐานะทางการเงินของประเทศในอนาคต

สำหรับกรณีพยาบาล พบว่า ปัจจุบันจำนวนพยาบาลที่มีใบประกอบวิชาชีพพยาบาลและผดุงครรภ์ มีจำนวน 118,087 คน โดยสัดส่วนของพยาบาลต่อจำนวนประชากรของประเทศไทยคือ 1: 532 คน ซึ่งอยู่ในระดับที่ใกล้เคียงกับเกณฑ์ขององค์การอนามัยโลกที่กำหนดมาตรฐานไว้ 1: 500 คน การขาดแคลนพยาบาลเกิดขึ้นเฉพาะในกรณีพยาบาลของกระทรวงสาธารณสุข ขณะเดียวกัน ภาพอนาคตชี้ว่าปัญหาการขาดแคลนพยาบาลในประเทศจะบรรเทาลงไป เนื่องจากการไหลของพยาบาลไทยออกไปทำงานต่างประเทศเริ่มลดลง มีทางเลือกในประเทศไทยมากขึ้น กำลังการผลิตที่เพิ่มขึ้น องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นมีแนวโน้มจะเข้ามามีส่วนร่วมในการจัดบริการสาธารณสุขเพิ่มมากขึ้น และการหมุนกลับของพยาบาลอายุมากที่ออกจากภาคเอกชนจะเร็วขึ้นและถี่ขึ้น

ทั้งนี้ คณะผู้ศึกษา ได้เสนอเป้าหมายการบริหารจัดการกำลังคนกลุ่มแพทย์และพยาบาล เพื่อเป็นยุทธศาสตร์ในการกำกับดูแลกำลังคนกลุ่มแพทย์และพยาบาล ไว้ว่า “ในปี พ.ศ. 2555 ประเทศไทยจะมีกำลังคนที่เป็นแพทย์ และการกระจายตัวของแพทย์ที่เพียงพอกับความต้องการด้านสาธารณสุขของประเทศ และมีกำลังคนพยาบาลที่มีคุณภาพเพียงพอกับความต้องการด้านการสาธารณสุขของประเทศ ” ด้วย

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร. 1786 กลุ่มสื่อสารองค์กร สำนักงาน ก.พ.

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๐๘:๓๙ นภินทร ปลื้ม ญี่ปุ่นขึ้นทะเบียน GI สับปะรดห้วยมุ่น ผลไม้ไทยรายการแรกเดินหน้าขยายตลาดส่งออกผักผลไม้ไทยสู่ตลาดญี่ปุ่น
๐๘:๑๕ กพร. จับมือ เอ็มเทค สวทช. จัดสัมมนาสร้างโอกาสทางธุรกิจด้วยการออกแบบสู่เศรษฐกิจหมุนเวียน เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันอย่างยั่งยืนให้แก่ผู้ประกอบการไทย ต่อเนื่องเป็นปีที่
๐๘:๐๕ เปิดแล้ว Rolife Flagship Store ครั้งแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ 2 หนุ่ม มีน พีรวิชญ์ และ ต้า อธิวัตน์ร่วมงานของสะสมสุดน่ารัก
๐๘:๔๑ เปิดค่าย DTC Camp 2024 เตรียมความพร้อมสู่ความเป็นมืออาชีพ
๐๘:๑๗ กทม. ชวนลอยกระทงตามประเพณี-ดิจิทัล-ออนไลน์ พร้อมดูแลความปลอดภัยประชาชน
๐๘:๔๔ กทม. กำหนดแนวทางลงเวลาปฏิบัติราชการผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ภายใน มี.ค. 68
๐๘:๑๘ Toytopia ผนึก Robotime โหมกระแสฮอตกล่องสุ่ม-ของสะสม DIY เปิดตัว Rolife Flagship Store ครั้งแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
๐๘:๑๕ กทม. เดินหน้าคัดกรองนักเรียนกลุ่มเสี่ยง ป้องกันการแพร่ระบาดสารเสพติด-บุหรี่ไฟฟ้าโรงเรียนในสังกัด
๐๘:๓๓ ฟุตบอลนัดพิเศษ ฉลองครบรอบ 31 ปี บริษัท สแตนดาร์ด แมนูแฟคเจอริ่ง จำกัด
๐๘:๐๘ บางกอกแลนด์และบริษัทในเครือร่วมเป็นเจ้าภาพทอดกฐินสามัคคี ณ วัดผาสุกมณีจักร เมืองทองธานี