CPF ร่วมมือกระทรวงศึกษาธิการให้ความรู้ครูเลี้ยงไก่ไข่ 1,000 คน

พุธ ๒๒ กรกฎาคม ๒๐๐๙ ๑๑:๕๕
นายสมเกียรติ ชอบผล รองเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการดำเนินงานกองทุนเพื่อโครงการอาหารกลางวันในโรงเรียนประถม เปิดเผยว่า คณะอนุกรรมการฯได้น้อมนำแนวพระราชดำริในสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาสยามบรมราชกุมารี ในด้านการแก้ไขปัญหาทุพโภชนาการของเด็กและเยาวชนผู้ด้อยโอกาสในชนบทมาปฏิบัติ โดยขณะนี้สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) กระทรวงศึกษาธิการ ได้เตรียมงบประมาณจำนวน 40 ล้านบาท สำหรับสนับสนุนการเลี้ยงไก่ไข่เพื่ออาหารกลางวันนักเรียนในโรงเรียนประถม สังกัด สพฐ. จำนวน 255 โรงเรียน ซึ่งมีวัตถุประสงค์หลักเพื่อให้เด็กนักเรียนได้รับประทานไข่ 120 ฟองต่อคนต่อ 1 ปีการศึกษา (200 วันตลอดเปิดภาคเรียน) อันจะนำไปสู่การลดปัญหาทุพโภชนาการของเยาวชนไทย ตลอดจนบูรณาการหลักสูตรการเลี้ยงไก่ไข่ให้เป็นหลักสูตรในท้องถิ่น และเป็นแหล่งผลิตอาหารสดเชื่อมโยงไปยังชุมชน

“เพื่อให้โครงการสัมฤทธิ์ผล สพฐ. จึงได้เตรียมจัดอบรมครูทั่วประเทศ จำนวน 1,000 คน โดยได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจาก บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอฟ ซึ่งเป็นผู้นำในธุรกิจเกษตรอุตสาหกรรมและอาหารของประเทศไทย ที่จะเข้ามาให้ความรู้โดยไม่คิดมูลค่า รวมทั้งยังทำหน้าที่ให้คำปรึกษาและเป็นพี่เลี้ยงแก่ครูและโรงเรียนที่ผ่านการคัดเลือกอย่างใกล้ชิด” นายสมเกียรติกล่าว

ด้านนายสุปรี เบ้าสิงห์สวย ผู้จัดการมูลนิธิพัฒนาชีวิตชนบท เครือเจริญโภคภัณฑ์ และกรรมการคณะอนุกรรมการดำเนินงานกองทุนเพื่อโครงการอาหารกลางวันในโรงเรียนประถม เปิดเผยถึงกระบวนการคัดเลือกโรงเรียนเพื่ออบรมครูเลี้ยงไก่ไข่ ว่าจะคัดเลือกจากรูปแบบโครงการเพื่ออาหารกลางวันที่โรงเรียนกว่า 3,000 แห่งเสนอเข้ามาว่าโรงเรียนใดเสนอโครงการเลี้ยงไก่ไข่ จากนั้นทีมงาน CPF จะเข้าไปพิจารณาพื้นที่ในเชิงเทคนิค เพื่อดูความเป็นไปได้ในการดำเนินโครงการ ประกอบกับพิจารณาความพร้อมของผู้บริหารโรงเรียน ครูและนักเรียนที่จะรับผิดชอบโครงการด้วย

“โครงการนี้มีเงื่อนไขที่ชัดเจนคือการให้ครั้งเดียวอย่างพอเพียง โรงเรียนที่ผ่านการคัดเลือกและอบรมครูแล้วเสร็จ จะได้รับงบประมาณที่ครอบคลุมการสร้างโรงเรือนเลี้ยงไก่ไข่ อุปกรณ์การเลี้ยง พันธุ์สัตว์ อาหารสัตว์ รุ่นแรก รวมถึง ยาและวัคซีน โดยครู นักเรียนและชุมชน ต้องร่วมกันจัดการโครงการให้สามารถดำเนินไปอย่างต่อเนื่องและยั่งยืน ซึ่งการเลือกที่จะให้ความรู้แก่ครูก่อนนั้น เพราะครูคือผู้นำการเปลี่ยนแปลงของสังคม ที่มีส่วนสำคัญยิ่งในการถ่ายทอดความรู้สู่เด็กๆ และชุมชน” นายสุปรีกล่าว

การอบรมครูเลี้ยงไก่ไข่นี้ จะดำเนินโครงการในเดือนกรกฎาคม- สิงหาคม 2552 ในพื้นที่ 7 จังหวัดทั่วประเทศ ได้แก่ อุบลราชธานี เชียงใหม่ กาญจนบุรี อุดรธานี นครราชสีมา พิษณุโลก สุราษฎร์ธานี โดยจะอบรมครูระดับประถมในสังกัด สพฐ. โรงเรียนละ 3 คน จำนวน 255 โรงเรียน รวมถึงเจ้าหน้าที่จากสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาอีกเขตละ 2 คน รวมเป็นผู้ที่จะได้รับการอบรมทั้งสิ้น 1,000 คน โดยคณะอนุกรรมการฯชุดนี้คาดหวังว่าจะก่อให้เกิดความรู้ความเข้าใจในโครงการอาหารกลางวันนักเรียนแก่ครู เป็นการให้ความรู้และทักษะด้านบริหารจัดการโครงการ และสร้างทัศนคติที่ดีต่ออาชีพเกษตร ตลอดจนเป็นจุดเริ่มต้นเพื่อบูรณาการไปสู่การเรียนการสอนใน 2 เรื่องคือ หลักสูตรท้องถิ่นว่าด้วยเรื่องการจัดการอาชีพเกษตร และ ทักษะที่เกิดขึ้นกับนักเรียนและผู้ปกครองต้องสามารถนำไปปฏิบัติได้จริง

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๖:๕๐ รีเลชั่นชิพรีพับบลิค แนะกลยุทธ์สำคัญ นำพาธุรกิจร้านอาหารสู่ความสำเร็จ มัดใจลูกค้าให้อยู่หมัด
๑๖:๑๔ ชมนวัตกรรมสุดล้ำในงาน METALEX 2024 หลายแบรนด์แกะกล่องเครื่องจักรครั้งแรกในงานนี้
๑๖:๑๓ Bangkok Illustration Fair 2024 สู่การเติบโตก้าวใหญ่ในปีที่ 4
๑๖:๑๐ ผลการจัดอันดับขีดความสามารถในการแข่งขันด้านดิจิทัลโดย IMD ประจำปี 2567 TMA เผยไทยครองอันดับ 37 ในการจัดอันดับด้านดิจิทัลปีนี้
๑๖:๕๒ โก โฮลเซลล์ จัดเต็มสินค้า ส่งสุข สุดอร่อย เฉลิมฉลองเทศกาลส่งท้ายปี เข้มกระเช้าปีใหม่ดีมีมาตรฐาน พร้อมชู อาหารแช่แข็ง-อาหารสด
๒๒ พ.ย. กทม. จับมือสถานทูตเนเธอร์แลนด์ ประจำประเทศไทย จัดประชุมเชิงปฏิบัติการ ACTIVE Workshop เมืองเดินเท้า และจักรยานสัญจร ครั้งที่
๒๒ พ.ย. สัมผัสความหรูหราของวิลล่าริมทะเล VEYLA NATAI RESIDENCES ผ่านประสบการณ์เหนือระดับในงาน SOUL of VEYLA
๒๒ พ.ย. 'แอสเซทไวส์' จับมือ 'สยามกีฬา' เปิดศึกลูกหนังยุวชนทัวร์นาเมนต์ใหญ่แห่งปี AssetWise Siamkeela Cup 2024-25 ต่อเนื่องเป็นปีที่
๒๒ พ.ย. โรงแรมเรเนซองส์ เปิดตัว R FINDS แพลตฟอร์มดิจิทัลระดับโลก ที่จะเชื่อมมนต์เสน่ห์ชุมชนท้องถิ่นสู่นักเดินทางทั่วโลก
๒๒ พ.ย. electric.neon.lamp หยิบเพลงฮิต แม้ ใส่ฟีลดนตรีเหงาปนเศร้าในแบบ Piano Version