แน่นนอนว่าอาชญากรไซเบอร์ย่อมไม่ปล่อยเวลาให้สูญเปล่าในการใช้ประโยชน์จากเหตุการณ์ประวัติศาสตร์ในครั้งนี้ หลังจากที่ข่าวดังกล่าวเผยแพร่ อาชญากรไซเบอร์ได้ดำเนินการปรับปรุงบ็อต ข้อความสแปม และซอฟต์แวร์ป้องกันไวรัสลวงในทันทีเพื่อใช้เหตุการณ์นี้เป็นกลลวงทางสังคมและหลอกล่อให้ผู้ใช้อินเทอร์เน็ตจำนวนมากดาวน์โหลดส่วนของโค้ดที่เป็นอันตราย
หัวข้อกลลวงทางสังคมอีกอย่างหนึ่งที่อาชญากรไซเบอร์ยังคงใช้ประโยชน์ได้เป็นอย่างดีก็ คือ การแพร่ระบาดของเชื้อไข้หวัดใหญ่ H1N1 ที่กำลังขยายตัวเพิ่มขึ้นทั่วโลก ในเดือนมิถุนายน องค์การอนามัยโลก (WHO) ได้ยกระดับความร้ายแรงของการแพร่ระบาด H1N1 เป็นระดับ 6 ส่งผลให้ผู้ใช้งานคอมพิวเตอร์และอินเทอร์เน็ตที่กังวลเกี่ยวกับพัฒนาการของไวรัสที่กำลังแพร่ระบาดอยู่นี้ (โดยเฉพาะในแถบเอเชียซึ่งมีจำนวนผู้ติดเชื้อที่ได้รับการยืนยันแล้วว่ากำลังขยายตัวในอัตราที่น่ากลัว) อาจตกเป็นเหยื่อของการโจมตีทางไซเบอร์ที่ใช้หัวข้อนี้ในรูปแบบของกลลวงทางสังคม เช่น SEO poisoning (การเพิ่มประสิทธิภาพการค้นหาลวง) ที่จะเกิดขึ้นกับผลลัพธ์การค้นหาของพวกเขาได้
สำหรับการโจมตีแบบมีเป้าหมายที่สำคัญอีกอย่างในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก คือ การโจมตีแบบ ฟิชชิง ซึ่งทำให้ผู้เสียภาษีในออสเตรเลียตกอยู่ในภาวะเสี่ยงที่จะโดนขโมยข้อมูลส่วนบุคคลจากอาชญากร ไซเบอร์ ขณะที่ผู้ใช้ทวิตเตอร์ (Twitter) ก็ยังคงเป็นหนึ่งในเหยื่อเป้าหมายที่อาชญากรไซเบอร์ให้ความสำคัญมากที่สุดในปัจจุบัน เนื่องจากจำนวนผู้ใช้กว่า 19 ล้านรายทั่วโลก (และการใช้งานในเอเชียกำลังขยายตัวเพิ่มขึ้น) ทำให้มัลแวร์ อย่าง Koobface เริ่มแทรกซึมเข้าไปยังกลุ่มประชากรทวิตเตอร์ที่กำลังขยายตัวอยู่ในขณะนี้
สื่อมวลชนสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ บุษกร สนธิกร และศรีสุพัฒ เสียงเย็น ที่ปรึกษาประชาสัมพันธ์ บริษัท คอร์ แอนด์ พีค จำกัด โทร. +66 (0) 2439 4600 ต่อ 8202, 8300 อีเมล: [email protected], [email protected]