อุตสาหกรรมยานยนต์ขานรับโรงเหล็กต้นน้ำในประเทศไทย แนะรัฐ ต้องชูนโยบายและการวางแผนรักษาสิ่งแวดล้อม

พฤหัส ๒๓ กรกฎาคม ๒๐๐๙ ๑๒:๐๓
กลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สอท. ขานรับโครงการเหล็กต้นน้ำในประเทศไทย หวังเพิ่มศักยภาพการผลิตรถยนต์ของไทย พร้อมมั่นใจ โครงการเหล็กสามารถอยู่ร่วมกับสิ่งแวดล้อมและชุมชนได้ โดยรัฐบาลต้องมีนโยบายและการดำเนินงานอย่างจริงจัง เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับชุมชน

นางเพียงใจ แก้วสุวรรณ ประธานกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย เปิดเผยถึงกรณีที่สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) ได้รับแผนบริหารจัดการด้านสิ่งแวดล้อมและชุมชนของโครงการผลิตเหล็กคุณภาพสูง จากบริษัทนิปปอน สตีล และเจเอฟอี สตีล ผู้ผลิตเหล็กรายใหญ่ของประเทศญี่ปุ่น ว่า หากทั้งสองบริษัทได้เข้ามาตั้งโรงเหล็กต้นน้ำคุณภาพสูงในประเทศไทย เชื่อว่าจะช่วยเพิ่มศักยภาพการแข่งขันของอุตสาหกรรมยานยนต์ของไทยมากยิ่งขึ้น เพราะจะทำให้ต้นทุนหลักของการผลิตรถยนต์ คือต้นทุนวัตถุดิบและค่าขนส่งลดลง ขณะที่คุณภาพของเหล็กก็ได้มาตรฐานตามที่ต้องการ เพราะเหล็กที่จะผลิตเป็นเหล็กต้นน้ำคุณภาพสูง

“วัตถุดิบเป็นต้นทุนสำคัญของการผลิตรถยนต์ ซึ่งในปัจจุบัน รถยนต์ใช้เหล็กเป็นวัตถุดิบหลักในการผลิตชิ้นส่วนกว่า 50% โดยเฉพาะเหล็กคุณภาพสูง ซึ่งแต่ละปีผู้ผลิตรถยนต์และผู้ผลิตชิ้นส่วน ต้องนำเข้าจากต่างประเทศเป็นจำนวนมาก เพราะประเทศไทยยังไม่สามารถผลิตเหล็กที่มีคุณลักษณะพิเศษตามที่บริษัทผลิตรถยนต์ต้องการได้ ดังนั้น หากประเทศไทยสามารถผลิตเหล็กคุณภาพสูงได้ ก็จะเป็นการเพิ่มศักยภาพให้อุตสาหกรรมยานยนต์สามารถแข่งขันได้ในตลาดโลก” ประธานกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์กล่าว

นางเพียงใจกล่าวด้วยว่า โครงการเหล็กต้นน้ำสามารถอยู่ร่วมกับสิ่งแวดล้อมและชุมชนได้ ทั้งนี้ รัฐบาลต้องให้การสนับสนุน ด้วยการกำหนดนโยบายและวางแผนป้องกันและรักษาสิ่งแวดล้อมอย่างรอบคอบ ทั้งระยะสั้นและระยะยาว ส่วนผู้ประกอบการต้องให้ความสำคัญกับมาตรการและดำเนินการต่างๆอย่างเคร่งครัด เพื่อให้กระบวนการก่อสร้าง กระบวนการผลิต มีผลกระทบต่อชุมชนและสิ่งแวดล้อมน้อยที่สุด และควรเตรียมมาตรการรองรับอย่างเคร่งครัด หากเกิดปัญหาขึ้น เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับชุนชนในพื้นที่

นอกจากนี้ โครงการเหล็กต้นน้ำคุณภาพสูง จะก่อให้เกิดการลงทุนขนาดใหญ่และการลงทุนในอุตสาหกรรมต่อเนื่องอีกจำนวนมาก ซึ่งจะทำให้เกิดการจ้างงานจากคนในชุมชน เป็นการกระจายรายได้สู่ท้องถิ่น รวมไปถึงสร้างรายได้ให้กับประเทศโดยรวม

สำหรับอุตสาหกรรมยานยนต์ ถือเป็นอุตสาหกรรมหลักที่มีความสำคัญ ซึ่งรัฐบาลให้การสนับสนุนและเป็นอุตสาหกรรมที่มีศักยภาพในการแข่งขันสูง โดยมีอัตราการเจริญเติบโตของอุตสาหกรรมปีละประมาณ 20-25% ทั้งนี้หากประเทศไทยมีผู้ผลิตวัตถุดิบและชิ้นส่วนที่มีความเข้มแข็ง จะทำให้ไทยเป็นฐานการผลิตรถยนต์ เพื่อจำหน่ายในประเทศและส่งออกไปยังต่างประเทศได้จำนวนมากและต่อเนื่อง สามารถสร้างรายได้ให้ประเทศไทยปีละมากกว่า 7 แสนล้านบาท

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๗:๑๒ ฉลองเทศกาลตรุษจีนปีงูเล็ก ที่โรงแรมดุสิตธานี กระบี่ บีช รีสอร์ท
๑๗:๐๐ IMPACT เผยปี 68 ข่าวดี! โครงการ Sky Entrance รถไฟฟ้าสายสีชมพูมาตามนัด หนุนทราฟฟิคแน่น - จับมือพาร์ทเนอร์
๑๗:๕๒ อิมแพ็ค เมืองทองธานี ร่วมกับ มูลนิธิเพื่อสิ่งแวดล้อมและสังคม สนับสนุนโครงการ กู้วิกฤตและอนุรักษ์พะยูน ครั้งที่ 2
๑๗:๕๘ แสนสิริ เจ้าตลาดคอนโดแคมปัส อวดโฉม ดีคอนโด วิวิด รังสิต คอนโดใหม่ตรงข้าม ม.กรุงเทพ
๑๖:๔๓ เอ็นไอเอ - สสส. ดึงนิวเจน สรรค์สร้างนวัตกรรมส่งเสริมสุขภาพ ในแคมเปญ The Health Promotion INNOVATION PLAYGROUND
๑๗:๕๘ กรมวิทย์ฯ บริการ เร่งพัฒนาระบบ e-Learning ยกระดับการเรียนรู้ด้านวิทยาศาสตร์ทั่วประเทศ
๑๖:๕๘ เขตจตุจักรกวดขันคนไร้บ้านเชิงสะพานข้ามคลองบางซื่อ สร้างพื้นที่ปลอดภัยสำหรับทุกคน
๑๗:๑๗ เขตพระนครประสานกรมเจ้าท่า-เอกชน เร่งปรับปรุงภูมิทัศน์ท่าเรือสุพรรณเดิม
๑๗:๔๐ กทม. กำชับเจ้าของอาคารตรวจสอบโครงสร้างบันไดเลื่อน เพิ่มความปลอดภัยประชาชน
๑๖:๓๗ แลกเก่าเพื่อโลกใหม่ ช้อปคุ้ม พร้อมลดหย่อนภาษี! 'เปลี่ยนของเก่าเป็นความคุ้ม' ผ่าน Easy E-Receipt ได้ที่โฮมโปร เมกาโฮม