บรรดาคนรักโค้กยังได้เผยความทรงจำที่ดีกับโค้ก นานาทรรศนะอาทิ
มงคลรัฐ โอจรัสพร ผู้พิชิตตำแหน่งแฟนพันธุ์แท้แห่งปีน้ำอัดลมปี 2008 เผยว่า “มีของสะสมโค้กตั้งแต่ยุคคุณปู่คุณย่ารวมกว่าหมื่นชิ้น เริ่มสะสมตอนที่เรียนอยู่ปี 2 ที่มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ได้ไปบ้านของน้องที่รู้จักกัน ขณะดื่มโค้ก เหลือบเห็นป้ายสังกะสีโค้ก ที่เก่า ดูมีมนต์ขลังมาก วินาทีนั้นเริ่มรู้สึกถึงความเก๋าของป้าย รู้สึกถึงความเท่ตามอิทธิพลวัยรุ่น จึงเริ่มเก็บสะสมของทุกอย่างที่มีโค้ก ทุกชิ้นมีเสน่ห์ แม้จะเป็นการสะสมของชนิดเดียวกัน อย่างเช่น กระป๋อง แม้จะเป็นกระป๋อง สีแดงเหมือนกัน แต่มีความหลากหลาย มีดีเทลต่างกัน ทำให้มีมูลค่าทางจิตใจ หรือสโลแกน ก็ยังเป็นสีสันสำหรับนักสะสม และเป็นตัวบ่งบอกอายุ อย่างสโลแกน ที่เราไล่เรียงจากเก่าไปใหม่ อาทิ เย็นเจี๊ยบ, สดชื่น, ชื่นใจที่สุด, ทุกสิ่งวิเศษยิ่งด้วยโคคา โคล่าที่ยิ่งใหญ่จริง, ส่งโค้ก ส่งยิ้ม ชิ้นที่มีค่ามากสำหรับผม เป็นป้ายโฆษณาโค้กแบบยกขอบ รุ่นเก่าที่มีสโลแกน เย็นเจี๊ยบ ที่ผลิตราว 1953 ส่วนที่ใฝ่ฝันเป็นโค้กที่วาดลวดลายโดย นอร์แมน ร็อคเวล (Norman Rockwell) ซึ่งเป็นลายภาพวาดที่คลาสสิกมาก เช่น ภาพเด็กชายชนบทขณะอยู่กับสุนัขและกำลังดื่มโค้ก เป็นรูปที่แสดงถึงความสุขใจของเด็กชาย ที่ได้รับความสดชื่น ฉ่ำเย็นกับเครื่องดื่ม พร้อมที่จะต่อสู้กับวันข้างหน้า ส่วนข้อคิดสำหรับนักสะสมรุ่นใหม่ เริ่มต้นเก็บจากของที่มีปัจจุบัน ไปยังอนาคต เก็บตามศักยภาพที่ทำได้ เพราะการเก็บของปัจจุบันวันนี้ ก็จะกลายเป็นของเก่า ของสะสมในวันข้างหน้าอันใกล้”
ก้อง-กรุณ ซอโซสถิตกุล นักร้องหนุ่มหน้าใส หนึ่งในพรีเซนเตอร์ของแคมเปญโคคา-โคล่าอาหาร เผยว่า “ของสะสมโค้กที่มีอยู่ ส่วนใหญ่จะเป็นเสื้อยืดสกรีนโค้ก ที่ซื้อจากต่างประเทศ มีหลายภาษาต่างกัน และพวกเครื่องเขียน ปากกา ที่มี คอนเทนเนอร์ตรงปลายด้ามปากกา ดูแปลกตาดี และขวดโค้กต่างประเทศ บางทีเป็นผลพลอยได้ เพราะซื้อมาเพื่อดื่ม เห็นขวดสวยดี ก็เลยเก็บสะสมไว้”
ชวลิต สัทธรรมสกุล ผู้ก่อตั้งเว็บโค้กไทยดอทคอม เว็บสำหรับคนรักโค้ก เผยว่า “เริ่มสะสมตั้งแต่ปี 2543 ด้วยความบังเอิญ ที่ต้องหาของ ได้เจอโค้กกระป๋องหลายใบที่น้องสาวซึ่งไปเรียนต่างประเทศ เก็บเรียงไว้อย่างสวยงาม เห็นว่ามีลายต่างกันสวยดี แต่ละใบมีลูกเล่นต่างกัน เลยเริ่มเก็บกระป๋องโค้ก ตอนนี้มีหลายพันชิ้น ส่วนชิ้นโปรดนั้น ตรงกับยุคสมัยที่ช่วยสร้างโลกให้เป็นสีเขียว เป็นพวกแก้วกระดาษของโค้ก ที่เรียกสั้นๆ ว่าแก้วเทียน ในชุดที่สะสมไว้ มีความเก่าประมาณ 20 ปีบวกลบเล็กน้อย อยากสะสมของที่คนไม่สนใจ พอเก็บแล้วเห็นความต่าง ทั้งขนาดและลาย ยิ่งทำให้อยากรู้อยากเห็นเพิ่มขึ้นว่ามีกี่ไซส์ มีกี่ลาย ก็ตามเก็บมาเรื่อยๆ อยากจะบอกนักสะสมทั้งหลายว่า การสะสมจะสนุกขึ้น ถ้าได้แลกเปลี่ยนข้อมูล พูดคุย เพราะเป็นการบอกให้รู้ว่าคุณไม่ได้อยู่คนเดียวในโลกนักสะสม”
ธรรธชัย ชินวีระพันธุ์ หนุ่มน้อยเจ้าของธุรกิจช็อปเพ้นท์บอล เผยว่า “บ้านเราน่าจะมีคนสะสมของโค้กอยู่มาก สำหรับผมเริ่มปลายปี 2543 จริงแล้วเป็นคนที่ชอบดื่มมาก พูดง่ายๆ ว่าติด พอช่วงปีนั้นไม่สบาย หมอห้ามดื่มน้ำอัดลม 3 เดือน ตอนนั้นจ่ายค่าโค้กแต่ละเดือนเป็นพัน เงินเหลือเพราะดื่มไม่ได้ จึงคิดว่า เมื่อไม่ได้กิน ก็ซื้อเก็บ เริ่มหาความรู้ว่าเขาเก็บอะไรกันบ้าง ไปเดินห้าง เจอโค้กกระป๋องที่เคยซื้อมาดื่มตอนเด็กราวสิบบาท เขาขายกันกว่า 500 บาท ยิ่งรู้สึกว่าน่าสนใจ สำหรับผมการสะสม ทำให้ได้มิตรภาพ จากประสบการณ์อันเหลือเชื่อ ที่เราได้จากเรื่องการสะสมกระป๋องโค้กกับนักสะสมต่างชาติ รู้จักกันทาง อีเมลล์ คุยกันเรื่องสะสมกระป๋อง พอมีโอกาสได้เดินทางไปนิวซีแลนด์ ปรากฎว่าเขามารับที่โรงแรม พาไปดูห้องเก็บของ ที่มีกระป๋องกว่า 6,000 ใบ เราได้แลกกระป๋องของไทยกับนิวซีแลนด์กัน ถ้าเราคิดจะสะสมกระป๋องจากทั่วโลก จะสำเร็จไม่ได้ ถ้าไม่มีเพื่อน นอกจากนี้การสะสมยังทำให้ได้รับความรู้ เพราะกระป๋องแต่ละใบมีบันทึกเหตุการณ์และวาระสำคัญต่างๆ กัน การสะสมเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตวันนี้ ถ้าพูดถึงคุณค่าแล้ว แต่ละชิ้นมีมาก ณ วันนี้ แม้จะมีของสะสมกว่า 5000 ชิ้น แต่ก็จดจำได้หมดว่า ได้จากใคร ได้มาอย่างไร ในโอกาสอะไร”
นัฐ พันธุ์เสงี่ยม เจ้าของกิจการบริษัทจัดหาคนงาน เผยว่า “สะสมของโค้กมากว่า 15 ปีแล้ว ไม่ว่าจะเป็นกระป๋อง ขวด ป้าย แผ่นโฆษณา ปกติก็เป็นคนชอบดื่มโค้กด้วย ช่วงที่กระป๋องออกลายตามราศีต่างๆ ก็เห็นถึงความแตกต่าง เห็นถึงเสน่ห์ เริ่มเก็บ และรู้สึกว่าเป็นมิติเวลาแห่งความสุข หลังจากตรากตรำทำงานทั้งวัน แถมยังเป็นสิ่งชักชวน ให้รับรู้ถึงประวัติศาสตร์ความเป็นมา พอรักแล้วก็อยากจะค้นคว้า ตอนนี้ชิ้นที่ชื่นชม เป็นเคาน์เตอร์ไม้ขายโค้กที่มีป้ายโฆษณาเมื่อครั้งออกขวดใหญ่มาแล้ว แสดงให้เห็นถึงความคุ้มค่าประหยัดถึง 72 สตางค์ ภายในกลวงเป็นที่เก็บลังโค้กได้พอเจาะพอดี เห็นว่าเป็นผลงานทรงคุณค่า เพราะผู้สร้างตั้งใจเลือกสรรวัตถุดิบ ประณีตในการทำ เพราะเคาน์เตอร์ไม้อายุกว่า 40 ปี ยังคงสภาพที่สมบูรณ์มาก วันนี้เราก็เก็บรักษาเป็นอย่างดี เพราะคุณค่าในตัวของมันเอง”
นอกจากนี้ ยังมีโซนประวัติศาสตร์ไทยน้ำทิพย์ ที่นำเสนอรายละเอียดของการก่อตั้ง และ 50 ปีที่มอบความสุขให้คนไทยอย่างต่อเนื่อง โซนพิเศษ เกี่ยวกับการสนับสนุนในเรื่องกีฬา โดยเฉพาะการสนับสนุนทีมฟุตบอลลิเวอร์พูลของอังกฤษ โซนของที่ระลึก ให้ได้เลือกซื้อราคาตั้งแต่ 15-270 บาท ซึ่งรายได้ส่วนหนึ่งมอบให้กับมูลนิธิไทยน้ำทิพย์ รวมถึงโซนเกมต่างๆ ที่เป็นกิจกรรมซ่าส์อย่างสร้างสรรค์อีกด้วย
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ แม็กซิม่า คอนซัลแตนท์ โทร 02-434-8320, 02434-8547 สุจินดา, แสงนภา, ปนัดดา