มูลนิธิไทยคมได้จัดพิธีมอบทุนการศึกษา สำหรับผู้ที่ส่งเรียงความเข้าประกวดในหัวข้อ “อนาคตประเทศไทยที่ฉันฝัน” ชิงทุนการศึกษา 1,030 ทุน รวม 6,600,000 บาท พร้อมกับรวบรวมความฝันของเด็กและเยาวชนเกือบ 14,000 เรื่อง เพื่อสะท้อนว่าฝันอยากเห็นอนาคตของไทยในด้านใดมากที่สุด
คุณยิ่งลักษณ์ ชินวัตร กรรมการและเลขานุการ มูลนิธิไทยคม เปิดเผยว่า มีเด็กและเยาวชนไทยจากทั่วประเทศส่งผลงานเข้าร่วมจำนวน 13,762 เรื่อง แบ่งเป็นภาคเหนือจำนวน 3,655 ผลงาน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 4,484 ผลงาน ภาคกลาง 5,031 ผลงาน และภาคใต้ 592 ผลงาน
จากเนื้อหาของเรียงความที่ส่งเข้าประกวดในครั้งนี้ พบว่า อันดับ 1 ซึ่งมีสัดส่วนสูงมาก คิดเป็น 57.85% จากจำนวนผลงานที่ส่งเข้ามาทั้งหมด เป็นความฝันที่ต้องการเห็นความรักสามัคคี ปรองดองกันของคนในชาติ เนื่องจากมองว่าความขัดแย้งของคนในชาติที่ผ่านมาทำให้ประเทศชาติเสียหาย อันดับ 2 คิดเป็นสัดส่วน 15.29% อยากเห็นเศรษฐกิจไทยเติบโตอย่างมั่นคง โดยส่วนหนึ่งจะเชื่อมโยงเข้ากับหลักเศรษฐกิจพอเพียง อันดับ 3 ได้แก่ อยากให้เน้นเรื่องการปลูกฝังคุณธรรม จริยธรรม คิดเป็น 8.42% อันดับ 4 อยากเห็นการพัฒนาด้านการศึกษาของไทยให้มีความเท่าเทียม มีแหล่งเรียนรู้การศึกษาเพิ่มขึ้น และเครื่องมือสื่อการสอนที่มีความทันสมัย คิดเป็น 6.51% อันดับ 5 ฝันอยากให้คนไทยเห็นความสำคัญของระบอบประชาธิปไตย โดยไม่ต้องการเห็นการปฎิวัติเกิดขึ้นในประเทศอีก คิดเป็น 5.77% ที่เหลืออีก 6.16% เป็นความฝันในเรื่องอื่นๆ ได้แก่ เรื่องสิ่งแวดล้อม วัฒนธรรม ประเพณี เป็นต้น
คุณยิ่งลักษณ์ กล่าวด้วยว่า ผลงานของเด็กและเยาวชนที่เขียนถึง อนาคตประเทศไทยที่ฉันฝันเกือบ 14,000 ชิ้นนี้ ถือเป็นกลุ่มตัวอย่างที่สามารถใช้เป็นกระจกสะท้อนความคิดเห็นมุมมองของปัญหาที่เด็กและเยาวชนไทยทั้งประเทศ ที่มีความกังวลต่ออนาคตของประเทศไทย โดยเฉพาะเรื่องของการเรียกร้องให้เกิดความรัก ความสามัคคีของคนในชาติ ที่เด็กอยากให้ผู้ใหญ่ในบ้านเมืองเร่งสร้างความสมานฉันท์ในหมู่คนไทยกลับคืนมา รวมถึงปัญหาเรื่องเศรษฐกิจที่เป็นปัญหาเรื่องปากท้อง ขณะที่ปัญหาเรื่องการศึกษา แม้ว่าจะเป็นอันดับที่ 4 แต่สะท้อนให้เห็นว่า เด็กและเยาวชนไทยจำนวนมากยังขาดโอกาสทางการศึกษา เครื่องมือสื่อการสอนที่มีความเท่าเทียมกันระหว่างเด็กในชนบทกับเด็กในเมือง
ทั้งนี้ แนวทางการดำเนินงานของมูลนิธิไทยคมที่ผ่านมาได้มุ่งสนับสนุนและส่งเสริมการศึกษาแก่เด็กและเยาวชนของไทยให้มีความเสมอภาค และได้รับโอกาสทางการศึกษา นำไปพัฒนาองค์ความรู้ที่เป็นประโยชน์ต่อตนเอง ครอบครัว สังคม และทำให้เด็กไทยรู้จักคิดเป็น ทำเป็น มีความสามารถแข่งขันในเวทีโลกได้ โดยมูลนิธิไทยคมได้ให้การสนับสนุนให้ความช่วยเหลือด้านการศึกษาของไทยอย่างต่อเนื่องทุกปี
กรรมการและเลขานุการ มูลนิธิไทยคม กล่าวด้วยว่า สำหรับผลการประกวดการเขียนเรียงความชิงทุนการศึกษานั้น ผู้ที่ชนะเลิศในระดับประถมศึกษา ได้แก่ ดช.นนท์ธวัช หงส์พันธุ์ จากโรงเรียนอนุบาลทิพยาหล่มสัก จังหวัดเพชรบูรณ์, ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น ได้แก่ ดญ.ศศิธร โชคบัณฑิต จากโรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยราชภัฎนครปฐม จังหวัดนครปฐม, ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย ได้แก่ นายเขตภากร ชาครเวท จากโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา จังหวัดกรุงเทพฯ, ระดับอุดมศึกษาได้แก่ นายนรินทร์ จันทะคาม จากมหาวิทยาลัยขอนแก่น จังหวัดอุบลราชธานี และระดับบุคคลทั่วไป ได้แก่ นายยุรนันท์ เขียว จากจังหวัดกรุงเทพฯ โดยผู้ชนะเลิศแต่ละระดับจะได้รับทุนการศึกษาคนละ 50,000 บาท นอกจากนี้ ยังมีรางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 อีก 10 ทุน ระดับละ 2 ทุนๆ ละ 20,000 บาท และรองชนะเลิศอันดับ 2 อีก 15 ทุน ระดับละ 3 ทุนๆ ละ 10,000 บาท ส่วนที่เหลือเป็นรางวัลชมเชยอีกระดับละ 200 ทุน รวมเป็น 1,000 ทุนๆ ละ 6,000 บาท
ในส่วนของรางวัลชมเชยนั้น มูลนิธิไทยคมได้เตรียมที่จะไปมอบทุนการศึกษาให้กับผู้ที่ได้รับรางวัลชมเชยจากการเข้าร่วมโครงการในครั้งนี้ ในภูมิภาคต่างๆ ได้แก่ ภาคเหนือ วันที่ 31 กรกฎาคม ที่จังหวัดเชียงใหม่ ภาคใต้ วันที่ 4 สิงหาคม ที่จังหวัดภูเก็ต และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ วันที่ 7 สิงหาคม ที่จังหวัดอุดรธานี
ข้อมูลเพิ่มเติม แผนกสื่อสารและประชาสัมพันธ์มูลนิธิไทยคม
คุณราชาวดี วิทยาวงศ์กุล (เปิ้ล) โทร. 02 668 1719- 23 ต่อ 6323
คุณอภิพล เสียงใส (กุ๊กกู๋) โทร. 02 668 1719 -23 ต่อ 6326