นางพรทิวา นาคาศัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า จากผลกระทบของวิกฤติทางการเงินทั่วโลกส่งผลให้เกิดการชะลอโดยตรงต่อความต้องการสั่งซื้อสินค้าของผู้นำเข้าจากทั่วทุกมุมโลก จนทำให้ประเทศที่ส่งออกสินค้าไปยังตลาดต่างประเทศ เกิดการแข่งขันกันอย่างรุนแรงเพื่อรักษายอดการส่งออกของประเทศตนเองให้อยู่ในระดับเดิมหรือเพิ่มมากขึ้น อย่างไรก็ดีจากผลกระทบดังกล่าวกระทรวงพาณิชย์ในฐานะที่เป็นหน่วยงานที่มีหน้าที่โดยตรงต่อการมุ่งส่งเสริมและพัฒนาธุรกิจการค้า การส่งออกของไทย จึงได้กำหนดจัดโครงการ Thailand Best Friend (TBF) ขึ้น ในระหว่างวันที่ 3-8 สิงหาคม 2552 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นโครงการหนึ่งในนโยบายการกระตุ้นเศรษฐกิจของกระทรวงพาณิชย์ เพื่อสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับคู่ค้าหรือผู้ซื้อสินค้าไทยในต่างประเทศ ประกอบกับต้องการสร้างความภาคภูมิใจให้กับกลุ่มคู่ค้าเหล่านั้นในฐานะคู่ค้าสำคัญของประเทศไทย โดยได้รับเกียรติยกย่องให้เป็นแขกคนสำคัญผ่านโครงการ Thailand Best Friend (TBF)
สำหรับการพิจารณาคุณสมบัติคู่ค้าที่เข้าร่วมโครงการครั้งนี้กระทรวงพาณิชย์ได้ดำเนินการคัดเลือกผู้ส่งออกในแต่ละหมวดสินค้าที่ส่งออกสูงเป็นอันดับ 1-3 ในปี 2552 ของแต่ละอุตสาหกรรมครอบคลุม กลุ่มสินค้าประมง / ปศุสัตว์ ,กลุ่มสินค้าเกษตร ,กลุ่มสินค้าไลฟ์สไตล์ ,กลุ่มสินค้าแฟชั่น สินค้าอุตสาหกรรมหนัก,ธุรกิจบริการ โดยให้ผู้ส่งออกที่ได้รับการคัดเลือกแต่ละราย เสนอชื่อลูกค้าของตนเองที่ซื้อสินค้าสูงสุดอันดับ 1 — 3 เพื่อเข้ารับสิทธิพิเศษในโครงการ Thailand Best Friend (TBF) และจากนั้นได้มอบสิทธิพิเศษต่างๆ ให้เฉพาะคู่ค้าที่ได้รับเกียรติในโครงการ ซึ่งสิทธิพิเศษที่คู่ค้ารายสำคัญได้รับจะมีอายุ 2 ปี โดยจัดส่งจดหมายเชิญผู้ผ่านการคัดเลือกเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการ เพื่อรับมอบเกียรติบัตรในฐานะเป็นคู่ค้ารายสำคัญ จาก ฯพณฯ นายกรัฐมนตรี นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ตลอดจนเยี่ยมชมอุตสาหกรรมประเภทต่างๆ ของไทย และทัศนศึกษาแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญภายในประเทศไทย เพื่อสร้างความประทับใจในฐานะแขกคนสำคัญของประเทศไทย
โครงการ Thailand Best Friend (TBF) ถือเป็นการนำกลยุทธ์ Customer Relation Management (CRM) มาใช้ เพื่อทำให้ผู้นำเข้ารายใหญ่จากต่างประเทศเกิดความภูมิใจในการสั่งซื้อสินค้าไทย โดยการจัดงานในครั้งนี้ กรมส่งเสริมการส่งออก กระทรวงพาณิชย์ ได้เชิญผู้นำเข้าสินค้าและบริการรายสำคัญที่มีศักยภาพในทุกอุตสาหกรรมจากทั่วโลก จำนวน 53 ราย เป็นแขกรับเชิญพิเศษเดินทางมายังประเทศไทย โดยกระทรวงพาณิชย์เตรียมให้การต้อนรับอย่างอบอุ่นตลอดการเดินทางและพำนักในประเทศไทย รวมถึงได้สัมผัสสินค้าที่มีคุณภาพของไทยจนเกิดความประทับใจในมาตรฐานสินค้าและบริการของคนไทย และเพื่อขยายผลในการเพิ่มโอกาสในการสั่งซื้อสินค้าประเภทอื่นๆ ของไทยในอนาคตอีกด้วย
จากปัจจุบันกลุ่มผู้ค้าเหล่านี้ได้มีการนำเข้าสินค้าของไทย คิดเป็นมูลค่าประมาณ 80,000 ล้านบาทต่อปี ครอบคลุมสินค้าในทุกประเภทอุตสาหกรรม ได้แก่ ประมง/ปศุสัตว์ กลุ่มสินค้าเกษตร กลุ่มสินค้าไลฟ์สไตล์ กลุ่มสินค้าแฟชั่น กลุ่มสินค้าอุตสาหกรรมหนัก และกลุ่มธุรกิจบริการ เป็นต้น การกำหนดจัดโครงการ Thailand Best Friend (TBF) ขึ้นเป็นครั้งแรกนี้กระทรวงพาณิชย์ คาดว่าผลสำเร็จที่จะได้รับจากการจัดโครงการดังกล่าวจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจทุกภาคส่วนของประเทศ และสามารถทดแทนกำลังซื้อที่หายไป ผ่านยอดการสั่งซื้อสินค้าที่เพิ่มสูงขึ้นจากกลุ่มผู้นำเข้ารายใหญ่นี้ อีกไม่น้อยกว่าร้อยละ 10 หรือ ประมาณ 8,000 ล้านบาท ในระยะแรกนี้
นอกจากนี้ กระทรวงพาณิชย์ ได้ร่วมกับผู้ประกอบการและหน่วยงานต่างๆ อาทิ การท่าอากาศยานแห่งประเทศไทย บริษัท สยามพิวรรธน์ จำกัด โรงพยาบาล และร้านค้าต่างๆ ในการมอบสิทธิประโยชน์ให้กับผู้ถือ TBF CARD ซึ่งเป็นบัตรเอกสิทธิเหนือระดับ (First Class) และโปรโมชั่นแบบเอ็กซ์คลูซีฟ ประกอบด้วยการมอบบริการพิเศษ ดังนี้
- Very Important Zone หรือ VIZ ให้ส่วนลดพิเศษจากพันธมิตรทางธุรกิจชั้นนำของประเทศ อาทิ โรงแรมและรีสอร์ทสุดหรู ร้านอาหารยอดนิยม สปา ฟิตเนสคลับระดับห้าดาว สนามกอล์ฟชั้นนำ โรงพยาบาล และร้านค้าต่างๆของศูนย์การค้าชั้นนำกว่า 300 ร้านค้า และธุรกิจบริการ กว่า100 แห่ง
- ร่วมกับ การท่าอากาศยานแห่งประเทศไทย สุวรรณภูมิ มอบสิทธิพิเศษ Fast Lane แก่ผู้ถือบัตรที่แจ้งล่วงหน้า ในการผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองระดับ VVIP จากการท่าอากาศยานแห่งประเทศไทยเมื่อจะเดินทางมาประเทศไทย โดยไม่ต้องเสียเวลากับการเข้าคิวตรวจคนเข้าเมือง
- บริการพิเศษ Hotline จากกระทรวงพาณิชย์ โทร. 1169 ทุกเรื่องฉุกเฉิน และไม่ฉุกเฉิน อุ่นใจตลอดการเดินทางและขณะพำนักที่ประเทศไทย เสมือนมีเลขาส่วนตัวทุกครั้งที่เยือนประเทศไทย