ทีมที่ได้รับรางวัลรองชนะเลิศและรางวัลอื่น ๆ มีดังต่อไปนี้
ทีมแอร์ ฟอร์ซ ทู (Air Force II) จากโรงเรียนนายเรืออากาศ ได้รับรางวัลรองชนะเลิศ เงินรางวัล 200,000 บาทและโล่ห์เกียรติยศ
ทีมอะไรฟว์-ทู (Arrive-II) จากมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง ได้รับรางวัลเทคนิคยอดเยี่ยม เงินรางวัล 50,000 บาท และโล่ห์เกียรติยศ
ทีมผักชี จากสถาบันเทคโนโลยีแห่งเอเชีย (เอไอที) ได้รับรางวัลความคิดสร้างสรรค์ เงินรางวัล 50,000 บาทและโล่ห์เกียรติยศ
ทีม ดั๊ค ไรเดอร์ส (Duck Riders) จากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ ได้รับรางวัลออกแบบประหยัดพลังงานยอดเยี่ยม เงินรางวัล 50,000 บาทและโล่ห์เกียรติยศ
ดร. คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กล่าวว่า “กระทรวง วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีชื่นชมความพยายามของสมาคมวิชาการหุ่นยนต์ไทย สถาบันเทคโนโลยีแห่งเอเซีย (เอไอที) และบริษัทซีเกท เทคโนโลยี (ประเทศไทย) จำกัด ในการจัดการแข่งขันสร้างรถอัจฉริยะชิงแชมป์ประเทศไทย อย่างต่อเนื่องเป็นปีที่สาม การแข่งขันนี้เป็นเวทีที่เป็นประโยชน์ในการพัฒนาศักยภาพทางด้านเทคโนโลยี เช่น การสร้างรถอัจฉริยะไร้คนขับของไทย นอกจากนี้ การแข่งขันยังสอดคล้องกับนโยบายของกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ในการสร้างเวทีสำหรับเยาวชนไทยเพื่อการพัฒนาหุ่นยนต์ อันนำมาซึ่งการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ”
“การแข่งขันสร้างรถอัจฉริยะชิงแชมป์ประเทศไทยมีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาความคิดสร้างสรรค์ และความชำนาญของนิสิตนักศึกษาไทยในสาขาเทคโนโลยีหุ่นยนต์ ระบบอัตโนมัติและยานยนต์ การแข่งขันนี้สนับสนุน การทำกิจกรรมนอกหลักสูตรและเตรียมความพร้อมให้กับมหาวิทยาลัยต่าง ๆ ในประเทศไทยในการทำโครงการ รถอัจฉริยะ” ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร. จักรกฤษณ์ ศุทธากรณ์ นายกสมาคมวิชาการหุ่นยนต์ไทย กล่าว “เราได้เห็นว่าเยาวชนไทยได้พัฒนาศักยภาพในการสร้างรถอัจฉริยะไร้คนขับอย่างรวดเร็ว โดยพวกเขาได้รับความรู้เกี่ยวกับหุ่นยนต์และเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องต่าง ๆ เป็นอย่างดี ด้วยการสนับสนุนจากหน่วยงานภาครัฐและเอกชนอย่างต่อเนื่อง โครงการนี้จะก่อให้เกิดประโยชน์แก่สังคมต่อไป”
ศาสตราจารย์ วรศักดิ์ กนกนุกูลชัย รองอธิการบดีสถาบันเทคโนโลยีแห่งเอเซีย กล่าวว่า กิจกรรมการแข่งขันหุ่นยนต์ถือเป็นกิจกรรมที่มีประโยชน์ เป็นกิจกรรมที่มีการปฏิบัติจริง นอกเหนือไปจากสิ่งที่จะได้จาก ตำราเรียน ผมเชื่อว่านักศึกษาที่ได้เข้าร่วมการแข่งขันจะได้พัฒนาความรู้ความสามารถและเพิ่มศักยภาพ ทำให้เขาเหล่านี้เป็นกำลังที่สำคัญขององค์กร หรือหน่วยงาน ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อความสามารถในการแข่งขันของประเทศโดยตรง
สำหรับการแข่งขันสร้างรถอัจฉริยะนั้นเป็นการแข่งขันที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูงซึ่งเป็นเทคโนโลยีเดียวกับที่กำลังถูกค้นคว้าใช้ในห้องวิจัย ในวันนี้พวกเราในที่นี้จะมีโอกาสได้เห็นการนำเทคโนโลยีมาใช้จริง พร้อมกับความสนุกสนานของบรรยากาศการแข่งขัน
รองศาสตราจารย์ ดร. มนูกิจ พานิชกุล ประธานคณะกรรมการจัดการแข่งขันสร้างรถอัจฉริยะชิงแชมป์ประเทศไทย 2552 และ อาจารย์ประจำภาควิชาเมคาโทรนิคส์ คณะวิศวกรรมศาสตร์และเทคโนโลยี สถาบันเทคโนโลยีแห่งเอเซีย (เอไอที) กล่าวว่า “การคัดเลือกทีมแชมป์ประเทศไทยมีความท้าทายมากเนื่องจากเราได้เห็น แต่ละทีมได้พยายามอย่างสุดความสามารถและมีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์เป็นอย่างมากในการออกแบบรถอัจฉริยะไร้คนขับ”
ในการแข่งขันรอบชิงชนะเลิศ รถอัจฉริยะจำนวน 2 คัน ได้ลงแข่งขันในสนามเดียวกัน โดยจุดที่ปล่อยรถซึ่ง ห่างกัน 100 เมตร คณะกรรมการตัดสินทีมที่ชนะ โดยพิจารณาจากทีมที่วิ่งได้ระยะทางรวมไกลที่สุด ระยะทางรวมเป็นระยะทางที่รถวิ่งจริงรวมกับระยะทางโบนัสอันเนื่องมาจากการหลบหลีกสิ่งกีดขวาง คะแนนจากการแข่งขันในรอบคัดเลือกและรอบชิงชนะเลิศได้ถูกนำมาพิจารณาในการคัดเลือกทีมชนะเลิศ
“ผลงานของทีมชนะเลิศจากสถาบันเทคโนโลยีแห่งเอเชีย (เอไอที) มีความเยี่ยมยอดมาก สมาชิกของทีมประสบความสำเร็จ เพราะพวกเขาได้นำหลักการต่าง ๆ ที่พวกเขาได้เรียนรู้มาปรับใช้ในสิ่งประดิษฐ์ของพวกเขา นี่เป็นสิ่งที่พิสูจน์ให้เห็นความพยายามอย่างหนักและความสำเร็จจากการร่วมมือทำงานกันเป็นทีม ซึ่งมีความสำคัญมากในชีวิตการทำงาน
คณะผู้จัดการแข่งขันและซีเกทพบว่า มาตรฐานผลงานของนิสิตนักศึกษามีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องทุกปี เราหวังว่าจะมีนิสิต นักศึกษาไทยจำนวนมากขึ้นที่ศึกษาต่อในด้านวิทยาศาสตร์ วิศวกรรมศาสตร์ คณิตศาสตร์และเทคโนโลยีเพื่อช่วยทำให้เราสามารถใช้เทคโนโลยีหุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติในการทำงานให้สะดวกรวดเร็วมากและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น และที่สำคัญการทำงานเหล่านั้นจะต้องก่อมลภาวะที่น้อยที่สุดเพื่อรักษาโลกของเราให้สะอาด และทำให้ผู้คนมีสุขภาพอนามัยดีและปลอดภัยมากขึ้น” นายเจฟฟรี่ย์ ดี ไนการ์ด รองประธานและผู้จัดการประจำประเทศไทย บริษัท ซีเกท เทคโนโลยี (ประเทศไทย) จำกัด กล่าว “การแข่งขันนี้ลักษณะนี้มีความสำคัญและจำเป็นต่อการพัฒนาเยาวชนและนิสิต นักศึกษา ที่เขาได้เรียนรู้ว่าในขณะที่พวกเขาควบคุมสิ่งที่พวกเขาได้เรียนรู้ พวกเขาสามารถก้าวไปยังการวิจัยและวันหนึ่งในอนาคต พวกเขาจะสามารถประดิษฐ์สิ่งต่าง ๆ ได้ด้วยตนเอง”
1) บทสัมภาษณ์ทีมรถอัจฉริยะไร้คนขับ “ทีมขึ้นช่าย — สถาบันเทคโนโลยีแห่งเอเชีย (เอไอที) ซึ่งได้รับรางวัลชนะเลิศ
รายชื่อสมาชิกในทีม
1. นายเมธี ศรีสุพรรณดิฐ ภาควิชาเมคาโทรนิกส์ คณะวิศวกรรมศาสตร์และเทคโนโลยี
2. นายนัศรีย์ เบนาลี ภาควิชาเมคาโทรนิกส์ คณะวิศวกรรมศาสตร์และเทคโนโลยี
3. นายสมพงษ์ ทานอก ภาควิชาเมคาโทรนิกส์ คณะวิศวกรรมศาสตร์และเทคโนโลยี
1. มีการเตรียมความพร้อมสำหรับการแข่งขันในรอบชิงชนะเลิศและพัฒนาจุดเด่นของรถอย่างไรบ้าง
ทางทีมได้เขียนซอฟท์แวร์ควบคุมความเร็วของรถให้เพิ่มขึ้นจาก 10 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เป็น 40 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ตลอดจนพัฒนาซอฟท์แวร์ควบคุมการแล่นของรถตามเส้นทางได้อย่างแม่นยำยิ่งขึ้น การพัฒนาฮาร์ดแวร์ที่ทำเพิ่มเติมคือส่วนที่ควบคุมระบบเบรกและระบบควบคุมส่วนที่เร่งความเร็วของเครื่องยนต์ นอกจากนี้ ทางทีมยังทำวงจรไฟฟ้าขึ้นใหม่ แก้ปัญหาสัญญาณรบกวนและติดตั้งกล้องเว็บแคมเพิ่มจุดเด่นของทีมที่ให้สามารถเอาชนะคู่แข่ง คือความเร็วของรถ การเคลื่อนไหวอย่างมีเสถียรภาพ และการที่รถขับเคลื่อนเหมือนกับมีคนขับจริง
2. ในการเข้าร่วมการแข่งขันสร้างรถอัจฉริยะไร้คนขับ รอบชิงชนะเลิศ น้อง ๆ ได้มีการปรับใช้ความรู้ที่ได้เรียนมาในการพัฒนารถอย่างไรบ้าง
ทางทีมได้ปรับใช้ความรู้จากวิชาคอนโทรล เพื่อควบคุมรถ ทำให้รถอยู่ในเส้นทาง สามารถเลี้ยวและหลบหลีกสิ่งกีดขวางได้ นอกจากนี้ พวกเรายังปรับใช้ความรู้จากวิชาอิเล็กทรอนิกส์ ในการติดตั้งและพัฒนาอุปกรณ์ต่าง ๆ สำหรับรถอัจฉริยะไร้คนขับ เช่น มอเตอร์ เข็มทิศ จีพีเอส เป็นต้น
3. น้อง ๆ คิดว่าการเข้าร่วมการแข่งขันฯ ในครั้งนี้ ได้ช่วยพัฒนาทักษะของน้อง ๆ ซึ่งจะมีผลต่อการศึกษาต่อในระดับสูงขึ้นตลอดจนการทำงานในอนาคตในด้านใดบ้าง
หลังจากการเข้าร่วมการแข่งขันสร้างรถอัจฉริยะไร้คนขับ สมาชิกในทีมมีความสนใจในการศึกษาต่อด้านการพัฒนารถอัจฉริยะเพราะเราได้พบว่าการพัฒนารถอัจฉริยะไร้คนขับมีความท้าทายและสนุกสนานมาก
2) บทสัมภาษณ์ทีมรถอัจฉริยะไร้คนขับ “แอร์ ฟอร์ซ ทู — โรงเรียนนายเรืออากาศ ซึ่งได้รับรางวัล รองชนะเลิศ
รายชื่อสมาชิกในทีม
1. นักเรียนนายเรืออากาศ จักรพันธุ์ ขาวสำรวย
2. นักเรียนนายเรืออากาศ สิทธิชัย นาคประเสริฐ
3. นักเรียนนายเรืออากาศ สถาพร อยู่เย็น
1. มีการเตรียมความพร้อมสำหรับการแข่งขันในรอบชิงชนะเลิศและพัฒนาจุดเด่นของรถอย่างไรบ้าง
ทีมแอร์ ฟอร์ซ ทู ได้เพิ่มความเร็วของรถ โดยทำให้รถสามารถวิ่งได้เร็ว 25 กิโลเมตรต่อชั่วโมงในทางตรงและ 15 กิโลเมตรต่อชั่วโมงในทางโค้ง ขยายตัวรับสัญญาณจีพีเอส โดยเปลี่ยนมาใช้จีพีเอสสำหรับใช้ในเครื่องบินซึ่งมีความละเอียดสูง นอกจากนี้ เรายังเพิ่มกันชนของรถทั้งด้านหน้าและด้านหลัง เนื่องจากความเร็วสูงขึ้น หากมีการชนกับสิ่งกีดขวางจะแรงขึ้นทำให้รถอาจเกิดความเสียหายได้ ดังนั้น จึงต้องมีการติดตั้งกันชนที่แข็งแรง ทนทาน เรายังปรับปรุงการหลบหลีกสิ่งกีดขวางของรถ โดยแบ่งออกเป็น 3 เลนคือ ซ้าย กลาง ขวา เพื่อให้รถสามารถหลบหลีกสิ่งกีดขวางได้อย่างมีประสิทธิภาพ เช่น ถ้าสิ่งกีดขวางตั้งอยู่ตรงกลาง รถก็จะเคลื่อนไหวไปทางเลนซ้ายหรือเลนขวา เป็นต้น
2. ในการเข้าร่วมการแข่งขันสร้างรถอัจฉริยะไร้คนขับ รอบชิงชนะเลิศ น้อง ๆ ได้มีการปรับใช้ความรู้ที่ได้เรียนมาในการพัฒนารถอย่างไรบ้าง
ทางทีมได้นำวิชาการเขียนโปรแกรมคอนโทรลมาใช้ในการควบคุมรถ นอกจากนี้ เมื่อพบว่ารถมีปัญหาเรื่องโครงสร้าง ก็ได้ใช้วิชาเครื่องกลปรับปรุงแก้ไขได้ดียิ่งขึ้น เรายังดาวน์โหลดข้อมูลเกี่ยวกับอุปกรณ์ต่าง ๆ เช่น มอเตอร์ควบคุมล้อ เบรก และโปรแกรมคอมพิวเตอร์ มาจากเว็บไซต์ด้วย
3. น้อง ๆ คิดว่าการเข้าร่วมการแข่งขันฯ ในครั้งนี้ ได้ช่วยพัฒนาทักษะของน้อง ๆ ซึ่งจะมีผลต่อการศึกษาต่อในระดับสูงขึ้นตลอดจนการทำงานในอนาคตในด้านใดบ้าง
สมาชิกในทีมที่สนใจเรื่องโปรแกรมคอนโทรล ก็จะศึกษาต่อในระดับปริญญาโทด้านคอนโทรล นอกจากนี้ บางคนก็สนใจที่จะทำงานเป็นนักวิจัยของกองทัพ โดยการใช้ระบบคอนโทรล เช่น การติดตั้งกล้องเข้าไปที่เครื่องเฮลิคอปเตอร์ แล้วเขียนโปรแกรมควบคุม
สมาคมวิชาการหุ่นยนต์ไทย ก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2543 โดยกลุ่มบุคคลที่มีความสนใจและดำเนินงานเกี่ยวข้องกับ วิศวกรรมหุ่นยนต์ อันประกอบไปด้วย นักวิชาการ นักวิจัย และนักอุตสาหกรรม มีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมและ เผยแพร่ความรู้และความเข้าใจในวิทยาการด้านหุ่นยนต์ จัดกิจกรรมการปฏิบัติงานทางวิชาการ เพื่อพัฒนาความรู้ และเทคโนโลยีด้านหุ่นยนต์ เป็นศูนย์กลางทางด้านข่าวสารในวิทยาการใหม่ ๆ ของหุ่นยนต์ ทั้งในประเทศและ ต่างประเทศและสร้างเครือข่ายนักวิจัยและวิชาการเพื่อส่งเสริมการศึกษาในระดับบัณฑิตศึกษา ในสาขาหุ่นยนต์ และวิศวกรรมอัตโนมัติ ท่านสามารถติดต่อสมาคมวิชาการหุ่นยนต์ไทยได้ที่ โทร. 0-2889-2138 ต่อ 6446 หรือเว็บไซต์ www.trs.or.th
บริษัทซีเกท
ซีเกทคือผู้นำทั่วโลกในการออกแบบ การผลิตและการตลาดฮาร์ดดิสก์ไดรฟ์และโซลูชั่นสำหรับบันทึกข้อมูล จากการนำเสนอผลิตภัณฑ์สำหรับระบบปฏิบัติการต่าง ๆ รวมทั้งองค์กร เครื่องคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ เครื่องคอมพิวเตอร์มือถือ (Mobile Computing) อุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้า (Consumer Electronics) และโซลูชั่นที่มียี่ห้อ (Branded Solutions) รูปแบบการดำเนินธุรกิจของซีเกทช่วยเสริมสร้างความเป็นผู้นำทางด้านเทคโนโลยีและการผลิตระดับโลก เพื่อส่งมอบผลิตภัณฑ์ที่มีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์และมีคุณภาพในระดับชั้นนำของอุตสาหกรรมไปยังลูกค้าทั่วโลก ด้วยเป้าหมายในการเป็นผู้นำในการนำผลิตภัณฑ์ออกสู่ตลาดเป็นรายแรกในตลาดทั้งหมดที่เรามีส่วนร่วม บริษัทฯ มีความมุ่งมั่นในการส่งมอบผลิตภัณฑ์ที่ได้รับรางวัล การให้การสนับสนุนแก่ลูกค้าและมีความน่าเชื่อถือเพื่อตอบสนองความต้องการบันทึกข้อมูลที่เพิ่มขึ้นตลอดเวลาในโลก ท่านสามารถพบซีเกทได้ทั่วโลกและค้นหาข้อมูลซีเกทเพิ่มเติมที่ www.seagate.com
บรรยายภาพ: สมาชิกทีมขึ้นช่าย จากสถาบันเทคโนโลยีแห่งเอเชีย (เอไอที) โพสต์ท่าสุดเท่กับรถอัจฉริยะ ไร้คนขับของพวกเขาซึ่งได้รับรางวัลชนะเลิศ ในการแข่งขันสร้างรถอัจฉริยะชิงแชมป์ประเทศไทย 2552 (Thailand Intelligent Vehicle Challenge 2009)
ข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ รศ. ดร. มนูกิจ พานิชกุล โทรศัพท์ 0-2524-5229 Email: [email protected]
หรือนางสาวขวัญจิต สุดสวัสดิ์ ผู้จัดการอาวุโสฝ่ายประชาสัมพันธ์ บริษัทซีเกท เทคโนโลยี (ประเทศไทย) จำกัด
โทรศัพท์ 0-2715-2919 Email: [email protected]