สภากทม. แนะแต่งตั้งโยกย้ายบุคลากรให้พิจารณาความเหมาะสม

จันทร์ ๐๓ สิงหาคม ๒๐๐๙ ๑๖:๓๘
สภากรุงเทพมหานครแนะกทม. จัดสรรบุคลากรให้เหมาะสมกับงาน พร้อมทั้งเร่งให้จัดการเรื่องโอนศูนย์เยาวชนกทม. มาอยู่ในความดูแลของสำนักวัฒนธรรมฯ กทม. ภายใน 3 เดือน รวมทั้งให้เพิ่มประสิทธิภาพระบบป้องกันไวรัสคอมพิวเตอร์ เพื่อเป็นการรักษาความปลอดภัยฐานข้อมูลของกทม. และให้ปรับปรุงโรงรับจำนำของกทม. ให้ทันสมัย เพื่อดึงดูดให้ประชาชน หันมาใช้บริการของกทม. เพิ่มมากขึ้น

นายวิสูตร สำเร็จวาณิชย์ สมาชิกสภากรุงเทพมหานคร เขตลาดกระบัง เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการวิสามัญพิจารณาร่างข้อบัญญัติกรุงเทพมหานคร เพื่อประชุมพิจารณางบประมาณรายจ่ายปีงบประมาณ พ.ศ. 2553 ของหน่วยงานกรุงเทพมหานคร ได้แก่ สำนักงานเลขานุการสภากรุงเทพมหานคร สำนักงานเลขานุการผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร สำนักงบประมาณกรุงเทพมหานคร คณะกรรมการข้าราชการกรุงเทพมหานคร สำนักยุทธศาสตร์และประเมินผล และสำนักการพาณิชย์กรุงเทพมหานคร โดยมี ดร.ประกอบ จิรกิติ และนายธีระชน มโนมัยพิบูลย์ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พร้อมด้วยคณะผู้บริหารกรุงเทพมหานคร และผู้บริหารสำนักที่เกี่ยวข้องร่วมประชุม ณ ห้องประชุม 4—6สภากรุงเทพมหานคร

โดยที่ประชุมคณะกรรมการฯได้ตั้งข้อสังเกตหลายประการ เช่น เช่น การกำหนดหลักเกณฑ์การแต่งตั้งโยกย้ายเจ้าหน้าที่จะต้องพิจารณาให้มีความเหมาะสมกับตำแหน่งงาน และควรการปรับเปลี่ยนแนวคิดใหม่ในการบริหารงานด้านบุคคล เพื่อมุ่งให้เกิดประโยชน์และประสิทธิภาพของการทำงาน นอกจากนี้ควรเร่งดำเนินการโอนย้ายศูนย์เยาวชนให้เข้ามาอยู่ในการดูแลของสำนักวัฒนธรรมกีฬาและการท่องเที่ยวกรุงเทพมหานคร ซึ่งควรดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 3 เดือน และในส่วนของการดำเนินงานสร้างห้องสมุดไอทีในโรงเรียนสังกัดกรุงเทพมหานคร สำนักยุทธศาสตร์ฯ ควรเร่งประสานไปยังสำนักการศึกษาเพื่อรับทราบนโยบายด้านหลักสูตรการศึกษาด้านไอทีเป็นอย่างไร เพื่อจะได้วางระบบให้ตรงกับแนวทางของสำนักการศึกษา ซึ่งจะเป็นห้องสมุดไอทีแห่งแรกเพื่อที่จะใช้เป็นต้นแบบ ในการดำเนินงานในโรงเรียนสังกัดกรุงเทพมหานครต่อไป อีกทั้งการจัดซื้อคอมพิวเตอร์ควรกำหนดคุณสมบัติให้มีความทันสมัย เพื่อความเหมาะสมกับการใช้งานเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพกับหน่วยงานที่มีหน้าที่หลักในการเก็บฐานข้อมูล อีกทั้งขณะนี้เกิดปัญหา ไวรัสคอมพิวเตอร์รบกวนซึ่งสร้างปัญหาให้กับเจ้าหน้าที่ในการใช้งานอย่างมาก จำเป็นต้องหาวิธีการเพิ่มประสิทธิภาพ เพื่อป้องกันและรักษาความปลอดภัยระบบฐานข้อมูลโดยเร่งด่วน และควรจัดสรรเจ้าหน้าที่ให้เพียงพอในการฝึกอบรมให้กับหน่วยงานต่างๆ เพื่อให้เกิดความเข้าใจและปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างถูกต้องและแม่นยำ ซึ่งระบบสารสนเทศหรือคอมพิวเตอร์ถือว่าเป็นหัวใจสำคัญในการบริการประชาชน อีกทั้งสถานโรงรับจำนำของกรุงเทพมหานครมีอยู่ 20 แห่ง ควรจัดสรรงบประมาณในการปรับปรุงให้มีความทันสมัยและสามารถดึงดูดให้ประชาชนมาใช้บริการ และในส่วนของนโยบายที่จะมีการเพิ่มสถานโรงรับจำนำ ควรจัดหาสถานที่ให้มีความเหมาะสมและเป็นประโยชน์ในการให้บริการมากที่สุด

ทั้งนี้ในที่ประชุมคณะกรรมการวิสามัญฯ ได้พิจารณาและตั้งข้อสังเกตการใช้จ่ายงบประมาณของกรุงเทพมหานครกันอย่างกว้างขวาง พร้อมมอบหมายให้ทางหน่วยงานที่ได้รับการพิจารณานำเอกสารเพิ่มเติมมายื่นให้ทางคณะกรรมการฯ เพื่อการพิจารณากลั่นกรองรายละเอียดในการประชุมครั้งต่อไปด้วย

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๗:๑๒ ฉลองเทศกาลตรุษจีนปีงูเล็ก ที่โรงแรมดุสิตธานี กระบี่ บีช รีสอร์ท
๑๗:๐๐ IMPACT เผยปี 68 ข่าวดี! โครงการ Sky Entrance รถไฟฟ้าสายสีชมพูมาตามนัด หนุนทราฟฟิคแน่น - จับมือพาร์ทเนอร์
๑๗:๕๒ อิมแพ็ค เมืองทองธานี ร่วมกับ มูลนิธิเพื่อสิ่งแวดล้อมและสังคม สนับสนุนโครงการ กู้วิกฤตและอนุรักษ์พะยูน ครั้งที่ 2
๑๗:๕๘ แสนสิริ เจ้าตลาดคอนโดแคมปัส อวดโฉม ดีคอนโด วิวิด รังสิต คอนโดใหม่ตรงข้าม ม.กรุงเทพ
๑๖:๔๓ เอ็นไอเอ - สสส. ดึงนิวเจน สรรค์สร้างนวัตกรรมส่งเสริมสุขภาพ ในแคมเปญ The Health Promotion INNOVATION PLAYGROUND
๑๗:๕๘ กรมวิทย์ฯ บริการ เร่งพัฒนาระบบ e-Learning ยกระดับการเรียนรู้ด้านวิทยาศาสตร์ทั่วประเทศ
๑๖:๕๘ เขตจตุจักรกวดขันคนไร้บ้านเชิงสะพานข้ามคลองบางซื่อ สร้างพื้นที่ปลอดภัยสำหรับทุกคน
๑๗:๑๗ เขตพระนครประสานกรมเจ้าท่า-เอกชน เร่งปรับปรุงภูมิทัศน์ท่าเรือสุพรรณเดิม
๑๗:๔๐ กทม. กำชับเจ้าของอาคารตรวจสอบโครงสร้างบันไดเลื่อน เพิ่มความปลอดภัยประชาชน
๑๖:๓๗ แลกเก่าเพื่อโลกใหม่ ช้อปคุ้ม พร้อมลดหย่อนภาษี! 'เปลี่ยนของเก่าเป็นความคุ้ม' ผ่าน Easy E-Receipt ได้ที่โฮมโปร เมกาโฮม