กทม.ระดมความคิดเพิ่มประสิทธิภาพแก้ปัญหายาเสพติดช่วงปีงบประมาณ 52

จันทร์ ๐๓ สิงหาคม ๒๐๐๙ ๑๖:๓๙
นพ.ไกรจักร แก้วนิล รองปลัดกรุงเทพมหานคร เป็นประธานเปิดการประชุมเชิงปฏิบัติการพร้อมมอบนโยบายเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการแก้ไขปัญหายาเสพติดพื้นที่กรุงเทพมหานคร ภายใต้แผนยุทธศาสตร์ 5 รั้วป้องกันในช่วงเวลาที่เหลือของปีงบประมาณ 2552 เพื่อลดระดับปัญหายาเสพติดของประเทศ และให้เป็นไปตามนโยบายของรัฐบาล โดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ได้รับเป้าหมายนำผู้เสพเข้าสู่ระบบสมัครใจ จำนวน 21,600 คน ซึ่งตั้งแต่ 1 เม.ย. - 20 ก.ค. 52 ดำเนินการได้เพียง 1,060 คน

มอบหมายหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานให้ชัดเจน ทำงานต่อเนื่อง มีประสิทธิภาพ

รองปลัดกทม. กล่าวยอมรับว่าปัญหายาเสพติดเป็นปัญหาร่วมกันของทุกคน ไม่สามารถแก้ไขได้ด้วยหน่วยงานใดเพียงหน่วยงานเดียว ทุกหน่วยงานต้องบูรณาการการทำงาน ใช้ทรัพยากร กำลังคนของแต่ละหน่วยงานให้เต็มกำลังจึงจะสามารถรับมือกับขนาดของปัญหาในระดับมหานคร และสนองตอบความต้องการของประชาชนในระดับชุมชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งหน่วยงานในสังกัดกทม.นั้นให้ทุกสำนักและสำนักงานเขตมอบหมายผู้รับผิดชอบงานด้านยาเสพติดในระดับรองผู้อำนวยการสำนัก และผู้ช่วยผู้อำนวยการเขต รวมทั้งเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานให้ชัดเจน เพื่อการทำงานที่ต่อเนื่อง มีประสิทธิภาพ ซึ่งต่อไปนี้การปฏิบัติจะเป็นหน้าที่ของสำนักงานเขต ดังนั้นเขตฯ จะต้องมีระบบข้อมูลยาเสพติดในแต่ละเขตแต่ละชุมชนที่ชัดเจนเพื่อให้การแก้ไขปัญหายาเสพติดเกิดผลสำเร็จอย่างเป็นรูปธรรม พร้อมกันนี้ขอความร่วมมือประชาชนหากพบเบาะแสยาเสพติด โปรดแจ้งโทร. 1386 เพื่อร่วมกันหยุดยั้งสถานการณ์ปัญหายาเสพติดในพื้นที่กรุงเทพฯ

เน้นทำงานเชิงพื้นที่ ลดจำนวนผู้ค้าและนำผู้เสพเข้ารับบำบัดโดยสมัครใจ

ทั้งนี้ กลยุทธ์ในช่วงเวลาที่เหลือของปีงบประมาณ 2552 จะมุ่งเน้นการดำเนินงานเชิงพื้นที่ โดยเน้นเป้าหมายที่กำหนดเป็นเป้าหมายแรก และให้มีการบูรณาการการปฏิบัติในพื้นที่เป้าหมายตามลำดับขอบกิจกรรม โดยมีตัวชี้วัดสำคัญ คือ การลดจำนวนผู้ค้า และการนำผู้เสพเข้าบำบัดโดยสมัครใจ โดยกระบวนการชุมชน ประชาสังคม หรือกึ่งบังคับสมัครใจ เพื่อให้เป้าหมายเฉพาะของพื้นที่กรุงเทพฯ 21,600 คนตามที่กำหนด โดยแจ้งสำนักงานเขต สำนักอนามัย กรมคุมประพฤติ สน.พื้นที่ หรือ ปปส.กทม. เพื่อนำเข้าค่ายปรับเปลี่ยนพฤติกรรมโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ขณะเดียวกันหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องเร่งรัดลดปัจจัยลบและปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิดปัญหาแหล่งมั่วสุขของเยาวชน เช่น สถานบันเทิง ร้านเกม อินเตอร์เน็ต และหอพัก พร้อมทั้งเสริมปัจจัยเชิงบวกด้วยกิจกรรมสร้างสรรค์ให้มากขึ้น

กำหนดพื้นที่ค้นหา 3 กลุ่มเป้าหมาย ผู้เสพ ผู้ค้า และกลุ่มเสี่ยง

ด้าน นายประยงค์ ปรียาจิตติ์ ผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติกรุงเทพมหานคร (ผอ.ปปส.กทม.) เปิดเผยว่า กรุงเทพมหานครเป็นพื้นที่เสี่ยงการแพร่ระบาดยาเสพติดทั้งปัญหาด้านการค้าและกลุ่มผู้เสพในระดับรุนแรง โดยมีการยกระดับจากผู้เสพสู่การเป็นผู้ค้ารายย่อยจำนวนมาก เนื่องจากการติดต่อซื้อขายทำได้ง่ายกว่าในอดีต อีกทั้งการแก้ไขปัญหาผู้กระทำผิดรายเก่ายังตกค้าง แต่รายใหม่ก็เพิ่มจำนวนมากขึ้นทุกขณะ ซึ่งจะต้องดำเนินการแก้ปัญหาเชิงคุณภาพ โดยการกำหนดพื้นที่เฉพาะและนำชุมชนเป็นตัวตั้งในการค้นหากลุ่มเป้าหมาย 3 กลุ่มไปพร้อมกัน คือ กลุ่มผู้เสพ ผู้ค้า และกลุ่มเสี่ยง โดยนำผู้เสพเข้าระบบการบำบัดรักษา การจับกุมผู้ค้า และการปรับพฤติกรรมของกลุ่มเสี่ยง เพื่อควบคุมปัญหาและสร้างระบบเฝ้าระวังในชุมชนให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น สำหรับชุมชนเป้าหมาย 441 ชุมชนแม้ในบางชุมชนจะปรับระดับเป็นชุมชนสีขาวแล้ว แต่จำเป็นต้องเฝ้าระวังต่อเนื่องและพัฒนาให้เป็นพื้นที่เชิงบวกต่อไป

สถานพยาบาลกทม.พร้อมรองรับผู้เสพเข้าบำบัดรักษา

พญ.ป่านฤดี มโนมัยพิบูลย์ ผู้อำนวยการกองป้องกันและบำบัดการติดยาเสพติด สำนักอนามัย กทม. กล่าวว่า ด้านการบำบัดรักษาและฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติดนั้น มีสถานพยาบาลรองรับด้านการรักษาและฟื้นฟู โดยในพื้นที่กรุงเทพฯ มีศูนย์บริการสาธารณสุข 68 แห่ง ซึ่งพร้อมให้คำปรึกษาปัญหายาเสพติด อีกทั้งมีคลินิกเพื่อบำบัดด้านยาเสพติดโดยเฉพาะอีก 18 แห่ง บ้านพิชิตใจ ศูนย์ซับน้ำตาวชิรพยาบาล และโรงพยาบาลตากสิน ซึ่งนับเป็นจุดแข็งของพื้นที่กรุงเทพฯ อย่างไรก็ตาม แนวทางการบำบัดรักษาเป็นการแก้ไขปัญหาที่ปลายเหตุ สิ่งสำคัญคือการป้องกันไม่ให้มีการแพร่ระบาดของยาเสพติด และเกิดโรคสมองติดยาในผู้เสพซึ่งจะทำให้สูญเสียสมองส่วนความนึกคิด เหลือแต่เพียงความต้องการยาเสพติดที่มากขึ้นเท่านั้น

หลายหน่วยงานร่วมประชุมขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ 5 รั้วป้องกันบูรณาการทำงานแก้ปัญหายาเสพติด

สำหรับการประชุมเชิงปฏิบัติการเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการแก้ไขปัญหายาเสพติดพื้นที่กรุงเทพมหานครในครั้งนี้ มีผู้เข้าร่วมประชุมประกอบด้วย กรุงเทพมหานคร กองบัญชาการตำรวจนครบาล กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในกรุงเทพมหานคร กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กระทรวงวัฒนธรรม กรมคุมประพฤติ และสำนักงาน ป.ป.ส. กระทรวงยุติธรรม รวม 400 คน โดยมีการอภิปรายแนวทางการขับเคลื่อนกิจกรรมสำคัญตามยุทธศาสตร์ 5 รั้วป้องกันในช่วงเวลาที่เหลือของปีงบประมาณ 2552 การบรรยายเกี่ยวกับระบบการรายงานผลการดำเนินงาน การบรรยายทิศทางการแก้ไขปัญหายาเสพติดในปีงบประมาณ 2553 การระดมความคิดเห็นของผู้แทนส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง เพื่อบูรณาการการทำงานแก้ไขปัญหายาเสพติดตามยุทธศาสตร์ 5 รั้วป้องกัน และกำหนดแนวทางในการแก้ไขปัญหายาเสพติด ตลอดจนจัดทำแผนปฏิบัติการรองรับให้ได้ประสิทธิผลอย่างยั่งยืนในอนาคต

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๐๙:๒๙ ศาสตราจารย์ ดร.องอาจ นัยพัฒน์ รับตำแหน่งผู้อำนวยการ สมศ.
๐๙:๒๑ จัดการประชุมสุดยอด One NTT DATA Summit เปิดเวทีชูพลังแห่งการเปลี่ยนแปลงของ AI และนวัตกรรมดิจิทัล
๐๙:๐๐ การเคหะแห่งชาติเดินหน้าชู บ้านเอื้ออาทรเมืองใหม่บางพลี ต้นแบบพัฒนาศักยภาพด้านอาชีพผู้อยู่อาศัย ลดความเหลื่อมล้ำเพื่อคุณภาพชีวิตที่ดี
๐๙:๑๖ SELIC เดินหน้า 3 ธุรกิจหลัก กาวอุตสาหกรรม - สติ๊กเกอร์ - ผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ หนุนรายได้ปี 68 เติบโต 2,400 ลบ. หรือ Double
๐๙:๑๕ สงกรานต์นี้บินสมุยสุดคุ้ม! บางกอกแอร์เวย์สขานรับนโยบายภาครัฐ เพิ่มเที่ยวบินพิเศษเส้นทางกรุงเทพ-สมุย พร้อมโปรลดสูงสุด30%
๐๙:๐๓ เอสไอจีได้รับการรับรองการลดปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอน ครอบคลุมทั้งบรรจุภัณฑ์และการดำเนินงานในไทย
๐๘:๒๓ Art Life : ICT Silpakorn 2025
๐๘:๒๘ สู่ 73 ปี กรมอนามัย น้อมนำพระมหากรุณาธิคุณของในหลวง พัฒนางานแม่และเด็ก ภายใต้มูลนิธิทีปังกร
๐๘:๓๒ มูลนิธิอายิโนะโมะโต๊ะ เปิดรับสมัครโรงเรียนเข้าร่วมโครงการ อายิโนะโมะโต๊ะ โภชนาการเพื่อเด็กไทย ก้าวไกลสร้างชาติ ประจำปี
๐๙:๒๐ ท่าเรือยูนิไทย เปิดตัว อุปกรณ์ปั้นจั่นพลังงานไฟฟ้ายกตู้สินค้าชุดใหม่ (New Ship-To-Shore Crane) ยกระดับอุตสาหกรรมขนส่งและโลจิสติกส์