ดร.ธราดล เปี่ยมพงศ์สานต์ โฆษกกรุงเทพมหานคร เปิดเผยภายหลังการประชุมผู้บริหารกรุงเทพมหานคร ครั้งที่ 23/2552 ซึ่งมี ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นประธานการประชุม เกี่ยวกับการสรุปผลการดำเนินโครงการยิ้มสู้..กู้สร้างอาชีพ หรือโครงการธนาคารประชาชน ณ วันที่ 31 ก.ค.52 พบว่ามีจำนวนผู้เข้าร่วมโครงการฯ ที่ได้รับการอนุมัติสินเชื่อแล้ว จำนวน 6,180 คน จำนวนเงิน 269.059 ล้านบาท แบ่งเป็นธนาคารออมสิน จำนวน 5,945 คน จำนวนเงิน 264.38 ล้านบาท ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย จำนวน 235 คน จำนวนเงิน 13.54 ล้านบาท
ทั้งนี้ ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทยจะเปิดให้บริการขอสินเชื่อตามโครงการยิ้มสู้..กู้สร้างอาชีพไปจนถึงสิ้นเดือนสิงหาคมนี้ ส่วนธนาคารออมสินจะยังคงให้บริการต่อไป โดยไม่จำกัดเวลาสิ้นสุดโครงการ พร้อมปรับหลักเกณฑ์การพิจารณาสินเชื่อใหม่ โดยให้สินเชื่อรายละไม่เกิน 1 แสนบาท คิดอัตราดอกเบี้ยคงที่ร้อยละ 0.5 ต่อเดือน สำหรับวงเงินกู้ไม่เกิน 30,000 บาท ใช้บุคคลค้ำประกันที่มีรายได้ประจำ 7,000 บาทขึ้นไป หรือเป็นผู้ประกอบการรายย่อยที่ธนาคารให้ความเชื่อถือ จำนวนไม่น้อยกว่า 1 คน และคิดอัตราดอกเบี้ยคงที่ร้อยละ 0.75 ต่อเดือน สำหรับวงเงินกู้ตั้งแต่ 30,001—100,000 บาท ใช้บุคคลค้ำประกันที่มีรายได้ประจำ 7,000 บาทขึ้นไป หรือเป็นผู้ประกอบการรายย่อยที่ธนาคารให้ความเชื่อถือ จำนวนไม่น้อยกว่า 2 คน หรือเป็นผู้มีรายได้ประจำตั้งแต่ 15,000 บาท จำนวนไม่น้อยกว่า 1 คน นอกจากนี้ผู้ขอสินเชื่อสามารถใช้หลักประกันอื่นๆ เช่น สมุดเงินฝาก สลากออมสิน ที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้าง ห้องชุด ที่ดินเปล่าที่ตั้งอยู่ในแหล่งชุมชนได้ด้วย โดยให้ผ่อนชำระเงินต้นพร้อมดอกเบี้ยคืน ไม่เกิน 5 ปี หรือ 60 งวด