แฟคเตอริ่งกสิกรไทย ตั้งเป้าเพิ่มยอดสินเชื่อปีนี้ 21% ครองอันดับหนึ่งในตลาด

พฤหัส ๑๓ สิงหาคม ๒๐๐๙ ๑๖:๒๓
แฟคเตอริ่งกสิกรไทยมองสินเชื่อแฟคเตอริ่งสดใส พลิกวิกฤตเป็นโอกาส ดันสินเชื่อแฟคเตอริ่งในประเทศกสิกรไทย เจาะกลุ่มลูกค้าธุรกิจ ใช้ใบแจ้งหนี้มายื่นแล้วรับเงินทันทีในวันถัดไป ตั้งเป้าปล่อยสินเชื่อปีนี้เพิ่มอีกกว่า 5,000 ล้าน พร้อมดันส่วนแบ่งตลาดเป็น 24% เป็นผู้นำตลาดต่อเนื่อง

นางพรรณี เลิศจรรยากุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท แฟคเตอริ่งกสิกรไทย จำกัด เปิดเผยว่า จากสถานการณ์สภาพเศรษฐกิจที่ชะลอตัว ส่งผลให้ผู้ประกอบการในบางธุรกิจมีความต้องการเงินทุนหมุนเวียนเพื่อเสริมสภาพคล่องในการดำเนินธุรกิจมากขึ้น ทางบริษัทฯ ได้เล็งเห็นโอกาสในการเข้ามาสนับสนุนเงินทุนหมุนเวียนแก่ผู้ประกอบการ โดยเฉพาะการให้บริการสินเชื่อแฟคเตอริ่งในประเทศกสิกรไทย (K-Local Factoring) ซึ่งเป็นสินเชื่อเงินทุนหมุนเวียนระยะสั้นไม่เกิน 120 วัน โดยผู้ประกอบธุรกิจสามารถนำลูกหนี้การค้ามาทำการโอนสิทธิการรับเงินเป็นหลักประกัน พร้อมรับเงินชำระล่วงหน้าได้สูงสุดถึง 80% ของมูลค่าลูกหนี้การค้าที่นำมาโอนสิทธิ ส่วนที่เหลือ 20% จะได้รับเมื่อลูกหนี้การค้าชำระเงินแล้ว

สินเชื่อแฟคเตอริ่งในประเทศกสิกรไทย ยังมีความคล่องตัวและยืดหยุ่นสูง เนื่องจากวงเงินสามารถขอปรับเพิ่มได้ตามมูลค่าของลูกหนี้การค้าที่นำมาโอนสิทธิ สามารถเบิกใช้เงินได้ตามความจำเป็น และสามารถรับเงินได้ในวันทำการถัดไปทันที นอกจากนั้นผู้ประกอบการยังได้รับบริการการเรียกเก็บหนี้ครบวงจร ซึ่งจะเป็นอีกทางเลือกที่น่าสนใจในการวางแผนทางการเงินสำหรับผู้ประกอบธุรกิจ โดยเฉพาะเอสเอ็มอี

สำหรับผู้ประกอบการที่สนใจสินเชื่อแฟคเตอริ่งในประเทศกสิกรไทย ต้องเป็นลูกค้านิติบุคคลผู้ประกอบธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อมที่มีสถานประกอบการอยู่ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล ชลบุรี ระยองและอยุธยา ดำเนินธุรกิจมาแล้ว 2 ปีขึ้นไป มีลูกหนี้การค้าที่มีคุณภาพและมีเอกสารการค้าที่ชัดเจน ถึงแม้จะมีเงินทุนหรือหลักประกันที่จำกัดหรือไม่เพียงพอในการขอสินเชื่อกับธนาคารก็ตาม

นางพรรณี กล่าวในตอนท้ายว่า ในช่วงที่ผ่านมาแม้เศรษฐกิจชะลอตัว แต่บริษัทได้พลิกวิกฤตให้เป็นโอกาส โดยพยายามเจาะกลุ่มลูกค้าที่มีความต้องการเงินทุนหมุนเวียนเพื่อเสริมสภาพคล่องในการดำเนินธุรกิจมากขึ้นแต่มีข้อจำกัดเรื่องหลักประกัน ส่งผลให้ผลการดำเนินงานของบริษัทยังคงมีการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2551 มีปริมาณธุรกิจถึง 23,600 ล้านบาท และคาดว่าในปีนี้จะสามารถเพิ่มปริมาณธุรกิจได้อีกกว่า 5,000 ล้านบาทหรือเพิ่มขึ้นประมาณ 21% และเพิ่มส่วนแบ่งการตลาดจาก 21% เป็น 24% ซึ่งจะทำให้บริษัทครองความเป็นผู้นำอันดับหนึ่งในตลาดแฟคเตอริ่งในประเทศไทย

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๗:๒๑ 60 ปีแห่งความมุ่งมั่น! คาโอ คว้ารางวัลอุตสาหกรรมดีเด่น 2 ประเภทในปี 2567 ชูความสำเร็จด้านสิ่งแวดล้อมและความรับผิดชอบต่อสังคม
๑๗:๒๓ AVATR ก้าวสู่ความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่! ระดมทุนในรอบ Series C ได้มากกว่า 11,000 ล้านหยวน พร้อมก้าวสู่ความเป็นผู้นำในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าหรูหราแห่งอนาคต
๑๗:๐๖ Zoom เปิด 10 เทรนด์ ใช้ AI ในการทำงานปี 2568
๑๗:๑๐ เปิดมุมมองอาชีพที่หลากหลายในอุตสาหกรรมกาแฟไทย เจาะลึกบทบาทและแนวทางยกระดับสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน
๑๗:๑๔ อนาคตแห่งการเดินทาง: 5 คนขับ AI จากแอปเรียกรถ Maxim
๑๗:๕๕ Well-Being House บ้านชั้นเดียวเอาใจคนวัยเกษียณ
๑๗:๑๖ กทม. แจงเปิดกว้างการแข่งขันโครงการเช่าคอมพิวเตอร์พกพาสำหรับนักเรียน
๑๖:๓๗ รายงาน Ericsson Mobility Report ฉบับล่าสุด เผยผู้เริ่มให้บริการ 5G กลุ่มแรกกำลังมุ่งสู่โมเดลธุรกิจที่เน้นประสิทธิภาพ
๑๗:๒๕ เมดีซ กรุ๊ป ร่วมสมทบทุนสนับสนุนมูลนิธิโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราช ช่วยผู้ป่วยในชนบท ถิ่นทุรกันดารที่ห่างไกล
๑๖:๔๔ CNN จับตา นวัตกรรมล่าสุดจากนักวิจัยไทย พลิกโฉมการตรวจคัดกรองความเครียดด้วย เหงื่อ