ดร.ประกอบ จิรกิติ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร แจ้งในที่ประชุมหัวหน้าหน่วยงานของกทม. ภายหลังการหารือร่วมกับการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) ในการใช้พื้นที่ในเขตทางพิเศษเพื่อใช้ประโยชน์สาธารณะตามนโยบายของผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ซึ่งการทางพิเศษฯ มีนโยบายในการใช้ประโยชน์พื้นที่ในเขตทางพิเศษ 3 ลักษณะ ได้แก่ เพื่อการสาธารณประโยชน์ในการจัดเป็นลานสาธารณะ เพื่อส่งเสริมและแก้ไขปัญหาจราจร เช่น ลานจอดแล้วจร (Park & Ride) และเพื่อใช้ประโยชน์ในเชิงพาณิชย์ ตาม พ.ร.บ.การทางพิเศษฯ ฉบับแก้ไขเพิ่มเติม
รองผู้ว่าฯ ประกอบ กล่าวว่า เพื่อเป็นการสนับสนุนนโยบายของผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กทม. ขอให้สำนักและสำนักงานเขตรวบรวมแผนงานในการใช้ประโยชน์พื้นที่เขตทางพิเศษหรือพื้นที่ใต้ทางด่วน อาทิ จัดทำลานกีฬาเพื่อส่งเสริมสุขภาพคนกรุงเทพฯ จัดทำสวนหย่อมเพิ่มพื้นที่สีเขียว และประโยชน์อื่นๆ ตามนโยบายของผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครเสนอต่อการทางพิเศษฯ ก่อนที่จะมีการนำพื้นที่ดังกล่าวไปใช้ประโยชน์อื่นในเชิงพาณิชย์ นอกจากนี้ขอให้สำนักและสำนักงานเขตที่ใช้ประโยชน์พื้นที่ของการทางพิเศษฯ ในปัจจุบัน ดูแลและปรับปรุงพื้นที่ให้อยู่ในลักษณะพร้อมใช้งาน และมีสภาพแวดล้อมที่ดีอย่างต่อเนื่อง
ด้านนางทยา ทีปสุวรรณ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวด้วยว่า กทม.มีสัญญาในการใช้พื้นที่ในเขตทางพิเศษหรือพื้นที่ใต้ทางด่วนรวม 5 ปี ตั้งแต่ปี 2551-2556 ซึ่งได้แจ้งให้หน่วยงานที่ดูแลรับผิดชอบตรวจสอบการใช้ประโยชน์และปรับปรุงให้อยู่ในสภาพดี และไม่ให้มีการทำการค้าหรือใช้พื้นที่ผิดวัตถุประสงค์ โดยในส่วนของพื้นที่ที่กทม.นำมาพัฒนาเป็นลานกีฬา ขณะนี้สำนักวัฒนธรรม กีฬา และการท่องเที่ยว ได้ประสานงานกับภาคเอกชนเพื่อขอรับการสนับสนุนและเป็นเจ้าภาพในการปรับปรุงลานกีฬา รวมทั้งอุปกรณ์กีฬาให้มีประสิทธิภาพที่สุด ตลอดจนประสานกับมหาวิทยาลัยในการจัดนักศึกษาด้านวิทยาศาสตร์การกีฬาเข้ามาฝึกอบรมและให้ความรู้แก่อาสาสมัครลานกีฬาด้วย